กรณี น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม สอบติดพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน ลำดับที่ 1 เอกวิทยาศาสตร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว (สพม.สระแก้ว) แต่เมื่อผ่านไป 3 วัน สพม.สระแก้ว ได้มีการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไป ครั้งที่ 2 ปรากฏชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้สอบได้ในลำดับที่ 1 แทน และชื่อของ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม หายไปจากบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรเป็นพนักงานราชการทั่วไปนั้น
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) แถลงถึงผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยมี นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นประธาน และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นกลาง ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ข้าราชการสังกัด สพฐ.ให้เข้ามาร่วมดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ประกอบด้วย นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด เป็นประธานกรรมการ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และพลตำรวจตรี ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผู้บังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป็นกรรมการ นายโกวิท คูพะเนียด ผู้อำนวยการสำนักนิติการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นเลขานุการ และนายสุภกฤต ทิพย์กุล นิติกรชำนาญการพิเศษ เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
นายสิริพงศ์กล่าวต่อว่า ผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง ปรากฏว่า การดำเนินการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตำแหน่งครูผู้สอน สังกัด สพม.สระแก้ว ได้ดำเนินการตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการทั่วไป ตามประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการ และแบบสัญญาจ้างของพนักงานราชการ พ.ศ.2552 แล้ว และในการตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่พบข้อพิรุธใด ในขั้นตอนการดำเนินการตั้งแต่การออกประกาศรับสมัครจนถึงขั้นตอนการประกาศผลการสอบคัดเลือก ในวันที่ 9 กันยายน 2567 จนกระทั่งหลังจากที่มีการลงประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ ในเว็บไซต์ของ สพม.สระแก้ว ปรากฏว่า มีบุคคลภายนอกนำข้อสอบบางข้อไปโพสต์ใน Social ว่าข้อสอบผิด และมีผู้โทรมาสอบถามเจ้าหน้าที่ของ สพม.สระแก้ว เกี่ยวกับข้อสอบที่ผิด และถามถึงการดำเนินการว่า มีการดำเนินการในเรื่องที่ข้อสอบผิดอย่างไร
“เมื่อนายประยงค์ สารภูมิ ผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว ได้รับทราบปัญหาดังกล่าวจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการทบทวนการออกแบบทดสอบฯ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของแบบทดสอบและเฉลยอีกครั้ง เมื่อพบถึงความผิดพลาดในการออกข้อสอบและเฉลยข้อสอบ จึงได้มีการดำเนินการตรวจกระดาษคำตอบของผู้เข้าสอบใหม่ และมีการประมวลผลคะแนนใหม่ทั้งหมดทุกสาขาวิชาโดยคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง ทำให้พบว่าประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรพนักงานราชการฯ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2567 ในสาขาวิชาเอก วิทยาศาสตร์ทั่วไป ปรากฏชื่อบุคคลที่ได้รับการสรรหาและเลือกสรรในลำดับที่ 1 ได้แก่ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม รหัสประจำตัวสอบ 100400021 ทั้งที่การประมวลผลคะแนน น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ได้คะแนนไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ คือ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ในบางภาค จึงไม่ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ แต่ผู้ที่ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ คือ น.ส.ปิยะโสภิชา นาคพงษ์ รหัสประจำตัวสอบ 1004000020 ซึ่งมีรายชื่ออยู่ในลำดับติดกัน” โฆษก ศธ.กล่าว
โฆษก ศธ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ เมื่อมีการประมวลผลคะแนนครั้งที่สอง มีผู้สอบได้เพิ่มขึ้นในบางสาขาวิชา และลำดับการสอบได้เปลี่ยนแปลงไป สพม.สระแก้ว จึงได้ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อเพื่อให้ตรงกับข้อมูลจากการประมวลผลคะแนนการสอบในครั้งที่ 2 สำหรับกรณีที่มีการประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาผิดพลาดนั้น เกิดจากเจ้าหน้าที่ของ สพม.สระแก้ว ที่มีหน้าที่จัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ ที่ได้รับการเร่งรัดจากผู้บังคับบัญชาให้ดำเนินการเสนอประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ เจ้าหน้าที่ผู้นั้นจึงได้จัดทำหน้าประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ โดยเสนอให้ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล และรองผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว ซึ่งกำกับดูแลกลุ่มบริหารงานบุคคล ตรวจสอบตามลำดับชั้น โดยยังไม่ได้แนบบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ เนื่องจากยังไม่ได้รับซองสรุปผลคะแนนประมวลผล
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้นำหน้าประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ เสนอผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว ลงนาม ต่อมาเมื่อมีการเปิดซองประมวลผลคะแนนการสอบ เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจึงได้จัดทำเอกสารบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหา และเลือกสรรฯ แนบท้ายประกาศ โดยนั่งพิมพ์รายชื่อแนบท้ายประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ จากเอกสารประมวลผลคะแนน เมื่อพิมพ์เสร็จ ได้ส่งรายชื่อแนบท้ายประกาศให้เจ้าหน้าที่ธุรการนำไปเสนอผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว แต่ไม่ได้แนบเอกสารประมวลผลคะแนนไปด้วย จึงไม่มีผู้ใดตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาเลือกสรรฯ ที่เจ้าหน้าที่ผู้นั้นจัดทำขึ้น ทำให้ไม่พบข้อผิดพลาดดังกล่าว
จนกระทั่ง มีการตรวจกระดาษคำตอบและประมวลผลคะแนนใหม่ เนื่องจากมีข้อสอบผิด จึงทำให้พบว่าบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ วิชาเอกวิทยาศาสตร์ทั่วไป ผิดพลาด สพม.สระแก้ว ดำเนินการประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อใหม่ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง โดยในการตรวจสอบข้อเท็จจริงไม่พบพฤติกรรมใดที่ส่อไปในทางไม่สุจริต
นอกจากนี้ สพฐ.ได้ส่งกระดาษคำตอบของ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม และ น.ส.ปิยะโสภิชา นาคพงษ์ ให้สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ตรวจสอบลายมือชื่อและร่องรอยการแก้ไขกระดาษคำตอบแล้ว ไม่พบความผิดปกติใด อีกทั้ง น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ก็ได้ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สพฐ. ว่าได้ตรวจสอบชุดข้อสอบและกระดาษคำตอบที่คณะกรรมการนำมาให้ดูแล้ว ยืนยันว่าเป็นของตน และได้ตอบคำถามตรงตามข้อสอบจริง คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ให้ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ตรวจสอบคำตอบกับเฉลยข้อสอบ พบว่าได้คะแนนตรงตามคะแนนที่คณะกรรมการประมวลผลคะแนนจัดทำไว้จริง และทราบว่าตนได้คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 พร้อมยืนยันว่าไม่ติดใจในผลคะแนนการสอบ และจากการสอบถาม นายธีร์ ภวังคนันท์ ประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สพฐ. ยืนยันว่า น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ได้ให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงด้วยความเต็มใจ ไม่ได้เกิดจากการขู่เข็ญหรือคุกคามแต่อย่างใด ส่วนเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการสรรหาและเลือกสรรฯ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงก็ได้ยึดหรืออายัดมาเก็บรักษาไว้ที่ สพฐ. กรณีดังกล่าว จึงเชื่อได้ว่าไม่ได้มีการดำเนินการแก้ไขผลการสอบใดๆ
ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ประสานเพื่อขอให้ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม มาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว แต่ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม ปฏิเสธการเข้าพบคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ดังนั้น จากการรวบรวมพยานหลักฐานไม่ปรากฏว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการสรรหาและเลือกสรรฯ รายใดมีพฤติการณ์เรียกรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใด เพื่อเปลี่ยนแปลงแก้ไขผลการสรรหาและเลือกสรรฯ อันเป็นการช่วยเหลือหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้เข้ารับการสรรหาหรือเลือกสรรฯ รายหนึ่งรายใด ที่ส่อไปในทางทุจริต
“การดำเนินการจัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ ผิดพลาด เกิดจากการกระทำด้วยความประมาทเลินเล่อของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่ไม่แนบเอกสารประมวลผลคะแนนการสอบ พร้อมกับการเสนอร่างประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีรายชื่อแนบท้ายประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหาและเลือกสรรฯ ซึ่งปัจจุบัน สพฐ.ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องแล้ว” นายสิริพงศ์กล่าว
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ