ผบ.ทบ. สั่งต้นสังกัดตรวจสอบด่วน หลังเกิดเหตุอดีตทหารเกณฑ์คลั่งกราดยิงโรงพยาบาลสนาม และเซเว่น ดับ 2 ศพ หาสาเหตุกดดันระหว่างฝึกกองพันจู่โจมหนักเกินไป จนป่วยทางจิตหรือไม่ ด้านครูฝึกยันไม่เคยทำร้าย
จากกรณีที่นายกวิน แสงนิลกุล อดีตทหารเกณฑ์ ก่อเหตุสลดโดยการบุกไปยิงพนักงานเซเว่นจนเสียชีวิต หลังเกิดปากเสียงกันเรื่องทำเบียร์ตกแตก จากนั้นเจ้าตัวได้ขับรถเข้าไปที่โรงพยาบาลสนาม สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และยิงคนจนเสียชีวิตอีก 1 คน พร้อมกับจะยิงคนป่วยข้างในแต่ได้หลบหนีไปก่อน ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวได้เข้ามอบตัว พร้อมอ้างว่าที่ก่อเหตุไปเป็นเพราะตนมีอาการผิดปกติหลังความเครียดที่สะเทือนใจ หรือที่เรียกว่า PTSD นั้น
วันที่ 24 มิถุนายน 2564 เรื่องเล่าเช้านี้ รายงานว่า พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก มีคำสั่งให้ พล.ท. ภูมิพัฒน์ จันทร์สว่าง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจากการสอบย้อนประวัติอดีตทหารเกณฑ์ดังกล่าว พบว่าสมัครเข้ามาเป็นพลอาสา (ทหารเกณฑ์) ระหว่างเดือน พฤศจิกายน 2560 และปลดประจำการเดือน พฤศจิกายน 2562 ที่นายกวินไม่ได้สมัครอยู่ต่อ และเขาคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ชอบปืน และ ชอบดูหนังสงคราม
โดยทาง พ.ท. มงคล ปุริสา ผู้บังคับกองพันจู่โจม กรมรบพิเศษที่ 3 รักษาพระองค์ ได้เรียก จ.ส.อ.ยงยุทธ สุขเกษม ครูฝึก มาสอบถามข้อเท็จจริงกรณีคนร้ายอ้างว่าไม่พอใจ เพราะถูกครูฝึกทำร้ายเมื่อช่วงที่อยู่ในค่ายทหาร ซึ่งทางครูฝึกยืนยันว่า ไม่เคยทำร้ายร่างกายนายกวิน และได้ปฏิบัติตามกรอบการฝึกทหารใหม่ 10 สัปดาห์ อย่างเคร่งครัด ส่วนของผลการฝึกของนายกวิน นั้นถือว่าค่อนข้างดีได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บังคับหมวดบรรจุที่กองร้อยที่ 2 ซึ่งครูฝึกก็อยู่กองร้อยดังกล่าวด้วย แต่อดีตทหารเกณฑ์คนดังกล่าวก็อยู่ไม่นาน และหมุนไปอยู่กองร้อยที่ 3 เกือบสองปี ส่วนรุ่นพี่ที่ถูกระบุว่าทำร้ายร่างกายนั้น ได้ปลดออกไปก่อนหน้านายกวิน 1 ปี
ทั้งนี้ เมื่อย้อนดูประวัติการป่วยทางจิตเวชพบว่า ก่อนการเข้ามาเป็นพลทหารเจ้าตัวไม่มีอาการทางจิต แต่หลังจากเข้ามาประจำการแล้วมารดาของนายกวิน ระบุว่าเจ้าตัวนั้นรักษาอาการป่วย และหายเป็นปกติแล้ว จนกระทั่งเมื่อปลดประจำการ ก็เข้ารับการรักษาอาการอีกครั้ง
แหล่งข่าว จาก ทบ.ระบุว่า ขณะนี้หน่วยต้นสังกัด กำลังรวบรวมรายละเอียดทั้งหมดจากการสอบครูฝึกเพื่อนในรุ่น และรุ่นพี่ เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านมา 2 ปี และรุ่นพี่พลทหารอาสาก็ปลดประจำการไปแล้ว แต่ครูฝึกยืนยันว่าไม่มีการซ้อมหรือทำร้ายร่างกาย แต่เรื่องนี้จะต้องมีการต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปถึงในช่วงการฝึกปรับพื้นฐานกองพันจู่โจม ซึ่งมีฝึกหนักทดสอบความอดทนทางร่างกาย และจิตใจ
เพราะหากมีการทำเกินกว่าเหตุ และพบว่าผิดจริงก็ต้องลงโทษ อีกทั้งนโยบายของกองทัพบกในปัจจุบันเคร่งครัดในเรื่องดังกล่าว และกำชับไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงกับทหารใหม่ แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ผ่านมา 2 ปีแล้วทำไมถึงนำมาอ้างเป็นเหตุหลังยิงผู้อื่นเสียชีวิตและยังนำชุดทหารมาใส่เพื่อยิงผู้อื่นต่อไป
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ