จากกรณีที่ เฟซบุ๊กของ วาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหาร เผยแพร่บทความของผู้ใช้นามปากกา “เสืออากาศ24/7” ระบุว่าว่าเป็นนายพลทหารอากาศ เขียนบทความวิจารณ์การที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปร่วมงานปีใหม่ม้ง และกล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่จะขับเคลื่อนเรื่องที่ดินอย่างจริงจัง ทำเรื่องทรัพยากร สิทธิชุมชน ดิน น้ำ ป่า แบบเข้าใจวิถีชีวิตของพี่น้องชาติพันธุ์ โดย “เสืออากาศ24/7” ระบุว่า ม้ง ควรอยู่ในฐานะผู้อาศัยไม่มีสิทธิ์ในแผ่นดินไทย
ต่อมา นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ แบบบัญชีรายชื่อ กลุ่มชาติพันธ์กะเหรี่ยง ตอบโต้ว่า ความเป็นไทยมาจากการรวมกันของผู้คนที่แตกต่างหลากหลาย พี่น้องชาติพันธุ์อยู่บนแผ่นดินนี้มาก่อนเป็นรัฐไทย ก่อนที่จะเป็นชาติไทย ก่อนที่จะมีการประกาศกฎหมายอุทยาน กฎหมายป่าสงวนทับพื้นที่
วันที่ 29 ธ.ค. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ความมั่นใจรัฐบาลดูแลคนไทยและทุกชาติพันธุ์ที่อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง และขอร้องอย่านำประเด็นชาติพันธุ์มาสร้างความสั่นคลอนต่อความรักสามัคคีของคนในชาติ เชื่อมั่นว่าทุกคนบนแผ่นดินไทยต่างมีความรักประเทศไทยและอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข โดยรัฐบาลยืนยันดูแลทุกกลุ่มทุกชาติพันธุ์ตามกฎหมายและหลักมนุษยธรรม
สำหรับ ชาติพันธุ์ม้งที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นชนกลุ่มน้อยเช่นเดียวกับกลุ่มบุคคลบนพื้นที่สูง เช่น ชาวเขาเผ่าต่างๆ ไทยใหญ่ จีนฮ่อ ไทยลื้อ และกลุ่มอื่นๆ ที่รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาเรื่องสถานะและสิทธิ โดยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เกี่ยวข้องหลายมติ ได้แก่
1. มติ ครม. วันที่ 7 ธ.ค.2553 กำหนดให้ชนกลุ่มน้อยที่ราชการได้จัดทำทะเบียนประวัติ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่ได้เกิดในประเทศไทย ให้สถานะเป็นคนต่างด้าวที่เข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย (ให้ขอใบสำคัญถิ่นที่อยู่) และถ้าจะขอมีสัญชาติไทย ให้ขอแปลงสัญชาติ
2. มติ ครม วันที่ 7 ธ.ค. 2559 กำหนดให้บุตรของชนกลุ่มน้อยที่เกิดในประเทศไทยสามารถขอมีสัญชาติไทยได้ตามกฎหมายว่าด้วยสัญชาติ โดยรัฐมนตรีมหาดไทยมอบอำนาจให้นายอำเภอเป็นผู้อนุมัติ กรณีผู้ขอสัญชาติอายุไม่เกิน 18 ปี และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อนุมัติกรณีผู้ขอสัญชาติอายุเกิน 18 ปี
3. มติ ครม. วันที่ 5 ก.ค. 2548 กำหนดให้เด็กทุกคนทั้งไทยและต่างด้าวที่ไม่มีเอกสารทะเบียน สามารถเข้าเรียนหนังสือในระดับการศึกษาภาคบังคับได้ทุกรายโดยรัฐสนับสนุนงบรายหัวให้ทุกปี
4. มติ ครม วันที่ 23 มี.ค. 2553 และ 20 เม.ย. 2558 อนุมัติให้สิทธิการรักษาพยาบาลแก่ชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชาติพันธุ์ที่รัฐสำรวจจัดทำทะเบียนไว้ทุกคนโดยรัฐสนับสนุนงบรายหัวให้ทุกปี
นางนฤมล กล่าวด้วยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้เป็นเวลาที่ทุกคนจะได้มีความสุข ได้อยู่ร่วมกับครอบครัว ขออย่าได้จุดประเด็นความขัดแย้งให้เกิดความขัดข้องหมองใจ และในช่วงเทศกาลนี้ รัฐบาลพร้อมดูแลพี่น้องประชาชนทุกคนให้เดินทางกลับบ้านเยี่ยมครอบครัวโดยสวัสดิภาพ และสั่งการให้ทุกหน่วยพร้อมช่วยเหลือประชาชนและอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ