กทม. ใช้บัตร 30 บาทรักษาได้ทุกที่แล้ว ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว สมศักดิ์ปลื้ม 46 จว.พร้อมบริการ





19 มิถุนายน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า จากนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคในยุคที่นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มาเป็น 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว วันนี้มีความก้าวหน้าไปอีกขั้นหนึ่ง

โดยเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2567 นายจเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ออกประกาศ สปสช. ลงราชกิจจานุเบกษา เรื่องจังหวัดที่ดำเนินงานตามนโยบายดังกล่าว พ.ศ.2567 ให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ เป็นความภูมิใจของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่เข้ามาบริหารประเทศ ทำทันที ผ่านมา 10 เดือน รัฐบาลห่วงใยสุขภาพของประชาชน พี่น้องคนไทยสามารถรักษาพยาบาลฟรีด้วยบัตรประชาชนใบเดียวได้ถึง 46 จังหวัดแล้ว

และภายหลังที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาทำหน้าที่ จากเดิมการใช้บัตร 30 บาทรักษาทุกที่ดัวยบัตรประชาชนใบเดียว จาก 45 จังหวัดประกาศเพิ่มอีก 1 มีกรุงเทพมหานครรวมอยู่ด้วย

อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกันกับเฟสแรก 4 จังหวัด เฟสสอง 8 จังหวัด เฟสสามอีก 33 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด เพิ่มกรุงเทพฯ 1 จังหวัด เท่ากับ 46 จังหวัด ถือว่า การให้บริการขยายเกินกว่าครึ่งประเทศแล้ว

จากประกาศนำร่องเฟสแรก จังหวัดร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี นราธิวาส และเพิ่มเฟสสองและสามตามมา รวมวันนี้ประกาศเพิ่มอีก 42 จังหวัดประกอบด้วย นครราชสีมา, นครสวรรค์, พังงา, เพชรบูรณ์, สระแก้ว, สิงห์บุรี, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, เชียงใหม่, เชียงราย, น่าน, พะเยา, ลำปาง, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, กำแพงเพชร, พิจิตร, ชัยนาท, อุทัยธานี, สระบุรี, นนทบุรี, ลพบุรี, อ่างทอง, นครนายก, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์, สงขลา, สตูล, ตรัง, พัทลุง, ปัตตานี, ยะลา และกรุงเทพฯ

อย่างไรก็ตามเมื่อรวมกันกับเฟสแรก 4 จังหวัด เฟสสอง 8 จังหวัด เฟสสามอีก 33 จังหวัด รวมเป็น 45 จังหวัด เพิ่มกรุงเทพฯ 1 จังหวัด เท่ากับ 46 จังหวัด ถือว่า การให้บริการขยายเกินกว่าครึ่งประเทศแล้ว

จากประกาศนำร่องเฟสแรก จังหวัดร้อยเอ็ด แพร่ เพชรบุรี นราธิวาส และเพิ่มเฟสสองและสามตามมา รวมวันนี้ประกาศเพิ่มอีก 42 จังหวัดประกอบด้วย นครราชสีมา, นครสวรรค์, พังงา, เพชรบูรณ์, สระแก้ว, สิงห์บุรี, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, เชียงใหม่, เชียงราย, น่าน, พะเยา, ลำปาง, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน, กำแพงเพชร, พิจิตร, ชัยนาท, อุทัยธานี, สระบุรี, นนทบุรี, ลพบุรี, อ่างทอง, นครนายก, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, เลย, หนองคาย, บึงกาฬ, ชัยภูมิ, บุรีรัมย์, สุรินทร์, สงขลา, สตูล, ตรัง, พัทลุง, ปัตตานี, ยะลา และกรุงเทพฯ

น.ส.ตรีชฎากล่าวว่า สำหรับกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวง มีประชากรจำนวนมาก เป็นพื้นที่ที่ยาก แต่วันนี้กระทรวงสาธารณสุขทำได้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ไปใช้บริการในคลินิกนวัตกรรมทั้ง 7 วิชาชีพได้เช่นเดียวกับต่างจังหวัดที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ เพียงใช้บัตรประชาชนใบเดียวก็เข้ารับบริการทั้ง 7 วิชาชีพ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว คลินิก 7 วิชาชีพ ได้แก่ คลินิกเวชกรรมชุมชนอบอุ่น, คลินิกทันตแพทย์ชุมชนอบอุ่น, คลินิกเทคนิคการแพทย์ชุมชนอบอุ่น, คลินิกพยาบาลชุมชนอบอุ่น, คลินิกแพทย์แผนไทยชุมชนอบอุ่น, คลินิกกายภาพชุมชนอบอุ่น และร้านยาที่มีสัญลักษณ์

นอกจากนี้ สิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวสามารถทำฟันฟรีปีละ 3 ครั้ง ที่คลินิกทันตกรรมอบอุ่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว ได้รับบริการ 5 รายการ คือ ขูดหินปูน, อุดฟัน, ถอนฟัน, เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ การเข้ารับบริการขอให้สังเกตโลโก้รูปบ้านและสัญลักษณ์ สื่อถึงแต่ละวิชาชีพในรูปหัวใจติดอยู่ที่หน้าคลินิก

โฆษกกระทรวง สธ. ฝ่ายการเมือง กล่าวว่า นายสมศักดิ์ปลื้มมากที่การทำงานของกระทรวงสาธารณสุขทำได้อย่างรวดเร็วเพื่อประชาชน ขอบคุณบุคลากรในกระทรวงสาธารณสุขทุกคน ที่ตั้งใจมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน ไม่ว่าสิทธิบัตรทองจะอยู่ที่ไหน ยื่นบัตรประชาชนใบเดียวก็เข้าไปรับบริการได้ทันที ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ใช้บริการได้ทั่วประเทศตามคลินิก 7 ประเภท ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือเข้าไลน์ ID ของ สปสช. โทร 1330 และช่องทางอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการก็เข้ารับบริการฟรีที่ร้านยาใกล้บ้าน ให้สังเกตป้าย ส่วนอีก 30 จังหวัดอดใจรออีกนิดเดียว ภายในสิ้นปีนี้ คนไทยได้ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวทั้งประเทศ โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว” น.ส.ตรีชฎากล่าว

 

ข้อมูลจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: