ยังจำกันได้ใช่ไหมกับเรื่องราวที่ฮือฮาวงการแพทย์เมืองไทย เมื่อจู่ๆก็มีหมอสาวคนหนึ่งลาออกจากการเป็นหมอรักษาคนไข้เพื่อไปเป็นแม่ค้า จากวันนั้นถึงวันนี้มาดูกันซิว่า คุณหมอที่โดนวิจารณ์หนักหน่วงผ่านไปหลายเดือนชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปยังไงกันบ้าง หมอลี่ หรือ แพทย์หญิง ชลธิรา ชินะกาญจน์ จบการศึกษาจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มาอย่างดีแต่กล้าทำในสิ่งที่หลายคนไม่กล้าทำ นั่นคือการไปเป็นแม่ค้านั่งขายของตามตลาดสดหาเลี้ยงชีวิตปิดฉากการเป็นหมอทั้งที่เส้นทางอนาคตยังอีกยาวไกล กลายเป็นปริศนา เกิดอะไรขึ้นทำไมเธอถึงทำแบบนั้น
แต่ยังไม่ทันที่หมอลี่ จะได้ออกมาอธิบายถึงการตัดสินใจครั้งนี้ กับโดนคนในสังคมโซเซียลวิจารณ์ซ้ำร้ายไปกว่านั้น กลับโดนมองโดนด่าว่าไร้จิตสำนึก ลามปามดราม่ารุนแรงขนาดว่า หนีทุน ซึ่งกำลังเป็นข่าวประเด็นใหญ่ที่เพิ่งเกิดขึ้นกับคนในวงการแพทย์ ยิ่งมาเจอกรณีหมอลี่ ยิ่งทำให้กระแสดราม่าหนักหน่วงจนในที่สุด คุณหมอลี่ ได้ออกเล่าความในใจกับการปิดฉากเส้นทางหมอที่ใครๆก็มองว่าสวยงาม เป็นอาชีพที่มีเกียรติ ทุกคนในสังคมยกย่อง
เปิดเผยเรื่องราวของคุณหมอคนเก่ง จากเฟสบุคของเธอเอง ที่ใช่ชื่อว่า Choltira Chinakarn ที่ค่อนข้าง ดราม่าเพราะด้วยหน้าที่การงาน จบสูงเรียนหมออย่างดี แต่วันดีคืนดีเพื่อนหมอและนางพยาบาลพากันตามตัวไม่เจอที่โรงพยาบาลหลังเลิกเวร สุดท้ายกลับไปพบ หมอลี่ นั่งหน้าแป้นกวักมือเรียกลูกค้าขายของปนกับแม่ค้าชาวบ้านที่ตลาดสดในจังหวัดระนองอย่างมีความสุข สร้างความฮือฮาในบรรดาหมู่คนอาชีพเดียวกัน รวมถึงชาวบ้านชาวช่องอย่างเราๆว่า หมอลี่คนนี้คิดอะไรอยู่ ขัดกับภาพคุณหมอในโรงพยาบาลอย่างชัดเจน เรื่องราวของหมอลี่ ได้ถูกเปิดเผยลงในนิตยสารหลายเล่มทีวีหลายช่อง กับชีวิตที่เลือกทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด
“ข้อความที่ลี่อยากจะเล่าอยากจะอธิบายความในใจที่อัดอั้นมานานอาจจะเปลี่ยนชีวิตใครบางคนก็เป็นได้ หรืออาจจะทำให้ใครบางคนไม่พอใจ แต่มันคือเรื่องที่ลี่อยากจะเปิดใจ ทำไมลี่ถึงคิดอยากลาออกจากราชการดี หรือไม่ดียังไง เพราะอะไรแล้วมันเริ่มต้นยังไง ลี่พูดได้เลยว่า ราชการเป็นระบบที่ดีมากค่ะมั่นคง มีเกียรติ ครอบครัวและญาติหน้าชื่นตาบาน แต่ลี่ขอเล่าเรื่องต่อไปนี้ที่ลี่อยากจะบอกออกไป ตอนที่ลี่ยังเป็นแพทย์ใช้ทุน แน่นอนเป็นหมอก็ต้องอยู่เวร สมมุติว่าในโรงพยาบาลมีหมอ 5 คน 1 เดือนมี 30 วัน ก็แสดงว่าหมอ1คนต้องอยู่เวรห้องฉุกเฉิน 6วัน โดยส่วนมากเวลาอยู่ก็จะควบ2กะ คือบ่ายกับดึก (16.00-8.00 ของวันถัดไป) แต่ถ้าวันหยุดก็ยิงยาว 24 ชม. ซึ่งในวันธรรมดา หลังลงเวรยังต้องไปราวหวอดต่อในตอนเช้า บางวันก็เข้าประชุม เข้าห้องผ่าตัดต่อ ตกบ่ายบางวันมีตรวจคนไข้ opd ยังไม่รวมเวรแต่ละหวอดที่แพทย์ใช้ทุนต้องไปวน เวรชันสูตร เวรตรวจคนไข้นอกเวลา … สรุปง่ายๆ ใน1 เดือนจะมีวันว่างน้อยมาก”
“ลี่เริ่มมีปัญหาสุขภาพ คือเป็นลมบ่อย ป่วยบ่อยมาก อาจจะเพราะนอนไม่พอ เครียดด้วย ตอนนั้นเองทำให้ลี่เริ่มคิดว่า “ฉันไม่อยู่เวรได้ไหม?” ไม่อยู่เวรได้ไหม? คำตอบคือได้ ถ้าหากมีคนยอมซื้อเวรต่อจากเรา บางทีก็ขายได้ บางทีก็ไม่ได้เพราะเพื่อนๆคนอื่นก็อยู่ไม่ไหวบางทีลี่ก็คิดนะ ลี่ไม่อยู่เวรได้ไหม ไม่เอาเงินเวร ลี่ขอเลือก “เวลา” พักผ่อน เวลาว่าง ได้ไหม ลี่ไม่ได้ต้องการเงินไปซื้อรถเพราะป๊าลี่ซื้อให้ขับตั้งแต่ม.4 และลี่ก็ใช้คันเดิมได้ ซื้อบ้าน มีหอแพทย์ให้พักฟรีอยู่แล้ว แบรนด์เนม ลี่ไม่ได้บ้าแบรนด์เนมในความคิดคือ หากเรามีเงินเดือนแค่หลักหมื่น มันไม่สมควรที่เราจะซื้อของเป็นหมื่นเป็นแสน แล้วลี่จะเอาเงินไปทำไมเยอะแยะ”
“ถ้าเลือกได้ลี่ขอวันเวลาที่จะได้ไปสวีทกับแฟน ไปเที่ยวต่างจังหวัด กลับบ้านไปหาปะป๊า จะดีกว่า เริ่มคิดอยากออกแบบชีวิตตัวเอง เอาจริงๆเพื่อนๆหมอคนที่เค้าสนุก เค้าก็ดูมีความสุขดีนะ แต่สำหรับลี่ทุกๆวันมันเรียกว่า “ฝืน” แล้วลี่ฝืนทำไม อาจจะเป็นเพราะค่านิยมคิดว่ามันดี และเราก็เรียนมาด้านนี้นี่นาแล้วจะเปลี่ยนใจเหรอ แต่… คิดให้ดี ถ้าคนเราฝืนทำอะไรบางอย่าง แปลว่าทำแบบไม่เต็มใจและไม่มีความสุข เราก็จะทำสิ่งนั้นได้ไม่เต็มที่ แน่นอนเวลาตรวจคนไข้ลี่เต็มที่เพราะชีวิตคนนะ ลี่ไม่เคยเอามาเสี่ยง ลี่ไม่เคยมีประวัติดูแลคนไข้ไม่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ในใจของลี่รู้เสมอว่า “ไม่ใช่ตัวตนของเรา” และรู้สึกอยากจะหลุดพ้น ลี่อยากนอนให้เพียงพอ มีเวลาส่วนตัว ทำงานที่ตัวเองรัก (ซึ่งตอนนั้นค้นพบแล้วว่าชอบค้าขาย) มันก็แค่นี้ ที่หลายคนมองว่าเราใจง่าย โลเล เห็นแก่ตัวแต่จะมีสักกี่คนที่ถามเราว่าเราเป็นอะไร คิดยังไง ไหวมั้ย ภายนอกคนมองเราว่าเป็นหมอเป็นที่พึ่งของคนไข้ แต่ลี่เป็นหมอ ลี่คือคนที่ต้องการชีวิตเหมือนคนอื่นนั่นแหละ”
“สุดท้ายอยากบอกผู้อ่าน คืออย่าลาออกเพราะเห็นว่าลี่ทำแล้วมีความสุขค้นพบสิ่งที่เรารักเลยค่ะ คนเราพบเจอสิ่งแวดล้อมต่างกัน อยากให้คิดทบทวน เหตุและผลดีๆชีวิตมันไม่ได้สวยงามอย่างนี้เสมอ ลี่มีช่วงเวลาที่ทุกข์และสุขปนเปกัน แต่ลี่เลือกที่จะเดินหน้า ลี่เป็นคนที่ตัดสินใจทำอะไรแล้วจะไม่ยอมแพ้ ถึงแม้ว่าคนอื่นจะบอกว่าเป็นทางตัน แต่ลี่จะหารูลอดออกไป ไปต่อจนได้และทุกวันนี้ลี่ไม่เคยเสียใจ ที่คิดลาออกเพราะชีวิตเราเราลิขิตเองถึงจะเป็นแม่ค้าแต่ก็ภูมิใจไม่แพ้งานหรืออาชีพไหน”
หลังมุ่งหน้าเดินทางสู่สายอาชีพแม่ค้าเป็นจริงเป็นจังปัจจุบันหมอลี่คือเจ้าของแบรนด์ Beautelush ที่ประสบความสำเร็จลบคำสบประมาท สามารถสร้างยอดขายได้เป็นล้านในเวลาไม่กี่เดือน ที่สำคัญเรื่องราวชีวิตและการตัดสินใจของหมอลี่ได้ถูกทำเป็นหนังสือ “จากคุณหมอสู่แม่ค้าตลาดนัด” เล่าชีวิตสร้างความน่าสนใจให้กับใครหลายๆคน โดยหมอลี่บอกว่าจุดเริ่มต้นของเธอก่อนที่จะมาเป็นเจ้าของแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จเริ่มที่ตลาดนัดแห่งหนึ่งที่จังหวัดระนอง สถานที่เธอไปใช้ทุนหลังเรียนจบหมอ หมอลี่ยังบอกว่ารายได้ส่วนหนึ่งจากหนังสือที่เล่มนี้บอกเล่าชีวิตและให้แง่คิดดีๆต่อผู้อ่าน จะนำไปร่วมสมทบทุนโครงการ “ฝนหลวงเพื่อภัยแล้ง” โดยบริจาคได้ที่วัดสังฆทาน
ขอบคุณเรื่องราวของหมอลี่ จากเฟสบุค Choltira Chinakarn
[ads=center]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ