แจกฟรีทั่วประเทศ กล้าไม้มงคล 72 ล้านต้น เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ





พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชปณิธาน การพัฒนางานด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้

กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จัด “โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ” เพื่อแจกจ่ายกล้าไม้ ให้ประชาชนได้ร่วมใจและบูรณาการปลูกต้นไม้และปลูกป่า พร้อมทั้งบำรุงรักษาต้นไม้ให้เจริญเติบโตงอกงาม คืนธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ คืนอากาศสะอาดให้กับประชาชน และช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดมลภาวะอากาศเป็นพิษจากฝุ่นและหมอกควัน

ทั้งนี้ โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จะแจกกล้าไม้รวมจำนวน 72 ล้านต้น 144 ชนิด รวมทั้งกล้าไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจ เช่น สัก มะค่าโมง พะยูง แดง ยางนา ประดู่ป่า นอกจากนี้ ยังมีกล้าไม้มงคลพระราชทานหายากที่มีค่าทางเศรษฐกิจ สวยงาม มีคุณประโยชน์หลากหลาย สามารถลงทะเบียนรับฟรีได้แล้ววันนี้ที่ https://72m.forest.go.th/login

ตัวอย่างไม้มงคลพระราชทาน 10 รายการ โครงการ 72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า เฉลิมพระเกียรติฯ

1.กันเกรา มีชื่อที่เป็นมงคล หมายถึง กันสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายไม่ให้มาทำอันตรายใด ๆ หนึ่งในไม้มงคล 9 ชนิด ที่คนนิยมนำมาใช้ในพิธีกรรมในตอนก่อสร้างบ้านเรือนเพื่อความเป็นสิริมงคล นิยมปลูกเพื่อความสวยงาม ดอกมีกลิ่นหอม สีขาวอมเหลือง เปลือกมีสรรพคุณบำรุงโลหิต พบได้ทั่วไป มีมากในภาคใต้

2.ชิงชัน เป็นต้นไม้ที่มีลักษณะที่ดี ลำต้นเปลาตรง เรือนยอดพุ่มกลม เนื้อไม้แข็งแรง และเหนียวมาก นิยมนำมาทำเฟอร์นิเจอร์ เนื่องจากขัดชักเงาได้ดี สวยงามและทนทาน

3.เสลา หรืออีกชื่อเรียกว่า อินทรชิต ลักษณะดอกสวยงามมีหลายสี ม่วง ม่วงอมชมพู หรือม่วงอมขาว ผลแห้งใช้ทำของประดับตกแต่ง เนื้อไม้นิยมนำมาแกะสลัก ใบบดกับกำยานใช้ทาผดผื่นคัน

4.กัลปพฤกษ์ มีดอกสวยงาม สีขาวอมชมพู จึงนิยมเรียกกันว่าซากุระเมืองไทย พบมากทางภาคเหนือในพื้นที่ป่าเต็งรัง ออกดอกช่วงเดือนมกราคม ถึงมิถุนายน ฝักสามารถใช้เป็นยาระบายอ่อนๆได้

5.มะค่าแต้ หรือ มะค่าหนาม พบได้ทั่วไปตามป่าผลัดใบ ป่าดิบแล้ง และป่าชายหาด นิยมนำเปลือกมาใช้ย้อมไหม ให้สีแดง ฝักและเปลือก ให้น้ำฝาดใช้ฟอกหนัง

6. กระบาก เป็นไม้ต้นผลัดใบ สูงได้ถึง 40 เมตร ลำต้นเปลาตรง เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมเหลือง ถึงน้ำตาลคล้ำ ใช้สำหรับงานก่อสร้าง ทำไม้แบบ ชันใช้ผสมน้ำมันทาไม้ น้ำยาชักเงา และใช้ยาแนวเรือ

7. ศรีตรัง นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เนื่องจากมีทรงพุ่มสวยงาม ดอกมีสีม่วง ช่อใหญ่ มีกลิ่นหอม ชอบอากาศเย็นและชุ่มชื้น ถ้าปลูกในที่แล้งจะพลัดใบ

8. “ยมหิน” ไม้พลัดใบ ลำต้นเปลาตรง พบได้ทั่วไปในทุกภาคของประเทศ เนื้อไม้นิยมนำมาทำเครื่องเรือนเพราะมีสีและลวดลายที่สวยงาม

9. “จัน” ไม้ยืนต้นไม่พลัดใบ ผลสดมีสองรูปร่าง คือทรงกลมแป้นเรียกว่าลูกจัน และทรงกลมเรียกว่าลูกอิน ผลสุกสีเหลือง มีกลิ่นหอม และทานได้มีรสหวาน มีสรรพคุณทางยา คือแก้ไข บำรุงเลือดลม แก้ร้อนในกระหายน้ำ บำรุงประสาท แก้เหงื่อตกหนัก ปอดตับพิการ ขับพยาธิ แก้สะอึก แก้ท้องเสีย แก้ไขกำเดา

10.”สาธร” ไม้ต้นขนาดกลาง พบขึ้นใกล้แหล่งน้ำทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ เนื้อไม้มีสีขาวอมน้ำตาล แก่นไม้มีสีน้ำตาลอมดำ มีลักษณะสวยงาม ใช้ในการก่อสร้าง ใช้ทำเครื่องเรือน และด้ามเครื่องมือเครื่องใช้ เช่น เสาเรือน ขื่อ รอด เพลา เกวียน เครื่องนอน ครก สาก

ประชาชนที่สนใจรับกล้าไม้ฟรี สามารถคลิกลงทะเบียนได้จากโครงการ ฯ https://72m.forest.go.th/login ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ข้อมูลจาก : ฐานเศรษฐกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: