วานนี้(11 ต.ค. 61) ผู้สื่อข่าวได้พบกับชายหนุ่ม 2 คน กำลังเดินไสรถไส 2 ล้อ มาตามถนนสาย304 (กบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ขาขึ้น บริเวณบ้านหนองคล้า ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรีจ.ปราจีนบุรี สภาพเหงื่อไหลท่วมกายเสื้อผ้ามอมแมม เพราะเดินตากแดดร้อนจัด โดยบนรถมีสัมภาระกระเป๋าเสื้อผ้า กระแป๋งและของใช้อีก 2-3 รายการ เมื่อสอบถามชายหนุ่มคนหนึ่ง ทราบว่า เดินเท้ามาจากเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ มา4 วัน 4คืนแล้ว และได้บอกว่าชื่อนายโชคชัย แทวกระโทก อายุ 35 ปี
นายโชคชัย บอกว่า ไปทำงานรับจ้างก่อสร้างกับผู้รับเหมาได้ 1 ปี ได้ค่าแรงงวดละไม่กี่พันบาท ได้บ้างไม่ได้บ้าง ทำให้ไม่มีเงินซื้อข้าวจึงไปขอเบิกเงินจากเถ้าแก่ แต่เถ้าแก่บอกว่าเงินค่าแรงยังไม่ออก จึงตัดสินใจออกจากที่ทำงานทันที โดยไม่มีเงินติดตัวแม้แต่บาทเดียว และเดินเท้าตั้งแต่ วันที่ 8 ต.ค. 61 ที่ผ่านมา เป้าหมายคือทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเคยมีนายตำรวจแถวนั้นเคยให้ตนทำงานด้วย
และเมื่อเช้าที่ผ่านมา (11 ต.ค. 61) เดินทางมาถึงแยกเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม จังหวัด ฉะเชิงเทรา มีศาลาที่พักผู้โดยสาร จึงแวะพักเอาแรงและเห็นมีคนอยู่ในศาลาและได้พูดคุยด้วยทราบว่าเป็นคนโคราชด้วยกันชื่อนายกมล แช่มสำโรง อายุ 42 ปี ซึ่งนายกลม บอกว่า ไปทำงานที่จังหวัดชลบุรี ก็ถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรงเหมือนกัน จึงเดินเท้ากลับบ้านมาหลายวันเช่นกัน เมื่อพูดคุยรู้ว่าเป็นคนหัวอกเดียวกันเลยชักชวนเป็นเพื่อนร่วมทาง
จากนั้นผู้สื่อข่าวจึง ประสานรถตำรวจทางหลวงจากตู้ยามศรีมหาโพธิที่ขับรถผ่านมา เพื่อที่จะขอให้รถกู้ภัยนำส่ง แต่ทั้งสองขอเดินไปดีกว่า เพราะกลับบ้านตอนนี้ก็อายชาวบ้าน ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ได้โทรศัพท์หานางบัวชุม แทวกระโทก ที่นายโชคชัย กล่าวอ้างว่าเป็นแม่ นางบัวชุม รับสายและยืนยันว่า นายโชคชัยเป็นลูกชายจริง ออกไปรับจ้างทำงานที่กรุงเทพฯได้เกือบปี และฝากบอกลูกชาย ว่าอย่าไปคิดเอาเรื่องกับนายจ้าง ให้กลับมาทำมาหากินที่บ้านดีกว่า
ข่าวจาก : ข่าวอรุณอัมรินทร์ อัมรินทร์ทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ