สอบแข่งขันรอบข้อเขียนที่ว่ายาก บางครั้งการสอบสัมภาษณ์ก็ยากกว่าที่เราคิด เพราะเราไม่สามารถเดาได้เลยว่ากรรมการที่สอบเราอยู่นั้นเขาจะยิงคำถามอะไรมาบ้าง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นไปด้วยความสดใหม่ ไม่เหมือนกับข้อสอบที่พอจะมีแนวข้อสอบให้อ่าน ให้ลองทำอยู่บ้าง
ถึงแม้คำถามการพูดคุยจะดูง่าย ๆ สบาย ๆ แต่ก็ไม่ควรจะต้องมาตกม้าตายเพียงเพราะคำพูดต้องห้ามที่พูดออกไปแล้วระคายหูกรรมการ
ภาพประกอบจาก lifehacker.com
1. พูดโกหก
อย่าพยายามทำตัวเหมือนรู้ ทั้งที่ตัวเองไม่รู้ ไม่อย่างนั้นคุณจะถูกต้อนให้จนมุมอย่างศพไม่สวยแน่ ๆ และถึงแม้ว่าการโกหกนั้นจะเนียนจนทำให้คุณเข้ารอบได้ มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกที่ดีนักหรอกที่จะต้องมาระแวงว่าใครจะจับได้ในภายหลังรึเปล่า ทางที่ดีควรตอบทุกอย่างไปตามความจริงของตัวคุณเอง
2. พูดตรงจนดูเหมือนแรง
ไม่เพียงแต่การสอบสัมภาษณ์เท่านั้นที่เป็นสถานการณ์การพูดคุยที่ค่อนข้างเป็นกลุ่มคน มีความสาธารณะเล็กน้อย ในสถานการณ์ทั่วไปที่เราต้องเข้าสังคมเราก็ต้องรู้จักปรับตัวด้วย ‘ศิลปะในการพูด’ คิดเป็นคำตอบ 1 รอบแล้วก็อย่าลืมคิดเป็นถ้อยคำที่นุ่มนวลต่อคนฟังอีก 1 รอบ ถ้าพูดออกไปแล้วหรือกำลังจะพูดทั้งที่รู้แน่ว่ามันต้องเป็นคำพูดที่ค่อนข้างตรงจนเหมือนจะแรง ควรกล่าวขอโทษด้วยเพื่อให้น่าฟังมากขึ้น ถึงแม้ว่ามนุษย์เราทุกคนจะชอบความซื่อตรงซื่อสัตย์ แต่ก็อย่าลืมว่ามนุษย์เราไม่ต้องการความหยาบกระด้างเกินไปหรอก
3. พูดโดยไม่คำนึงกาลเทศะและสถานะระหว่างกัน
ถึงแม้ว่าทริคประการหนึ่งที่จะช่วยให้การสอบสัมภาษณ์ไหลลื่นดี คือ การพูดคุยให้สบายที่สุดเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างกัน แต่ก็อย่าลืมรักษาระยะห่างกันไว้ด้วย อย่าใกล้ชิดมากเกินไปเหมือนกับเป็นเพื่อนกันหรือต้องหลุดความเป็นส่วนตัวออกมามากเกินไป อย่าลืมว่าคนที่อยู่ตรงหน้าคุณ เขามีอิทธิพลและฐานะเหนือกว่าคุณในตอนนี้
4. “ผม/ฉัน ไม่รู้”
ถึงแม้การตอบไปตามตรงว่าไม่รู้จะเป็นคำตอบที่ดี แต่อย่างไรมันก็ฟังแล้วแข็งกระด้าง และบ่งบอกเล็ก ๆ ว่าคุณช่างไม่คิดจะสนใจอะไรบ้างเลย ควรพูดให้สุภาพกว่านี้ว่า “ผม/ฉัน ก็เพิ่งรู้ตอนนี้นี่เอง ขอบคุณสำหรับข้อมูลใหม่นะคะ/นะครับ ไว้ผม/ฉันจะไปศึกษาเพิ่มเติม” เห็นไหมล่ะ มันฟังแล้วรู้สึกว่าคุณก็ให้ความสนใจกับคนถามดีนะ
5. “ผม/ฉัน เกิดไม่ทัน”
ในสถานการณ์ที่พูดคุยกับคนสนิทอาจจะเป็นเรื่องขำ ๆ แต่สำหรับสถานการณ์จริงจังอย่างสอบสัมภาษณ์ การตอบแบบนี้เท่ากับว่าคุณได้ฆ่าตัวตายไปเรียบร้อย เพราะมันเป็นการย้อนคนถามกลับไปว่า ‘แก่’ อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่าคุณนอกจากจะไม่เคารพผลงานของคนอื่น ยังเป็นคนที่ไม่คิดจะใส่ใจอะไรเลยแม้กระทั่งข้อมูลพื้นฐานก่อนสอบสัมภาษณ์ ควรตอบในทำนองเดียวกันกับข้อ 4 “ผม/ฉัน ก็เพิ่งรู้ตอนนี้นี่เอง ไว้ผม/ฉันจะไปศึกษาเพิ่มเติมในภายหลัง” เพื่อให้คนฟังได้พอชื่นใจอยู่บ้างว่า ถึงคุณจะเกิดไม่ทันจริง ๆ คุณก็ยังมีกะจิตกะใจที่จะสนใจกันบ้าง
6. แสดงทัศนคติที่แย่/แง่ลบ/หยาบคาย
ถ้ากรรมการเสนอให้คุณออกความคิดเห็นเกี่ยวกับอะไรบางสิ่งบางอย่าง อย่าเพิ่งรีบตอบ ค่อย ๆ คิดเรียบเรียงเป็นคำตอบเชิงบวก ค่อย ๆ ขัดเกลาเป็นคำพูดที่นิ่มนวล อะไรที่มันเป็นความคิดค่อนข้างแย่ รุนแรง พูดออกไปแล้วคนฟังรับไม่ได้แน่นอน เก็บเอาไว้ก่อน คุณไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัวเอง 100% ในตอนนี้ ในนาทีนี้ต้องการความสง่างามเพื่อเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดเท่านั้น
ก่อนจะพูดทุกคำ ย้ำอีกทีว่าต้องคิดก่อนพูดเสมอ การพูดไปโดยไม่คิด ไม่ว่าจะตื่นเต้นหรือสมาธิไขว้เขวไปทางใดก็ตาม ไม่เคยให้ผลดีกับคนพูดและคนฟังแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก www.jeeb.me
เรียบเรียงโดย Thaijobsgov
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ