การสวดมนต์เป็นการยกระดับจิตใจให้เป็นสมาธิด้วยการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เป็นกรรมฐานอย่างหนึ่งในประเภท สมถะกรรมฐาน ซึ่งย่อมมีอานิสงส์มาก นอกจากจะช่วยทำให้จิตใจผ่องใสแล้ว ยังช่วยลดวิบากกรรมลงได้อย่างมาก บรรเทากรรมได้หลาย ๆ เรื่อง (ไม่ได้ลบล้างกรรมให้หมดจด กรรมดีก็เหมือนน้ำดี กรรมชั่วก็เหมือนน้ำเสีย หากเราสวดมนต์มาก ๆ ก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาเหมือนกับเติมน้ำดีให้มาก ๆ ไปเจือจางน้ำเสียลง)
ภาพประกอบจาก scoop.mthai.com
ผมมีเทคนิคที่การสวดมนต์ที่ได้บุญ 2 ต่อ หรือ 2 เด้ง (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน) นั่นคือ การสวดมนต์ข้ามวัน ซึ่งถือว่าเป็นแจ๊กพ็อตการทำบุญก็ว่าได้ หมายถึงการสวดมนต์ที่ข้ามช่วงเวลาระหว่างวันหนึ่งไปอีกวันหนึ่ง เท่ากับเราได้สวดมนต์ถึง 2 วัน
ถามว่าจะมีผลบุญมากกว่าสวดในระหว่างวันหรือไม่? ต้องตอบว่า บุญจะเกิดขึ้นได้ที่ใจของผู้สวด ไม่ใช่อยู่ที่ช่วงเวลา การสวดมนต์ที่ได้บุญใหญ่ วัดกันที่สภาวะของจิตใจที่ห่างไกลจากนิวรณธรรมมากเท่าใด ผลบุญย่อมกระจ่างชัดเท่านั้น
แต่ที่แนะนำว่าสวดข้ามวันนั้น เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เราทำบุญ เทวดาประจำตัวหรือเทวดาที่ทำหน้าที่จดบันทึกบุญบาปของเรา ที่จะบันทึกบุญของเราเป็นรายวันว่า วันนี้คนผู้นี้ ทำบุญใดบ้าง เพื่อไปประมวลความดีความชั่วของคนนั้นเมื่อคนนั้นไปจบชีวิตไป
การสวดมนต์ข้ามวันนั้น ทำให้เทวดาท่านจะจดบันทึกผลบุญของเราเป็น 2 วัน เพราะเขาจะบันทึกเป็นตารางวัน แต่การนับวันใหม่นั้น สำหรับเมืองไทยเรายังต้องใช้เวลา 6.01 เช้า จึงเป็นวันใหม่ ไม่ใช่หลัง 24.00 ซึ่งเป็นเวลาของสากล ที่เมืองไทยเพิ่งมาเปลี่ยนตามหลักเวลาสากลเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้ (เวลาจริง ๆ ที่นับวันใหม่ของทางโลกทิพย์ คือ เวลา 6.01 ซึ่งเป็นเวลาทางจันทรคติ แม้แต่สมัยพุทธกาลนับวันใหม่ตามนี้ )
สมมติว่า ปกติเราจะ สวดมนต์โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่เราสวดระหว่างวัน คือ 6.00 ถึง 24.00 เท่ากับเราสวดมนต์ 1 วัน เช่น สวดในช่วงเวลา 7.30 ถึง 8.00 บุญของเราจากการสวดมนต์เวลานี้จะนับเป็น 1 วัน
แต่หากเราสวดมนต์ 30 นาที เท่าเดิม แต่สวดในช่วงเวลา 05.40 ถึง 06.10 เท่ากับเราสวดมนต์ 2 วัน ท่านก็จะบันทึกว่าเราสวดมนค์ วันแรก เวลา 5.40 ถึง 5.59 และสวดวันที่ 2 เวลา 6.00 ถึง 6.10
****เมื่อมีการพิจารณาผลบุญของเราที่ทำมา ก็จะถูกพิจารณาเป็นรายวัน ว่าวันใดเราทำบุญบ่อยแค่ไหน
ถ้าเราสวดมนต์ เดือนละ 10 วันๆ 30 นาที ตลอดเวลา 1 ปี เท่ากับ จะถูกบันทึกว่าเราสวดมนต์ 120 วัน ต่อปี
แต่ถ้าเราสวด เดือนละ 10 วัน เหมือนกัน แต่สวดข้ามวันตลอด 1 ปี จะถูกบันทึกว่าเราสวดมนต์ 240 วัน ต่อปี
กำลังบุญนั้น ขึ้นกับ สภาวจิตที่เป็นสมาธิ แต่ความบ่อยหรือความถี่ในการสวดมนต์ ถ้าสวดข้ามวัน จะได้อานิสงส์มากกว่าสวดระหว่างวัน ทางผู้รู้มากมายที่เข้าใจเรื่องนี้ จึงแนะนำให้สวดมนต์ข้ามวันกัน
โดยสรุปก็คือ อาจเรียกว่าทำบุญแบบศรีธนญชัย หรือแอบใช้ช่องโหว่ของกฎหมายก็ว่าได้ เพราะกฎเขาว่ามาแบบนี้ ใครรู้ช่องของกฎนี้ ย่อมได้เปรียบกว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกรักไร้พ่าย เว็บไซต์ yantip.com
เรียบเรียงโดย Thaijobsgov
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ