ผู้พันคลิปกร่างขอโทษสังคม เป็นผู้พันจริง เผยเจอให้’กล้วย’ก่อน ทำโมโหขาดสติ(มีคลิป)





 

"พันตรี" ในคลิปมีปากเสียงกลางถนนเข้าพบตำรวจ พร้อมขอโทษสังคม-คู่กรณีที่แสดงกิริยาไม่สุภาพ ยอมรับถูกให้ของลับจึงโมโหขาดสติ ด้านตร.สั่งปรับทั้งสองฝ่าย

จากการณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "ฝันให้ไกล ไปให้ถึง "นำคลิปภาพเหตุการณ์ ทะเลาะมีปากเสียงกันอย่างดุเดือดกับกลุ่มครอบครัวหนึ่ง บริเวณริมถนนสายเอเชีย อ.เมืองนครสวรรค์ ในเรื่องการขับรถปาดหน้าและไม่พอใจที่ถูกให้ของลับ จนกระทั่ง มีชายวัยกลางคนในกลุ่มของครอบครัวอ้างว่าเป็น ผู้พัน และท้าให้ไปแจ้งความกับตำรวจนั้น

ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังจากทราบว่า พ.ต.ท.บุญเชิด จันทร์มณี รอง ผกก. (สอบสวน) ได้มีการนัดผู้ที่ปรากฏอยู่ในคลิปและผู้ถ่ายคลิปมาสอบปากคำ เบื้องต้นทราบชื่อผู้ถ่ายคลิป คือ น.ส.ปทุมวรรณ อายุ 31 ปี และอีกฝ่าย คือ พ.ต.สิรภพ มธุรส หัวหน้างานธุรการ โรงงานวัตถุระเบิดทหาร ในพื้นที่ ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ แต่การนัดหมายปรากฏว่า มี พ.ต.สิรภพ มาเข้าพบเพื่อให้ปากคำเพียงรายเดียวเท่านั้น เนื่องจาก น.ส.ปทุมวรรณ ผู้ถ่ายคลิป ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ว่า ติดธุระอยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำได้

จากการสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.สิรภพ ได้รับการเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 เม.ย. เวลา 11.00 น. ได้ขับรถกระบะพาภรรยาและบุตรสาวอีก2คน เดินทางไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองนครสวรรค์ โดยในขณะกำลังขับรถลงสะพานเดชาติวงศ์ ปรากฏว่ารถข้างหน้ามีการชะลอตัว เพราะติดไฟแดงสี่แยก จึงตัดสินใจเปลี่ยนเลนไปทางซ้าย จากนั้นได้ถูกรถจักรยานยนต์ของคู่กรณีตามหลังมาบีบแตรใส่ พร้อมขี่มาประกบให้ของลับ อีกทั้ง ยังมีการท้าทายให้ขับตามไป ตนรู้สึกโมโห จึงได้ขับไล่ตามไป จนกระทั่ง จอดรถแล้วลงไปมีปากเสียงกันตามที่ปรากฏอยู่ในคลิป

"ผมยอมรับว่า รู้สึกโมโหมาก ที่ถูกคู่กรณีให้ของลับ และระหว่างที่จอดรถลงมาทะเลาะกัน ฝ่ายของคู่กรณีก็ใช้วาจายั่วยุอยู่ตลอด พร้อมกับมาถามว่าเป็นใคร จึงทำให้ผมตัดสินใจบอกว่าเป็นผู้พัน โดยหวังให้อีกฝ่ายเกรงใจ จะได้หยุดทะเลาะกันเพียงเท่านั้น แต่สุดท้าย ผมก็รู้สึกผิด ที่ไม่ยอมระงับอารมณ์ หากไม่สนใจกับการถูกยั่วยุ เรื่องก็คงไม่เกิดขึ้นเช่นนี้ ผมอยากขอโทษสังคมกับพฤติกรรมที่ดูไม่เหมาะสม รวมถึงฝากขอโทษคู่กรณีที่ใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพด้วย"พ.ต.สิรภพ กล่าว

ด้าน พ.ต.ท.บุญเชิด เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ฐานทะเลาะวิวาทกันในที่สาธารณะกับทั้ง 2 ฝ่าย มีโทษปรับรายละ 500 บาท ส่วนการที่ น.ส.ปทุมวรรณ ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามนัด โดยระบุว่าติดธุระอยู่ต่างจังหวัดนั้น เจ้าหน้าที่จะมีการนำหมายเรียกส่งไปถึงบ้าน เพื่อเชิญมาสอบปากคำก่อนแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

ข่าวจาก : Posttoday
คลิปจาก : เดลินิวส์ออนไลน์

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: