เมื่อต้องไปติดต่อที่ว่าการอำเภอ เทศบาล หรือสำนักงานเขตเพื่อทำบัตรประชาชน หลายคนอาจจะสงสัยว่าเหตุใดทางสำนักงานจึงยังใช้กล้องแบบเก่ามาก เช่นเดียวกับที่ สมาชิกหมายเลข 3919600 ก็สงสัยว่า "สังเกตหลายที่ละว่าทำไมต้องต้องใช้กล้อง vdo ถ่าย อะไรคือเหตุผลที่ต้องใช้กล้องประเภทนั้น"
ซึ่งสาเหตุที่ต้องใช้กล้องโบราณอยู่ ก็มีเหตุผลเช่น
รูปในบัตรเล็กนิดเดียว กล้องวิดีโอก็ถ่ายได้ความละเอียดพอแล้ว
โปรแกรมน่าจะรันบน Windows ซึ่งคนเขียนโปรแกรมมีไลบารี่ติดต่อกับกล้องวิดีโอได้ง่ายกว่า (เคยเขียนมาก่อน)
สมัยนั้นยังไม่มีกล้อง Mirrorless ถ้าใช้ DSLR กดถ่ายมันจะยุ่งยากนิดนึงเพราะไม่เห็นภาพทันทีผ่านหน้าจอ
เอาจริงๆกล้อง DSLR มันก็มีระบบ Live View และเชื่อมต่อกับคอมได้เหมือนกัน.. แต่ราคากล้องขั้นต่ำก็หลักหมื่นแล้ว จะซื้อแจกทุกอำเภอก็คงไม่ไหว
จะประหยัดงบให้เหลือหลักพันก็คงมีแค่ Camcorder กับกล้อง Compact เท่านั้นแหละครับ ซึ่งกล้อง Compact งบเท่านั้นส่วนมากสั่งการผ่านคอมไม่ได้หรอก แถมมีข้อจำกัดหลายๆอย่างอีกเช่น เสียบปลั๊กที่ตัวกล้องไม่ได้ ต้องเอาถ่านออกมาชาร์ตอะไรแบบนี้
เพราะงั้นหวยก็เลยออกที่ Camcorder นั่นแหละครับ และคงจะไม่เปลี่ยนกันง่ายๆตราบเท่าที่ระบบนี้ยังคงใช้งานได้ดีอยู่ เพราะเปลี่ยนทั้งประเทศมันยุ่งยากมาก
เมื่อเริ่มแรก ที่ไม่ได้ใช้กล้องฟีล์มถ่ายรูปทำบัตรประชาชน มันเป็นยุคก่อนที่กล้องถ่ายรูปดิจิตอลจะแพร่หลายและมีมากมายหลายรุ่นแบบทุกวันนี้
การเซทระบบใหม่ ต้องการกล้องอะไรสักตัว ที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ส่งสัญญานภาพให้คอมพิวเตอร์ นำไปประกอบกับภาพข้อมูลบัตร และส่งต่อให้เครื่องพิมพ์ ซึ่งในยุคแรกๆนั้น ถึงจะถ่ายด้วยระบบนี้ ก็จะยังไม่ได้บัตรในทันที เพราะเทคโนโลยีการพิมพ์บัตรยังแพงมาก ไม่ได้มีเครื่องในทุกอำเภอหรือเขต ต้องส่งข้อมูลไปส่วนกลางเพื่อพิมพ์บัตร และนัดให้มารับในภายหลัง
กล้องในยุคแรกนั้นจึงเป็นกล้องวีดีโอ ซึ่งหาได้ง่ายกว่ากล้องถ่ายรูปดิจิตอล และเมื่อมันยังใช้งานได้ บางแห่งเขาก็ใช้กันต่อๆมาจนวันนี้
ดังนั้น จึงพอสรุปได้ว่า ทางหน่วยงานราชการต้องการประหยัดงบประมาณ อุปกรณ์อันใดยังใช้ได้ดี แต่สเปคก็เหมาะสมกับการใช้งานอยู่ ก็ยังใช้ต่อไปเรื่อยๆ จึงไม่จำเป็นต้องซื้อกล้องรุ่นใหม่อย่างที่เราเห็นกันทั่วไปฉะนี้แล
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://pantip.com/topic/37416697
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ