นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน แถลงผลงานครบรอบ 70 วันที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ประเด็นแรกคือการกำกับดูแลสินค้าเกษตร โดยกำหนดกรอบนโยบาย แผนงาน และมาตรการการบริหารจัดการ รวมทั้งช่วยเหลือเกษตรกร สถาบันเกษตรกร อาทิ การพัฒนาคุณภาพ ลดต้นทุน ในส่วนของข้าวได้ลงพื้นที่ติดตามการซื้อขายข้าวและหารือรับฟังปัญหาจากเกษตรกรในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาด นำมาสู่การดำเนินโครงการส่งเสริมศักยภาพการตลาดข้าวกลุ่มเกษตรกร พร้อมดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกโดยเก็บไว้ที่ยุ้งฉาง
มันสำปะหลัง ได้ติดตามสถานการณ์การผลิตและการค้าอย่างต่อเนื่อง พร้อมดันมาตรการรักษาเสถียรภาพราคามันสำปะหลัง ปี 67/68 มาตรการกำกับดูแลการรับซื้อ การขยายตลาดส่งออกมันเส้นและแป้งมัน
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยึดมาตรการรับซื้อผลผลิตในประเทศให้หมดก่อน รวมถึงใช้มันสำปะหลังและปลายข้าวทดแทนการนำเข้าข้าวสาลีจากต่างประเทศ โดยมีผู้ประกอบการช่วยพยุงราคา พร้อมตรวจสอบสถานการณ์ราคาสินค้าและการขนย้ายสินค้าเกษตรผ่านแดนต่อเนื่อง
ปาล์มน้ำมัน ติดตามราคาปาล์มน้ำมันทุกวัน ทั้งผลผลิตและสกัด จนนำไปทำเป็นน้ำมันปาล์มขวด รวมทั้งขอความร่วมมือชะลอการส่งออก การเข้าดูแลโมเดิร์นเทรดหรือห้างสรรพสินค้าไม่ให้มีการปรับราคา (สต๊อกเก่า) และผลักดันกลุ่มผู้ใช้ในครัวเรือนใช้น้ำมันถั่วเหลืองสลับกับน้ำมันปาล์มในช่วงที่ผลผลิตออกน้อย
“สินค้าเกษตรที่กำลังจะมีผลผลิตออกกระจุกตัวในช่วง 1-3 เดือนนี้ คือ หอมแดง ได้ติดตามสถานการณ์และเตรียมแผนก่อนช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมากในช่วง ม.ค. – มี.ค. โดยเชื่อมโยงเจรจาซื้อขายผลผลิตล่วงหน้า ผ่านสัญญาข้อตกลงมาตรฐาน รวมทั้งรับซื้อและกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต” นายวิทยากร กล่าว
ประเด็นที่สองการลดค่าครองชีพประชาชนและต้นทุนของผู้ประกอบการ ได้ดำเนินโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจตามนโยบายรัฐบาลร่วมกับผู้ผลิตรายใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค และค่าบริการกว่า 70% จัดโปรโมชั่นผ่านร้านธงฟ้า ร้านชุมชนกว่า 140,000 ร้านค้า คาดช่วยลดภาระค่าครองชีพได้ 14,400 ล้านบาท ขณะที่ช่วงเทศกาลอย่างกินเจ เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ได้จัดกิจกรรม “เทศกาลกินเจ อิ่มบุญราคาประหยัด” จับมือกับพันธมิตรต่าง ๆ ลดราคาสินค้าช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน 750 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม 2,250 ล้านบาท
ในส่วนของนโยบายฟื้นฟูหลังอุทกภัยของรัฐบาล กรมฯ ได้จำหน่ายสินค้าราคาประหยัด “ธงฟ้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และ “ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย” ใน 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี สงขลา และสตูล โดยจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าจำเป็นต่อการครองชีพ และนำสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ กลุ่มเกษตรกร ในพื้นที่จังหวัด กว่า 500-1,000 รายการลดสูงสุด 60% พร้อมจัดถุงยังชีพ ประสานห้างค้าปลีกค้าส่งสต๊อกสินค้าให้มีจำหน่ายอย่างเพียงพอ ไม่ให้แพง และไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคา
“สำหรับแผนลดค่าครองชีพและต้นทุนผู้ประกอบการที่จะดำเนินการต่อคือ “พาณิชย์ลดราคา New Year Maga Sale 2025” ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคเพิ่มพิเศษทั่วประเทศข้ามปีในเทศกาลปีใหม่ รวม 46 วัน ระหว่าง 17-19 ธ.ค. 67 เปิดตัวที่กระทรวงพาณิชย์ นอกจากลดภาระค่าครองชีพแล้ว ยังเพิ่มช่องทางการจำหน่ายและกระตุ้นกำลังซื้อให้ประชาชน” นายวิทยากร กล่าว
อ่านต่อที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/238539
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ