จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กบุ๊กชื่อ Prawit Wut Treewas โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ระบุว่า “วัยรุ่นกราฟฟิตี้ ที่กำลังเป็นข่าวดังในโคราช” พร้อมติดแฮชแท็กว่า เดือดร้อนหน้าร้านกูอีก กำเวร ,หัวจะปวด วันๆหาแต่เรื่อง ,เหมือนจะเท่ห์ แต่จริงๆไม่เลย ซึ่งภาพภายในโพสต์เป็นภาพของประตูร้านขายโทรศัพท์ที่มีลายกราฟฟิตี้เขียนว่า OME ซึ่งเจ้าของร้านเห็นแล้วโมโหจนอดไม่ไหวเลยถ่ายรูปแล้วนำมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ค.65 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังร้านขายและรับซ่อมโทรศัพท์ดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณแยกไฟแดงคลังพลาซา สาขาจอมสุรางค์ พบกับนายประวิทย์ ตรีเวส เจ้าของโพสต์และเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว โดยนายประวิทย์บอกว่า ตนเพิ่งเห็นลายกราฟฟิตี้บริเวณประตู เลยถามน้องมีใครรู้เห็นมั้ย ซึ่งน้องๆภายในร้านบอกว่าเพิ่งเห็นเหมือนกัน กำลังตามหาตัวคนทำอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเห็นภาพลักษณะนี้ ซึ่งโพสต์และแชร์กันอยู่ในกลุ่มข่าวโคราช เลยถ่ายรูปนำไปเปรียบเทียบลาย พบว่าตรงกัน เพียงแต่ของตนนั้นอยู่ที่ประตูร้าน ส่วนอีกที่หนึ่งอยู่บนตัวรถ จึงหาข้อมูลพบว่าคนที่พ่นสีนั้นเปิดเพจเฟซบุ๊ก ตนเลยส่งข้อความไปพูดคุยถามหาความรับผิดชอบ โดยยื่นข้อเสนอไปว่าให้เวลา 2 วัน ในการมาลบสีที่พ่นเอาไว้ แต่ถ้าครบกำหนดแล้วยังไม่มาลบ คงต้องแจ้งความ เพื่อดำเนินคดี ซึ่งผู้กระทำยินยอมที่จะมาลบออกให้
ขณะเดียวกันยังพบผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Ro Rosalind พสต์รูปพร้อมอีโมจิรูปโมโห พร้อมภาพรถกระบะโดนพ่นกราฟฟิตี้เช่นกัน สรุปว่า ศิลปะบนความเดือดร้อนของคนอื่น มีผลงานมีฝีมือดีก็เท่านั้น ถ้าแสดงผลงานที่ทำให้คนอื่นเค้าทุกข์ใจ #เราไม่เข้าใจ กับสิ่งที่พวกนายต้องการแสดงหรือสื่อสารอะไรกับครอบครัวของเราแบบนี้ไม่ทราบ แต่..สิ่งที่เรารู้สึกและรับรู้ได้ ณ ตอนนี้และเวลานี้คือ #พ่อ”ของเรา ที่เป็นเจ้าของรถยนต์คันนี้ #มีแสดงอาการรู้สึกเสียใจออกมาให้เราและคนในครอบครัวเห็น แม้พยามเก็บอาการอยู่บ้าง แต่ทุกคนก็สามารถรับรู้ถึงความบอบช้ำนี่ได้ หลังจากที่พ่อเราได้เห็นภาพถ่ายนี้
เพราะมันเป็น #ทรัพย์สินเพียงชิ้นเดียว ของพ่อเรา เปรียบเสมือนของที่ระลึก กับเครื่องเรียกความทรงจำเรื่องราวที่ดีกับ อากง/อาม่า (ปู่/ย่า) ของเรา ซึ่งมีระยะเวลายาวนานมามากกว่า 30-40 ปี ได้ถูกพวกนายลบเลือนออกหายไปด้วยการพ่นสีสเปรย์กระป๋องเพียงไม่กี่ที
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังเจ้าของเฟซบุ๊กที่เป็นคนมาพ่นลายกราฟฟิตี้บริเวณประตูร้านขายโทรศัพท์และที่รถยนต์ โดยพูดคุยผ่านแชทประมาณว่า “พร้อมรับผิดชอบด้วยการจะลบข้อความออกจากประตูร้านขายโทรศัพท์ให้ แต่สำหรับในกรณีของรถยนต์ ยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าของรถ จึงยังไม่ไปลบให้และพร้อมที่จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย หากมีคนเข้าไปแจ้งความเอาผิด นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามถึงวีธีในการตัดสินใจในการเลือกสถานที่ที่จะไปพ่นสี โดยคนพ่นสีบอกว่า ตนพ่นเฉพาะสิ่งที่รกร้าง กึ่งร้าง ของใหม่เอี่ยมไม่ลงมืออยู่แล้ว
ข่าวจาก : ข่าวสด
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ