ถือเป็นประจำทุกปี ที่นิตยสาร “ฟอร์บส ไทยแลนด์” จะได้ประกาศรายชื่อมหาเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดของโลกและของประเทศไทย โดยเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม นิตยสาร ฟอร์บส์ ได้ประกาศรายชื่อทำเนียบมหาเศรษฐี 50 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยมีทรัพย์สินรวมกันทะยานขึ้นเป็นกว่า 1.62 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นหนึ่งในสามจากปีที่แล้ว ที่ฟอร์บส คาดการณ์ว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจของไทยกลับมากระเตื้องอีกครั้ง บวกกับตลาดหุ้นขาขึ้นและเงินบาทที่แข็งค่า โดยฟอร์บส ได้จัดอันดับผ่านการถือหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ และจากคนกำกับดูแล รวมถึงทรัพย์สินของครอบครัวและทรัพย์สินที่ถือครองโดยสมาชิกครอบครัวในหลายรุ่น ทั้งนี้มูลค่าทรัพย์สินในบริษัทมหาชนคำนวณจากราคาหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 20 เมษายน ส่วนทรัพย์สินในบริษัทที่ถือครองส่วนตัวประเมินค่าโดยเปรียบเทียบกับบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
โดยมหาเศรษฐีทั้ง 10 อันดับแรก มีดังนี้
อันดับ 1 พี่น้องเจียรวนนท์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.0 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 2 ตระกูลจิราธิวัฒน์ มูลค่าทรัพย์สิน 2.12 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 3 เฉลิม อยู่วิทยา มูลค่าทรัพย์สิน 2.1 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 4 เจริญ สิริวัฒนภักดี มูลค่าทรัพย์สิน 1.74 หมื่นล้านเหรียญ
อันดับ 5 วิชัย ศรีวัฒนประภา มูลค่าทรัพย์สิน 5.2 พันล้านเหรียญ
อันดับ 6 กฤตย์ รัตนรักษ์ มูลค่าทรัพย์สิน 3.7 พันล้านเหรียญ
อันดับ 7 สารัชถ์ รัตนาวะดี มูลค่าทรัพย์สิน 3.4 พันล้านเหรียญ
อันดับ 8 นพ.ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ มูลค่าทรัพย์สิน 3.35 พันล้านเหรียญ
อันดับ 9 Aloke Lohia มูลค่าทรัพย์สิน 3.3 พันล้านเหรียญ
อันดับ 10 วานิช ไชยวรรณ มูลค่าทรัพย์สิน 3 พันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ ฟอร์บส รายงานว่า จาก 4 อันดับแรกในทำเนียบ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นสูงสุด โดย เจียรวนนท์ แห่งเจริญโภคภัณฑ์ ยังครองอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง ด้วยทรัพย์สินมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3 หมื่นล้านเหรียญ (9.37 แสนล้านบาท) ด้วยแรงหนุนจากราคาหุ้นของบริษัทสำคัญ ๆ ที่ทะยานขึ้น อาทิ บมจ.ซีพี ออลล์ ซึ่งเป็นบริษัทบริหารร้านค้าสะดวกซื้อ 7-Eleven ที่ได้อานิสงส์จากบรรยากาศการบริโภคที่สดใส และบริษัทประกันภัย Ping An ที่ได้อานิสงส์จากการลงทุนในธุรกิจฟินเทค
อันดับที่ 2 ประจำทำเนียบเป็นของตระกูลจิราธิวัฒน์แห่งกลุ่มเซ็นทรัล ทรัพย์สินเพิ่มขึ้นแตะ 2.12 หมื่นล้านเหรียญ (6.62 แสนล้านบาท) จาก 1.53 หมื่นล้านเหรียญ ในปีที่ผ่านมา
เฉลิม อยู่วิทยา แห่งกระทิงแดงมาในอันดับที่ 3 โดยมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 8.5 พันล้านเหรียญ เป็น 2.1 หมื่นล้านเหรียญ (6.56 แสนล้านบาท) ในปีนี้
เจริญ สิริวัฒนภักดี อันดับ 4 แห่งกลุ่มไทยเบฟเวอเรจ มีทรัพย์สินเพิ่มจากปีที่ผ่านมา 2 พันล้านเหรียญ รวมเป็นมูลค่าทรัพย์สิน 1.74 หมื่นล้านเหรียญ (5.43 แสนล้านบาท)
Aloke Lohia (อันดับ 9) เป็นมหาเศรษฐีอีกหนึ่งท่านที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมาก ทรัพย์สินของเขาทะยานแตะ 3.3 พันล้านเหรียญ (1.03 แสนล้านบาท) จากบมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส ที่เข้าเป็นเจ้าของกิจการ 16 แห่งทั่วโลก ซึ่งรวมถึงกิจการในยุโรปและอเมริกาเหนือ
นอกจากนี้ในปีนี้มีถึง 32 อันดับที่มีทรัพย์สินระดับพันล้านเหรียญขึ้นไป เพิ่มจากปี 2560 สี่อันดับ โดยสองในนี้เป็นมหาเศรษฐีใหม่ที่เพิ่งเข้าอันดับเป็นครั้งแรกหลังพาบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ได้แก่อันดับที่ 7 สารัชถ์ รัตนาวะดี ซีอีโอแห่ง บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเข้าตลาดเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้กลายเป็นมหาเศรษฐีหน้าใหม่ที่ร่ำรวยที่สุดด้วยทรัพย์สินมูลค่า 3.4 พันล้านเหรียญ (1.06 แสนล้านบาท) และอีกหนึ่งคือ อันดับที่ 14 ประจักษ์ ตั้งคารวคุณ เข้าทำเนียบมาเป็นปีแรกด้วยทรัพย์สินสุทธิ 2.1 พันล้านเหรียญ (6.56 หมื่นล้านบาท)
อีกสองมหาเศรษฐีหน้าใหม่ประจำทำเนียบมาจากธุรกิจความสวยความงามที่กำลังเฟื่องฟู ได้แก่ อันดับที่ 40 นพ.สุวินและธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศแห่งบิวตี้ คอมมูนิตี้ โดยทั้งคู่มีทรัพย์สินรวมกัน 715 ล้านเหรียญ (2.23 หมื่นล้านบาท) และ อันดับที่ 45 สราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ กับมูลค่าทรัพย์สิน 675 ล้านเหรียญ (2.11 หมื่นล้านบาท) ดู เดย์ ดรีม ของเขาทำรายได้อย่างงามจากกระแสคลั่งไคล้ผิวขาว
นอกจากนี้ในปีนี้มีผู้หญิงที่ติดอันดับทั้งหมด 9 ราย โดยมี สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ (อันดับ 28) ประธานกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ มารดาของนายธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ แห่งพรรคอนาคตใหม่ ครองแชมป์เศรษฐีอันดับที่ 28 ด้วยทรัพย์สิน 1.3 พันล้านเหรียญ (4.06 หมื่นล้านบาท) และอันดับที่ 32 Nishita Shah Federbush มูลค่าทรัพย์สิน 1.06 พันล้านเหรียญ ทายาทธุรกิจขนส่งทางทะเลผู้กุมบังเหียนจีพี กรุ๊ป เป็นสตรีที่ติดอันดับมหาเศรษฐินีในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายชื่อในทำเนียบทั้งหมดได้ที่ www.forbes.com/thailand และ www.forbesthailand.com รวมทั้งนิตยสาร Forbes Asia และ Forbes Thailand ฉบับเดือนพฤษภาคม
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://forbesthailand.com/news-detail.php?did=2421
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ