นศ.ปริญญาเอกเล่าประสบการณ์ติดโควิด 19 ในอินเดีย หมอให้รักษาตัวที่บ้านจนดีขึ้น โดยที่ใช้บริการ Covid Home Care Service หมอให้คำปรึกษาออนไลน์ทุกวัน และมีพยาบาลมาถามอาการ 3 เวลา มีนักโภชนาการคุยด้วย
วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 สถานการณ์โควิด 19 ที่หนักที่สุดในโลกอยู่ในขณะนี้คงหนีไม่พ้นอินเดีย ซึ่งในแต่ละวันมีผู้ป่วยนับแสนราย และไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ถึง 3 จุด รวมทั้งระบบสาธารณสุขก็งานล้นมือ และผู้ป่วยหลายคนก็ประสบปัญหาขาดออกซิเจน จนล้มตายกันไปเป็นจำนวนมาก
ล่าสุด เฟซบุ๊ก Tammy P R คนไทยที่ติดโควิด-19 ในอินเดีย ก็ได้เล่าประสบการณ์การรักษาตัวหลังติดเชื้อ รวมถึงอาการที่เกิดขึ้นว่าเจออะไรบ้างถึงจะหายดี
จุดเริ่มต้นติดโควิด
เธอเดินทางไปร่วมงานสำคัญของเพื่อน แล้วมารู้ว่า เพื่อนที่เพิ่งเจอไปนั้นติดโควิด จึงรีบไปหาหมอที่โรงพยาบาล บอกหมอว่า สงสัยว่าติดโควิด แต่หมอบอกใจเย็น ๆ สั่งให้ไปกักตัวที่บ้าน แล้วจะส่งคนจากแล็บไปตรวจให้ ถ้าติดจริงค่อยว่ากัน ซึ่งราคาที่ตรวจโควิดที่บ้านประมาณ 600 บาท ตรวจเมื่อวันที่ 18 เมษายน
ส่วนวันที่ 19 เมษายน ช่วงเย็น เธอรู้สึกว่าจมูกไม่ได้กลิ่น จึงทดสอบด้วยการดมน้ำปลากับน้ำยาเดตตอล ทำให้รู้ซึ้งว่า การไม่ได้กลิ่นอะไรเลยมันเป็นยังไง ไม่นานนัก ผลโควิดก็ออกมาคือ และปรากฏว่าผลเป็นบวก หลังจากทราบผลเธอก็กังวลจนนอนไม่หลับ เพราะตัวคนเดียว โทรศัพท์ไประบายกับที่บ้าน
วันที่ 20 เมษายน เธอโทรศัพท์หาโรงพยาบาลว่า สามารถพบหมอได้ไหม เนื่องจากที่ไทยหากติดแล้วจะมีรถมารับ ส่วนที่นี่นั้นคือ พยาบาลบอกว่า มาได้ ดังนั้นเธอจึงรีบอาบน้ำ แต่งตัว สวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้นแบบ Surgical mask + N95 แล้วรีบขับรถมาโรงพยาบาลทันที
ผลการตรวจที่โรงพยาบาล พบว่าทุกอย่างปกติหมด ยกเว้นภาพเอกซเรย์ปอดที่แสดงให้เห็นถึงการอักเสบนิดหน่อย หมอจึงจ่ายยาชุดแรกมา 5 วัน และเข้าสู่กระบวนการรักษา
การรักษา
รักษาตัวที่บ้านคนเดียว โดยซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มาที่บ้านตามที่แพทย์สั่ง เช่น เครื่องวัดออกซิเจน, เครื่องพ่นยา, เครื่องพ่นไอน้ำ, เครื่องฟอกอากาศแบบฆ่าไวรัสได้ และออกซิเจนกระป๋อง
จากนั้นทานยาและพ่นยาตามแพทย์สั่ง ยาชุดแรก 5 วัน ยาชุดที่สอง 7 วัน วัดค่าออกซิเจนและอุณหภูมิทุกชั่วโมง และที่นั่นมีบริการปรึกษาหมอเรื่องโควิดได้ตลอด มีพยาบาลโทรถามอาการ 3 เวลา นักโภชนาการมาให้คำปรึกษา แม้จะอยู่บ้านก็ตาม เรียกว่า Covid Home Care Service โดยค่าบริการ 7 วันอยู่ที่ 2,000 บาท, 14 วัน ประมาณ 4,500 บาท
นอกจากกินยาแล้ว ก็ดื่มน้ำอุ่นค่อนร้อน ดื่มน้ำอย่างต่ำวันละ 3 ลิตร กลั้วคอด้วยเบตาดีนสำหรับกลั้วคอทุก 4 ชั่วโมง เพื่อป้องกันเชื้อลงปอด พักผ่อนให้เพียงพอ นอนคว่ำเพื่อไม่ให้หัวใจทับปอด โดยมีอยู่วันหนึ่ง เธอรู้สึกหายใจไม่ออก จู่ ๆ สะดุ้งตื่น รู้สึกว่าตัวเองหยุดหายใจ แต่การวัดไข้ วัดออกซิเจนก็ปกติตลอด พอปรึกษาหมอ หมอบอกว่า เรากังวลมากไป จริง ๆ ไม่มีอะไรน่ากังวลเลย เพราะวัดค่าทุกอย่างออกมาปกติมาก
เมื่อทานยาครบ 7 วัน ก็ไปเอกซเรย์ปอด ตรวจเลือด ประเมินอาการหลังรับยารอบที่ 1 และจะได้ยาชุดใหม่มาอีก 5 วัน หากครบแล้วก็ไปตรวจสุขภาพอีกครั้ง
สรุปอาการที่เป็นมีอะไรบ้าง
เริ่มตั้งแต่ เจ็บคอ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น 4 วัน มีไข้ต่ำ ๆ ประมาณ 3 องศาแค่ครั้งเดียว ไม่มีอาการเมื่อยตัว ไม่มีอาการหายใจลำบาก
อาการปัจจุบัน
ตอนนี้ยังคงไอเล็กน้อย อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ หายเจ็บคอ และจมูกกลับมาได้กลิ่นแล้ว หมอให้ทานวิตามินซี, ดี3, Zinc อีก 2 สัปดาห์เพื่อบำรุงร่างกาย ส่วนสัปดาห์หน้าจะไปตรวจร่างกายหาค่าแอนติบอดี้
ข่าวจาก : kapook
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Tammy P R
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ