สืบเนื่องจากกรณีกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดระยอง ประกาศเรื่อง บัญชีหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง ตามความในมาตรา 45 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ประกอบข้อ 91 ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. พ.ศ.2566 พบว่า นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล แสดงหนังสือยืนยันการไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า การไม่เสียภาษีนั้นสามารถสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้หรือไม่
ล่าสุด เวลา 16.00 น. วันที่ 28 สิงหาคม นายใจเพชร สาครพานิช ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดระยอง (กกต.ระยอง) กล่าวว่า ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2566 ที่กำหนดให้ผู้สมัครยื่นหลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปีนับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ที่ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ก็ให้ส่งหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุที่ไม่ได้มีการเสียภาษีตามแบบ ส.ส. 4/7 เป็นการรับรองตัวเองว่าเป็นผู้มีรายได้ไม่ถึงการเสียภาษี คือรายได้ต่ำกว่า 200,000 บาท และสามารถสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ได้ อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจะไปตรวจสอบตรงนี้ กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจเอาไว้ ซึ่งหลักฐานการสมัครก็เป็นส่วนหนึ่งของการสมัคร ถ้าเอกสารครบถ้วน กกต.ก็รับสมัครตามระบบ แต่จะเท็จหรือไม่เท็จก็อยู่ที่เขา และเป็นหน้าที่สรรพากรในการตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารการสมัครรับเลือกตั้งผู้สมัครพรรคก้าวไกล กรอกข้อมูลอาชีพไว้อย่างไร นายใจเพชรกล่าวว่า มีการกรอกว่าประกอบอาชีพค้าขาย ซึ่งในส่วนของการค้าขายนั้นจริงๆ ไม่ต้องยื่นแบบก็ได้ เพราะว่ามีการเสียภาษีการค้าของห้างร้านอยู่แล้ว เป็นภาษีคนละแบบ ซึ่งกฎหมายไม่ได้กำหนดให้ยื่นตรงนี้เข้ามาในการลงสมัครรับเลือกตั้ง
นายใจเพชรกล่าวด้วยว่า ประเด็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ยื่นแบบไม่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทั่วประเทศมีผู้สมัครที่ไม่ได้เสียภาษีตรงนี้เยอะมาก ที่จังหวัดระยองเองก็มีเยอะเช่นกัน เพราะรายได้ไม่ถึงเกณฑ์ แต่ครั้งนี้มีเพียงการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 3 ระยองเพียงเขตเดียวทำให้มีการเพ่งเล็งเยอะเท่านั้นเอง แต่กฎหมายไม่ได้ห้าม เพราะถ้ารายได้ไม่ถึงเกณฑ์ก็ไม่ได้ยื่น
เมื่อถามถึงสถานการณ์หาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่เขต 3 ระยอง นายใจเพชรกล่าวว่า ตอนนี้เหลือเวลาประมาณ 10 กว่าวันในการหาเสียง ซึ่งแต่ละพรรคการเมืองที่มีผู้สมัครต่างก็ใช้ผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคมาช่วยลงพื้นที่หาเสียง ทำให้เกิดความคึกคักกระตุ้นการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้มาก ในส่วนของ กกต.ก็มีหน่วยข่าวลงพื้นที่อยู่ ยังไม่พบว่ามีการทุจริตรับเลือกตั้งแต่อย่างใด และยังไม่มีการร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้งเข้ามา
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ