จากกรณีเด็กชายอายุ 14 ปี ถูกแม่เลี้ยงทำร้ายร่างกายจนมีแผลทั้งตัว โดนถูกตี ใช้ฟุตเหล็กฟาด เตารีดนาบ ไฟฉายทุบตี บีบคอ และคีมหนีบที่ปากและนิ้ว ซึ่งพ่อแท้ ๆ ก็ทราบเรื่อง แต่ไม่ได้ห้ามปราม จนเจ้าตัวต้องปั่นจักรยานเพื่อหนีเอาชีวิตรอด ไปยังอนุสาวรีย์ฯ และส่งข้อความขอความช่วยเหลือจาก นางสาวนฤกมลวรรณ ฉาบพลอย แม่ที่อยู่จังหวัดระยอง และได้ประสานรับตัวเด็กไปเรียบร้อยแล้วนั้น ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ระยอง นำเด็กชายส่งโรงพยาบาลบ้านฉาง และให้แพทย์ตรวจร่างกาย พร้อมประสานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี จ.ปทุมธานี เข้าช่วยเหลือเรื่องคดีความ และแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.คลองหลวง
อ่านข่าวเพิ่มเติม : โดนแม่เลี้ยงทารุณทุกวันตลอด7ปี-พ่อไม่ช่วย ด.ช.วัย14 สุดทน ปั่นจักรยานหนีไปหาแม่แท้ๆ ที่ระยอง(มีคลิป)
วันที่ 15 ต.ค. 61 นายอิศรา ตราภักดี คนขับรถแท็กซี่ไปส่งเด็กชาย อายุ 14 ปี เล่าว่า วันศุกร์ที่ 12 ต.ค. 61 เวลา 23.30 น. ตนได้รับสายจากเพื่อนที่อาศัยอยู่ห้องติดกันกับแม่ของเด็กชายวัย 14 ปี โดยแม่ของเด็กชาย บอกว่าให้ตนไปรับเด็กชายวัย 14 ปี ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพราะเด็กโทรหาแม่ บอกว่าจะปั่นจักรยานไปหาแม่ที่ อ.บางเสร่ จ.ชลบุรี หลังจากที่แม่ได้ยิน จึงบอกเพื่อนของตนที่อาศัยอยู่ข้างห้อง ให้รับลูกมาส่งที่บางเสร่
นายอิศรา ตราภักดี คนขับรถแท็กซี่ ผู้ช่วยเหลือเด็กชาย อายุ 14 ปี
นายอิศรา เล่าต่อว่า เด็กชายวัย 14 จะไม่รับโทรศัพท์ใคร นอกจากแม่เท่านั้น ตนจึงบอกให้แม่ส่งเบอร์ตนให้ลูกชาย แล้วบอกกับลูกว่าให้รับสายเบอร์ของตน จากนั้น ตนก็ได้โทรไปหาเด็กชาย หลังจากรับสาย ตนจึงถามว่า “อยู่ตรงไหน จะมารับไปหาแม่ เดียวเปิดไฟรถรอ รถพี่คันสีแดง” จากนั้นเด็กก็ปั่นจักรยานมาที่รถตน แล้วก็ยกมือไหว้ เมื่อมาถึงรถ ก็เอาจักรยานพับเก็บหลังรถ จากนั้นก็ขึ้นรถ หลังจากนั้นตนก็ถามเด็กว่า “หิวข้าวไหม” เด็กบอกว่า “หิว” ตนจึงพาแวะร้านสะดวกซื้อบนมอเตอร์เวย์ ซื้อขนมปังและน้ำให้กิน เด็กชายกินน้ำไปครึ่งขวด และขนมปังอีก 1 ชิ้น กำลังจะกินชิ้นที่ 2 ปรากฎว่าหลับ พร้อมกับถือขนมปังคามืออยู่ คาดว่าเกิดจากความเหนื่อยล้าที่ปั่นจักรยานมา โดยตนสังเกตเห็นว่า เด็กถูกทำร้ายมา เพราะมีรอยเขียวช้ำบริเวณจมูก เบ้าตาทั้ง 2 ข้าง และปากมีรอยบวม แต่ส่วนอื่น ๆ ตนไม่เห็น เพราะมืดแล้ว จากนั้นก็ขับไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึง จ.ชลบุรี
ภาพจำลองเหตุการณ์ การช่วยเหลือเด็ก 14 ปี
นายอิศรา เล่าต่อว่า ตนถามเด็กต่ออีกว่า “จำทางเข้าบ้านได้ไหม” เด็กบอกว่า “จำได้ครับ” จากนั้นตนก็ขับไปตามที่เด็กบอก จนถึงบ้าน เวลาประมาณ 02.00 น. กว่า มีแม่ออกมารับ เด็กวิ่งไปกอดแม่ จากนั้นก็ขอบคุณตน แล้วก็คุยกันเล็กน้อย ก่อนจะแยกย้ายกัน เพราะดึกแล้ว ขณะที่เด็กชายวัย 14 ปี นั่งรถมากับตน ก็ไม่มีอาการผิดปกติ ตนเห็นว่าเด็กคนนี้เป็นคนที่อดทนมาก และเก็บอาการได้ดีมาก
อาคารที่เกิดเหตุ
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่หมู่บ้านเอื้ออาทร พหลโยธิน กม.44 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่พักของพ่อและแม่เลี้ยงของเด็กชาย 14 ปี พบว่าห้องพักปิดเงียบ ไม่มีคนอยู่ ประตูหน้าห้องล็อก ได้ยินเสียงแมวร้องออกมาจากในห้อง ส่วนหน้าห้องก็มีรองเท้าผ้าใบ ไม้กวาด และที่ตักขยะวางอยู่
ด้านนางศรี (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนอยู่ในหมู่บ้านมานาน 6 ปี เห็นว่าแม่เลี้ยงเป็นคนนิสัยเสีย ไม่มีมารยาท ชอบพูด “กู มึง” เข้ากับเพื่อนบ้านไม่ได้ ส่วนเรื่องที่ตีเด็กนั้น ตนไม่เคยเห็นขณะที่กำลังลงมือ แต่เห็นรอยแผลตลอด แผลเก่าหาย แผลใหม่มา ไม่มีวันไหนที่เห็นแล้วตัวเด็กไม่มีแผล ตนเคยถามเด็กแล้ว แต่ก็ไม่ยอมบอกว่าแม่ตี บอกแค่ว่ารถจักรยานล้ม หกล้มต่าง ๆ เด็กคงคิดว่าถ้าคนอื่นรู้ กลัวว่าว่าจะไปบอกแม่ แล้วจะโดนตีอีก ทั้งนี้ แม่เลี้ยงเวลามีอะไรก็จะมาลงที่ลูกเลี้ยง เงินไม่พอใช้ ก็มาลงที่ลูก ส่วนนิสัยของพ่อนั้น ก็เป็นคนกลัวเมีย จะต้องอยู่ภายใต้อำนาจของเมียตลอดเวลา เวลาลูกโดนตี ก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเข้าไปช่วยก็จะโดนเมียตัวเองทำร้ายไปด้วย เวลาลูกโดนตี ก็จะได้แค่นั่งมองเท่านั้น
ส่วนนิสัยของเด็กชายวัย 14 เป็นคนนิสัยดี มีมารยาท เวลาเจอตน หรือผู้ใหญ่คนอื่นก็จะยกมือไหว้ตลอดเวลา เล่นดนตรีเก่งด้วย เพราะเมื่อปีใหม่ปีที่แล้ว ยังมาเล่นดนตรีให้ผู้สูงอายุในชุมชนฟัง จนมาล่าสุด เมื่อ 3 วันที่แล้ว ตนก็เห็นเด็กคนนี้ปั่นจักรยานออกไปพร้อมกับสะพายกระเป๋า 1 ใบ แต่ติดว่าน่าจะปั่นอยู่ใกล้ ๆ ตามปกติ พอมารู้ข่าวถึงกับรับไม่ได้ ที่แม่เลี้ยงทำกับเด็กแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ ตนเคยเสนอตัวเข้าไปช่วยเลี้ยง แต่ครอบครัวไม่ยอม เพราะเกรงว่าจะมีปัญหากันในครอบครัว ตนก็เลยไม่ได้ช่วย จนกลายมาเป็นเรื่องถึงทุกวันนี้
ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ