7 ธ.ค. 2567 สถานการณ์การเมืองเกาหลีใต้ยังคงเผชิญความกดดันจากวิกฤติครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ หลังจากประธานาธิบดี “ยุน ซอกยอล” ออกมาขอโทษต่อประชาชน กรณีการประกาศกฎอัยการศึก แต่ยืนยันไม่ลาออก แม้จะถูกกดดันจากทุกฝ่าย รวมถึงจากสมาชิกในพรรคของตนเอง และเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการลงมติถอดถอนในรัฐสภา
ยุน ซอกยอล กล่าวในแถลงการณ์ถ่ายทอดสดว่า การประกาศกฎอัยการศึกในครั้งนี้เกิดจาก “ความสิ้นหวัง” พร้อมยอมรับความรับผิดชอบทางกฎหมายและการเมือง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการใช้กฎอัยการศึกอีกครั้ง “ผมขอโทษประชาชนทุกคนอย่างจริงใจที่ต้องตระหนกกับเหตุการณ์นี้”
การประกาศกฎอัยการศึกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2523 ส่งผลให้ประเทศที่เป็นเศรษฐกิจใหญ่อันดับสี่ของเอเชียและพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ตกอยู่ในสภาพการเมืองที่ร้อนระอุ เสื่อมเสียภาพลักษณ์ในฐานะประชาธิปไตยตัวอย่างแห่งเอเชีย
ฮัน ดงฮุน หัวหน้าพรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล กล่าวว่า ยุน ซอกยอลไม่มีความสามารถในการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป และควรลาออกโดยทันที แม้สมาชิกพรรคส่วนใหญ่ยังคงคัดค้านการถอดถอน แต่ความเห็นของฮันทำให้แรงกดดันภายในพรรคพุ่งสูงขึ้น
ก่อนหน้านี้ ยุน ซอกยอล กล่าวหาว่ารัฐสภาซึ่งมีพรรคฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ใช้มติถอดถอนสมาชิกในรัฐบาลของเขาในลักษณะ “ล้มล้างการบริหารประเทศ” และยังกล่าวหาว่า การจัดการงบประมาณของรัฐสภาเป็นภัยต่อความปลอดภัยสาธารณะ
เหตุการณ์นี้ทำให้ประชาชนชาวเกาหลีใต้ออกมาประท้วงตามท้องถนนอีกครั้งในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเรียกร้องให้มีการถอดถอนยุน ซอกยอลจากตำแหน่ง เช่นเดียวกับกรณีการถอดถอนประธานาธิบดีพัค กึนฮเย เมื่อปี 2559 ซึ่งนำไปสู่การล่มสลายของพรรคพลังประชาชนในอดีต
การถอดถอนในครั้งนี้ต้องการเสียงเห็นชอบอย่างน้อย 200 จาก 300 เสียงในรัฐสภา โดยพรรคฝ่ายค้านซึ่งมี 192 เสียงต้องการเพียง 8 เสียงจากฝ่ายรัฐบาลเพื่อให้การลงมติสำเร็จ
ขณะเดียวกัน หาก ยุน ซอกยอล ถูกถอดถอน ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาคดีต่อไป โดยในปัจจุบัน ศาลมีผู้พิพากษาเพียง 6 คน ซึ่งอาจส่งผลให้กระบวนการถอดถอนล่าช้า เช่นเดียวกับกรณีของพัค กึนฮเย ที่ใช้เวลากว่า 3 เดือนก่อนการพ้นตำแหน่ง
ในระดับนานาชาติ การประกาศกฎอัยการศึกของยุน ซอกยอลยังส่งผลให้เกิดความกังวลต่อความมั่นคงในภูมิภาค โดยรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ยกเลิกการเดินทางมายังเกาหลีใต้ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อสถานการณ์
ขณะนี้ อัยการกำลังเร่งสืบสวนกรณีการประกาศกฎอัยการศึก โดย ยุน ซอกยอล และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอาจเผชิญข้อหากบฏ การใช้อำนาจในทางมิชอบ และการละเมิดสิทธิ หากถูกตัดสินว่ามีความผิด การนำกบฏในเกาหลีใต้มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ขณะที่ประชาชนต่างจับตามองผลการลงมติในช่วงบ่ายวันเสาร์นี้ ซึ่งอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอนาคตทางการเมืองของประเทศ
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ