จากกรณี นายปนิตา คชประภา อายุ 25 ปี หรือ น้องแนท สาวประเภทสอง พนักงานเสิร์ฟโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.พระนคร ศรีอยุธยา เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายสุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ ผู้อำนวยการโครงการเขตอุตสาห กรรมนวนครสูงเนิน จ.นครราชสีมา ใช้ฝ่ามือตบหน้าอย่างแรงหลังจากไม่พอใจที่ถูกห้ามสูบบุหรี่ในห้องอาหาร เนื่องจากไม่มีตัวดูดอากาศแล้วยังจะทำให้สัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้น อีกทั้งยังผิดกฎของโรงแรมด้วย เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 6 พ.ย. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 24 พ.ย. พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า คดีนี้เมื่อมีการแจ้งความแล้วตำรวจก็พร้อมดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่ ไม่ว่าคู่กรณีจะเป็นใครหรือใหญ่มาจากไหน โดยพนักงานสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา ได้ออกหมายเรียกนายสุรสีห์ให้มารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว ซึ่งการออกหมายเรียกครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 หากผู้ถูกกล่าวหายังไม่ยอมเดินทางมาพบตำรวจอีก ก็จำเป็นจะต้องออกหมายจับ ตามขั้นตอน แต่ล่าสุดได้รับการติดต่อจาก นายสุรสีห์ ว่าจะเข้ามาพบวันที่ 25 พ.ย. นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังได้เชิญตัวผู้เสียหายมาที่โรงพักพร้อมกันด้วย เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ให้ปากคำพร้อมๆ กัน หวังให้พูดคุยเจรจาตกลงกันก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อไป ซึ่งอาจมีทางออกที่ดีให้กับทั้งคู่
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก “ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม” โดย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “ชมรมฯ รับดูแลให้การช่วยเหลือคดี “น้องแนท” ที่ถูก ผอ.ตบ ในโรงแรมที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จึงแจ้งมาให้ทราบโดยทั่วกัน ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ทำผิดต้องรู้จักขอโทษ ลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ให้เวลาถึงวันจันทร์ ไม่มาคุยจะให้ทนายฟ้องศาลเอง ให้โอกาสแล้ว”
ส่วนที่โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จ.พระนคร ศรีอยุธยา น.ส.เศรณีย์ จุฬาเสรีกุล รอง ผอ.สำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ พร้อมทีมนิติกร กลุ่มพัฒนาและบังคับใช้กฎหมาย ได้รับมอบหมายจาก นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัยอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้เดินทาง มาให้กำลังใจนายปริตา คชประภา พร้อมเข้าพบผู้บริหารโรงแรม โดยได้ชื่นชมพฤติกรรมของนายปนิตา ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากเจ้าของสถานที่ไม่มีมาตรการ หรือปล่อยให้มีการสูบบุหรี่ในสถานที่ห้ามสูบก็จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2560 เช่นกัน ส่วนการแจ้งเตือนแล้ว ถูกทำร้ายร่างกายนั้นต้องว่ากันไปตามกฎหมายคดีอาญา
ต่อมาเวลา 16.00 น. ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา นายสุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ ผอ.โครงการเขตอุตสาหกรรมนวนคร นคร ราชสีมา เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รอง ผบก. พ.ต.อ.อนุสรณ์ วะยาคำ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียก โดยมีนายปนิตา คชประภา พนักงานเสิร์ฟอาหารของโรงแรมกรุงศรีริเวอร์ คู่กรณีอยู่ในห้องประชุมด้วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ให้ทั้งสองคนพูดคุยตกลงไกล่เกลี่ยกันในเบื้องต้น
โดยนายสุรสีห์ได้กล่าวขอโทษเเละแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อนาย ปนิตา และได้มอบเงินสินไหมตอบแทนให้จำนวนหนึ่ง ด้านนายปนิตาพอใจกับการขอโทษและยอมรับเงินสินไหม และได้แจ้ง กับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอถอนแจ้งความ โดยไม่ต้องการดำเนินคดีกับนายสุรสีห์แล้วทั้งทางแพ่งและอาญา พนักงานสอบสวนจึงได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน พร้อมเปรียบเทียบปรับนายสุรสีห์เป็นเงิน 1 พันบาท ในข้อหาใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ จากนั้นนายปนิตา และนายสุรสีห์ ได้แยกย้ายกันเดินทางกลับทันที
หลังเดินทางกลับนายปนิตาได้โพสต์ เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุข้อความว่า กราบขอบคุณ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ท่านผู้บังคับการ ท่านผู้กำกับและเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท่าน ฝ่ายบริหารโรงแรมและเพื่อนๆ พี่ๆ สื่อมวลชน และสื่อ Social ทุกท่าน น้องแนทขอแจ้งว่าตอนนี้น้องแนทได้รับความเป็นธรรมและคำขอโทษจากท่าน ผอ.สุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ เรียบร้อยแล้วนะคะ น้องแนทน้อมรับ คำขอโทษจากท่านโดยไม่ติดใจเอาความ และถือว่าได้รับเกียรติและศักดิ์ศรีของแนทคืนมาค่ะ กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจน้องแนทนะคะ
ด้านชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ของทนายอัจฉริยะ ก็ได้โพสต์ถึงประเด็นนี้ว่า ยอมรับว่าเป็นการจบคดีแบบงงๆ แต่ก็ยอมรับในการตัดสินใจของผู้เสียหาย แต่อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่าการเจรจาไกล่เกลี่ยกันครั้งนี้ได้มีการจ่ายค่าชดเชยและค่าทำขวัญให้ผู้เสียหายเป็นเงิน 40,000 บาทด้วย
วันเดียวกัน หลังจากมีบางสำนักข่าวเสนอประวัตินายสุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ ว่าเคยเป็นนักข่าวบันเทิงข่าวสดนั้น เป็นข่าว ที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด และเว็บไซต์ข่าวสด ซึ่งมีบริษัทข่าวสดเป็นเจ้าของ ผลิตข่าวสารนำเสนอประชาชนมาตลอด 28 ปี ไม่เคยมีชื่อนายสุรสีห์ แห่งศรีสุวรรณ เป็นนักข่าวในสังกัดแต่อย่างใด
ขอบคุณภาพจาก : Khaosod
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ