ภูมิธรรม สั่งให้ข้อมูลจริงกับปชช. ยันไม่ท่วมหนักเท่าปี 54 ขอให้มั่นใจน้ำไม่ถึง กทม.





25 สิงหาคม ที่ จ.น่าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาถึงท่าอากาศยานน่านนคร จ.น่าน เพื่อปฏิบัติราชการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ประชาชนที่ประสบเหตุอุทกภัยในพื้นที่ อ.ท่าวังผา จ.น่าน โดยจุดแรกเดินทางไปยังวัดอัมพวัน (ม่วงใต้) ต.ศรีภูมิ อ.ท่าวังผา จ.น่าน เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำผ่านรถ Mobile War Room พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 728 หลังคาเรือน และฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำจาก นางรอยบุญ รัศมีเทศ ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)

โดยรายงานถึงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำรายวันของกรมชลประทาน คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ และหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือที่ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะนี้ทุกหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ แม้ว่าขณะนี้เกิดเหตุฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ขณะเดียวกันในพื้นที่ภาคใต้ก็เกิดเหตุเช่นเดียวกัน ซึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ไม่ใช่แค่ภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่งแล้ว

ด้านนายภูมิธรรมกล่าวว่า ขอให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลให้กับทุกหน่วยงานรับทราบ และขอให้ติดตามสถานการณ์อย่าเพิ่งวางใจเพราะฝนยังตกอยู่ และขอให้มีการกระจายรถโมบายไปในหลายพื้นที่ รวมถึงให้เชื่อมโยงข้อมูลไปยังส่วนกลางด้วย เพราะขณะนี้สถานการณ์ยังต้องจับตาอยู่ รวมถึงสถานการณ์ที่ จ.สุโขทัย ที่สถานการณ์อาจจะหนักได้ เพราะน้ำเริ่มไหลลงไปยังพื้นที่ จ.สุโขทัย และขอให้ใช้โดรนติดตามความเคลื่อนไหวของมวลน้ำ

นายภูมิธรรมยังขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยให้ข้อมูลแก่ประชาชน จากกรณีกระแสข่าวว่าน้ำอาจจะท่วมหนักเหมือนปี 2554 เพื่อที่ประชาชนจะได้เกิดความสบายใจ

จากนั้น นายภูมิธรรมได้พบปะให้กำลังใจประชาชน พร้อมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัย จำนวน 728 หลังคาเรือน โดยกล่าวว่า รัฐบาลทราบปัญหา และพร้อมแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนชาว จ.น่าน แพร่ และเชียงราย รัฐบาลพยายามคาดการณ์ล่วงหน้าถึงจุดต่างๆ ที่จะเกิดเหตุการณ์ ซึ่งเครื่องมือขณะนี้ค่อนข้างตรงกับสถานการณ์ จึงอยากให้ประชาชนรับฟังข่าวสารเพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายได้

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ไม่เหมือนเดิมจากภาวะโลกร้อน จึงต้องพูดถึงต้นตอต้องช่วยกันดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ ตนเคยพูดเรื่องนี้กับ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ถึงปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่ใช้เงินมาก จึงควรทำเรื่องน้ำเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยพูดเรื่องนี้ตั้งแต่สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งช่วงต้นปี 2554 สั่งเตรียมงบประมาณไว้ 2-3 ล้านล้านบาท แต่ครั้งนี้ประมาณการไปว่า 5-6 ล้านล้านบาท คิดว่าจะทำตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ แม้ว่าจะใช้งบประมาณมากแต่คุ้มค่าในระยะยาว

 

ข่าวจาก : มติชน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: