การเลี้ยงกระต่ายเนื้อ แม้นยังไม่เป็นที่คุ้นเคยและแพร่หลายนัก แต่ความต้องการบริโภคเนื้อกระต่ายกลับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอาหารภัตตาคารและโรงแรมสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ส่งผลให้เนื้อกระต่ายมีราคาดีและเป็นที่ต้องการ ประกอบกับการเลี้ยงการจัดการไม่ยุ่งยากจึงนับว่ากระต่ายเนื้อกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ที่น่าสนใจในเวลานี้
นายอับดุลรอหมาน หลังปูเต๊ะ 35 ปี 123 ม.1 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล เจ้าของฟาร์มกระต่ายเนื้อ กล่าวว่า เดิมตนทำโฮมสคูลบ้านเรียนเด็ก และทำป้าย ซึ่งเด็ก ๆ ชอบกระต่าย เมื่อตอนที่ตนเรียนที่อินโดนีเซีย ซึ่งเขากินกระต่ายกัน เพราะเนื้อกระต่ายเป็นยา มีประโยชน์ ตนคิดอยากทำ เลยเอากระต่ายมาเลี้ยง ซึ่งสายพันธุ์ที่เลี้ยงเลี้ยงเพื่อบริโภค เป็นคนละสายพันธุ์ที่นำมาเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงามเพลิดเพลิน
กระต่ายเนื้อสายพันธุ์ที่มีอัตราการเจริญเติบโตรวดเร็ว ให้เนื้อมากที่มีในฟาร์มเป็น พันธุ์นิวซีแลนด์ไวท์ แคลิฟอเนีย ซึ่งซื้อพันธุ์มาจากมาเลเซีย นอกจากนี้มีลูกผสมภูพาน และPL ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เลือดนิ่งแล้ว โดยซื้อพ่อแม่พันธุ์อายุ 3 เดือนตัวละ 2 พันบาท เมื่อได้ลูกผสม แต่ละสายพันธุ์เมื่ออายุ 4 เดือน จะมีน้ำหนัก 2.5 ก.ก.สามารถนำมาขายได้ ก.ก.ละ 350 บาท ก.ก.ตกตัวละ 875 บาท
ซึ่งอายุ 4 เดือนเนื้อกระต่ายจะมีความนุ่มละมุน ฉ่ำ ไม่เหนียว บางคนอาจเลี้ยงให้ได้ตัวละ 4 – 5 ก.ก. ซึ่งกระต่ายนิยมผลิตเป็นลูกผสม 3 สายพันธุ์ เพื่อดึงลักษณะดีของแต่ละสายพันธุ์มารวมกัน ทำให้ได้ กระต่ายที่ให้ผลผลิตคุ้มค่าสำหรับการเลี้ยงเชิงพาณิชย์ ซึ่งลูกผสมอายุ 45 วัน ขายตัวละ 450 – 500 บาท
ขณะนี้เลี้ยงมาได้ 10 เดือน มีกระต่ายในฟาร์มประมาณ 100 ตัว เพราะลงทุนต่ำ ทำให้ใช้เวลาคืนทุนไม่นาน สร้างกำไรจากการเลี้ยงได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากเนื้อกระต่ายแล้ว หนัง ขน หางนำมาทำผลิตภัณฑ์จำหน่ายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ส่วนชิ้นส่วนอื่น เช่นหู อุ้งเท้า ส่งตลาด Busf ได้อีกด้วย
เนื้อกระต่ายถือเป็นอาหารสำหรับคนรักสุขภาพ มีคุณค่าทางอาหารสูง ไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ กระต่ายเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีของเสียน้อยกว่าสัตว์ชนิดอื่น ในอนาคตเนื้อกระต่ายอาจกลายเป็นทางเลือกใหม่ด้านอาหาร เนื้อกระต่ายมีความนุ่ม ปรุงอาหารรสชาติดี เคี้ยวง่าย ไม่เหนียวหรือยุ่ยเกินไป
ซึ่งฟาร์มของตนนั้นขณะนี้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะสามารถผลิตเนื้อได้เพียงเดือนละ 5 – 10 ตัว แต่ในช่วงรอมฎอนประมาณเดือนเม.ย.จะออกได้ประมาณ 100 ตัว ซึ่งรับแบบพรีออเดอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมขณะนี้เป็นกระต่ายสมุนไพรอบน้ำผึ้งตัวละ 599 บาท และที่กำลังจะออกสู่ตลาดเดือนรอมฎอนนี้เป็นแกงมัสมั่นกระต่ายคู่กับโรตีเซตละ 100 บาท และสะเต๊ะเนื้อกระต่าย
ซึ่งกินคู่กับนาซิกาเปะที่เป็นข้าวอัดหั่นเป็นลูกเต๋า รวมทั้งน้ำจิ้มและผักเคียงเซตละ 100 บาทเช่นกัน โดยส่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังเปิดทางเลือกสำหรับกระต่ายสวยงามให้กับผู้ที่ชื่นชอบในการเลี้ยงกระต่ายน่ารักไว้ดูเล่น ตัวละ150 – 200 บาทด้วย
ข่าวจาก : ch3plus
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ