13 พฤศจิกายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย ได้ตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยมี นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการ อว. พร้อมผู้บริหาร และบุคลากรให้การต้อนรับ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยนายอนุทินได้เข้าถวายสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) จากนั้นขึ้นรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า EV (MuvMi) ที่ผลิตโดยคนไทยเพื่อแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และลดการใช้พลังงานน้ำมันที่กระทรวง อว.ให้การสนับสนุนภาคเอกชนเพื่อมาชมนิทรรศการการจัดแสดงผลงานเด่นของหน่วยงานต่างๆ ของ อว. ก่อนมอบนโยบายให้กับผู้บริหาร อว.
นายอนุทินกล่าวมอบนโยบายว่า ได้เน้นย้ำให้ อว.ให้ความสำคัญในการตอบโจทย์ความต้องการของประเทศ และของโลก และให้ความสำคัญกับ “การพัฒนาที่ยั่งยืน” ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ โดยดําเนินการภายใต้หลักการ “เอกชนนํา รัฐสนับสนุน”
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ที่สำคัญวาระเร่งด่วนที่ อว.ต้องดำเนินการทันที คือ การลดความเหลื่อมล้ำ และกระจายโอกาสการเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โดยการให้ อว.และที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองและนักเรียน ในการสมัครคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยผ่านระบบการรับสมัครสอบกลาง ประจําปี 2567 หรือ “TCAS 67” ในรอบแอดมิชชั่นส์ ซึ่งเป็นรอบที่มีนักเรียนจํานวนมากที่สุด กว่า 125,000 คนต่อปี เข้ามาสมัคร
“ผมขอประกาศข่าวดีว่า อว.และ ทปอ.จะนํางบประมาณมาอุดหนุนการสมัครในรอบแอดมิชชั่นส์ โดยจะเริ่มตั้งแต่ ‘TCAS 67’ ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย โดยให้นักเรียนแต่ละคน สามารถสมัครเลือกคณะ 1-10 อันดับได้ฟรี เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระได้สูงสุดคนละ 900 บาท ถือเป็นหนึ่งในความพยายามระยะสั้นในการลดค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงการศึกษา ขณะที่รัฐบาลกําลังพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเติบโตอย่างแข็งแรง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับเยาวชนไทยได้มีทางเลือกในการศึกษาในระดับอุดมศึกษามากขึ้น” นายอนุทินกล่าว
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ตนในฐานะกำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย อว. กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญในการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมวิทยาศาสตร์ สังคมแห่งการเรียนรู้ สังคมแห่งเหตุผล และ สังคมแห่งปัญญา โดย อว.มีองค์ความรู้มากมายที่พร้อมจะถ่ายทอดให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพ แต่การถ่ายทอดนั้นยังเป็นไปอย่างจำกัด องค์ความรู้เหล่านั้นจึงอยู่ในกระทรวง แต่ไม่ได้รับการนำเสนอ และถ่ายทอดไปถึงประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างทั่วถึง ดังนั้น อว.ต้องรับเป็นนโยบายให้ความสำคัญกับการเผยแพร่องค์ความรู้ในรูปแบบและช่องทางที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศในภาพรวม
“เมื่อครั้งที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ปรับเปลี่ยนมุมมองในการทำงานของกระทรวงให้เป็นหนึ่งในกระทรวงเศรษฐกิจเพราะความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชนคือรากฐานที่สำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศ อว.ก็เช่นกัน ภายใต้การนำของ รมต.ศุภมาส อิศรภักดี อว.จะก้าวสู่ความเป็นกระทรวงเศรษฐกิจที่จะเป็นเสาหลักทางปัญญา และนำพาโอกาสทางเศรษฐกิจสู่ประชาชนต่อไป” นายอนุทินกล่าว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ