25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารไต่ลงหน้าผามออีแดง ความสูงกว่า 150 เมตร ซึ่งเป็นเขตแดนธรรมชาติระหว่างไทย-กัมพูชา ใกล้กับปราสาทพระวิหารของกัมพูชา เพื่อลงไปค้นหากระเป๋าเงินของนักท่องเที่ยวที่ถูกลิงแย่งไปแล้วทิ้งลงไป ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถเก็บเงินและสิ่งของต่างๆ ได้ ก่อนส่งคืนนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวติดต่อไปที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายดังกล่าว ทราบว่า เจ้าหน้าที่ที่ไต่หน้าผามออีแดงคือ นายสวัส ลุนผง ตำแหน่งพนักงานธุรการ ส.4 ทำหน้าที่หัวหน้าฝ่ายจัดการทรัพยากรธรรมชาติ อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร
นายสวัสเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมความสวยงามตามธรรมชาติของผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ว่าเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ถูกลิงที่มีจำนวนมากบริเวณหน้าผามออีแดงแย่งกระเป๋าเงินที่มีเงินอยู่ในกระเป๋าจำนวนมากไป เนื่องจากลิงคิดว่าเป็นอาหาร เมื่อลิงเห็นว่าไม่ใช่อาหารจึงทิ้งกระเป๋าเงินลงไปใต้หน้าผามออีแดง ลึกลงไปในเขตกัมพูชาประมาณ 150 เมตร
นายสวัสกล่าวว่า ได้รายงานเรื่องนี้ให้ นายวีระชัย กำลังงาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร รับทราบและขออนุญาตปฏิบัติการไต่หน้าผามออีแดงเพื่อไปค้นหาทรัพย์สินมาคืนนักท่องเที่ยว เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงประสานงานไปยัง ร.อ.สิทธินันท์ หมู่ไพบูลย์ ผบ.ร้อย ทพ.2307 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณผามออีแดง เพื่อขอให้ประสานงานไปยังฝ่ายกัมพูชาขออนุญาตลงไปใต้หน้าผามออีแดง ซึ่งเป็นเขตแดนของกัมพูชา
นายสวัสกล่าวต่อว่า เมื่อกัมพูชาอนุญาตแล้ว วันที่ 22 ธันวาคม จึงเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ พร้อมทำพิธีจุดธูปเทียนขออนุญาตเจ้าแม่ผามออีแดงและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ บริเวณผามออีแดง จากนั้นค่อยๆ ไต่ลงไปใต้หน้าผามออีแดงโดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 นำกำลังมาสนับสนุนด้านความปลอดภัย หน้าผามีความสูงชันประมาณ 150 เมตรเศษ ตนได้ไต่ลงไปพักบริเวณปากถ้ำค้างคาวเป็นจุดแรก เป็นจุดที่มีค้างคาวหน้ายักษ์ทศกัณฐ์และค้างคาวหนูอาศัยอยู่จำนวนมาก และค่อยๆ ไต่ลงไปจนถึงพื้นใต้หน้าผามออีแดง ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยของงูจงอางใหญ่ และมีกับระเบิดอยู่จำนวนมาก มีชะนีมงกุฎ ไก่ฟ้าพระยาลอ เป็นสัตว์ป่าหายากอาศัยอยู่
“ระหว่างการค้นหาเงินและสิ่งของ ผมถ่ายทอดสดผ่านระบบโซเชียลด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่คอยรักษาความปลอดภัยด้านบนได้เห็นภาพเหตุการณ์ขณะกำลังค้นหา เป็นการยืนยันความสุจริตในการปฏิบัติภารกิจค้นหา” นายสวัสกล่าว
นายสวัสกล่าวต่อว่า การเดินค้นหาบริเวณใต้หน้าผามออีแดงตั้งแต่เวลา 14.00-17.30 น. พบเงินตกกระจายในป่ารกทึบเป็นบริเวณกว้าง พบกระเป๋าเงิน จำนวน 2 ใบ ใบแรกไม่มีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของ มีเงินบาทไทย จำนวน 14,345 บาท กระเป๋าใบที่ 2 มีเอกสารหลักฐานแสดง ชื่อ นางดวงแก้ว มีเงินสกุลบาทไทย จำนวน 37,770 บาท ธนบัตรสกุลบาทไทยเก่า จำนวน 1,120 บาท เงินดอลลาร์สหรัฐ ฉบับใบละ 100 ดอลลาร์ จำนวน 1 ฉบับ และเงินเยนญี่ปุ่น ฉบับใบละ 10,000 เยน จำนวน 3 ฉบับ และเอกสารอื่นๆ อีก จึงเก็บรวบรวมไว้ จากนั้นไต่หน้าผากลับขึ้นมาด้านบน ซึ่งจะต้องพักถึง 2 จุด เนื่องจากหน้าผาสูงชันมาก โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารด้านบนหน้าผาค่อยๆ ดึงเชือกที่ผูกติดกับตนขึ้นมา จนกลับขึ้นมาบนหน้าผาได้ด้วยความปลอดภัย
นายสวัสกล่าวว่า จากนั้นนำเงินสดและทรัพย์สินต่างๆ ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้ประสานให้เจ้าของทรัพย์สินคือนางดวงแก้ว ชาว จ.อุบลราชธานี และ นายวิเชียร รับทราบและมารับเงินสด พร้อมสิ่งของต่างๆ กลับคืนไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนสิ่งของอย่างอื่นที่พบ เช่น หมวก ได้ให้เจ้าหน้าที่เก็บรักษาไว้เพื่อรอยืนยันจากเจ้าของทรัพย์สินต่อไป
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ