ญาติของเหยื่อผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือเฟอร์รีเซวอลอัปปางในเกาหลีใต้ บอกรู้สึกอิจฉานักเตะและโค้ชทีมเยาวชนหมูป่าอคาเดมี 13 ชีวิต ที่ได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างเต็มกำลังจากทุกฝ่าย หลังไม่พอใจคำตัดสินของศาลแห่งหนึ่ง ซึ่งพิพากษาในวันพฤหัสบดี(19 ก.ค.) ยอมรับเป็นครั้งแรกว่าเหตุเรือล่มเมื่อปี 2014 คร่าชีวิต 304 ศพ ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน อยู่ในความรับผิดชอบของรัฐบาล แต่แค่สั่งให้จ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวเท่านั้น
ปฏิบัติการช่วยเหลือแบบลวกๆและกรณีมีเด็กๆเสียชีวิตจำนวนมากภายในประเทศเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของเอเชีย ก่อความช็อคและความรู้สึกขุ่นแค้นแก่ประชาชนชาวเกาหลีใต้เป็นอย่างมาก และเป้าโจมตีก็คือรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย
ทีมสืบสวนเผยว่าเรือเฟอร์รีลำดังกล่าวมีโครงสร้างที่ไม่มั่นคง บรรทุกเกินพิกัดและแล่นเร็วเกินไปตอนหักเลี้ยว ทำให้มันเกิดอัปปางนอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2014 ก่อความโศกเศร้าแผ่ลามไปทั่วประเทศนานหลายเดือน
ในวันพฤหัสบดี(19ก.ค.) ศาลแขวงกลางของกรุงโซล มีคำสั่งให้รัฐบาลจ่ายเงินชดเชยแก่เหยื่อแต่ละรายครอบครัวละ 200 ล้านวอน (5.89 ล้านบาท) และเงินชดเชยเพิ่มเติมตั้งแต่ 5 ล้านวอน(150,000บาท) ไปจนถึง 80 ล้านวอน(2.3 ล้านบาท) แก่สมาชิกครอบครัวเหยื่อแต่ละคน
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ารัฐบาลและเจ้าของเรือเฟอร์รีจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินหรือไม่
กลุ่มสมาชิก 354 คนของครอบครัวเหยื่อเด็กนักเรียน 118 คน ยื่นฟ้องในปี 2015 เอาผิดกับรัฐบาลและเจ้าของเรือเฟอร์รี บริษัทชองแฮจิน มารีน(Chonghaejin Marine) หลังปฏิเสธข้อตกลงชดเชย ซึ่งจะปิดทางการเลือกสำหรับดำเนินการทางกฎหมาย
เอกสารของศาลระบุว่า เรือเซวอลของชองแฮจิน มารีน บรรทุกเกินพิกัดและลูกเรือได้ทิ้งเรือเฟอร์รีที่กำลังจม แต่บอกกับพวกผู้โดยสารให้อยู่แต่ในห้องโดยสาร ในขณะเดียวกันหน่วยยามชายฝั่งก็ล้มเหลวในการควบคุมสมดุลเรือและช่วยเหลือพวกผู้โดยสาร
มากกว่า 2 ใน 3 ของผู้โดยสารทั้งหมด 476 คนบนเรือเซวอลเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษา และจำนวนมากต้องเสียชีวิตเพราะติดอยู่ภายในเรือตามคำสั่งของลูกเรือ
จอน มยุง-ซุน ประธานสมาคมครอบครัวเหยื่อ ระบุว่าคำพิพากษาในวันพฤหัสบดี (19 ก.ค.) เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของครอบครัวในการเดินหน้าต่อสู้เพื่อความจริง "เราไม่พอใจ ศาลไม่ยอมรับคำโต้แย้งของเราที่ว่าทำเนียบประธานาธิบดีในฐานะหอควบคุมภัยพิบัติแห่งชาติได้ละเมิดกฎหมาย เราจะหยิบยกเรื่องนี้มาโต้แย้งอีกครั้งในการอุทธรณ์"
ยู คยุง-กึน สมาชิกของครอบครัวหนึ่ง พยายามกลั้นน้ำตาไม่ให้ร้องไห้ออกมา ในความคับแค้นใจที่ได้รับการปฏิบัติแบบตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับนักเตะเยาวชนทีมหมูป่าและโค้ช ที่ได้รับความช่วยเหลือออกมาจากถ้ำแห่งหนึ่งในไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังติดอยู่ภายในมานานหลายวัน
"เป็นครั้งแรกเลยที่ผมรู้สึกอิจฉาคนไทย และผมคงจะต้องอิจฉาพวกเขาต่อไปเรื่อยๆ" ยูกล่าวบริเวณด้านนอกศาลหลังได้รับฟังคำพิพากษา "ผมอยากเป็นคนไทย ผมรู้สึกยินดีมากที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัย"
อดีตประธานาธิบดีพัค ซึ่งกำลังรับใช้โทษจำคุก 24 ปีในความผิดฐานคอร์รัปชัน ปฏิเสธคำกล่าวหาที่ว่าเธอล้มเหลวในการตอบสนองต่อเหตุการณ์อย่างทันทีทันใดและอย่างเหมาะสม
อย่างไรก็ตามเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน การสืบสวนของอัยการพบว่าเธอยังคงอยู่ในห้องนอนตอนที่เรืออัปปาง และมัวแต่พูดคุยอยู่กับ ชอย ซุน-ซิล เพื่อสาวคนสนิท ซึ่งตอนนี้ก็ชดใช้กรรมในคุกฐานสมคบคิดกับ พัค รับเงินสินบนหลายล้านดอลลาร์จากลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่เกาหลีใต้
ในส่วนของกัปตันเรือถูกพบว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมในปี 2015 และถูกจำคุกตลอดชีวิต ส่วนลูกเรือคนอื่นๆ หลายสิบคนถูกจำคุกระยะสั้นลดหลั่นกันไป
ข่าวจาก : ผู้จัดการออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ