เส้นทางสู่การเป็นพนักงานราชการ เป็นเส้นทางที่หลายคนรู้สึกเป็นเกียรติ ภาคภูมิใจ หากสักครั้งในชีวิตได้ทำงานที่มั่นคงและรับใช้แผ่นดิน แต่ทว่า ก็มีไม่น้อยที่ถอดใจไม่ขอเลือกเส้นทางนี้ ด้วยเพราะไม่ใช่แนวของตัวเองบ้าง ไม่มีต้นทุนพอที่จะไปสอบแข่งขันบ้าง หรือแม้กระทั่งหวาดกลัว "ระบบเส้นสาย" กลัวว่าคนธรรมดาจะสอบไม่ติดก็เพราะเหตุนี้เอง
จะกลัวไปทำไม ในเมื่อบางคนก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่า "ถึงจะเป็นคนธรรมดา แต่ถ้าขยันอ่าน มุ่งมั่นจะสอบ ยังไงก็สอบติด" และคนๆ นี้ "น้องเชาว์" ก็คืออีกตัวอย่างของคนที่พยายามจนสำเร็จ ถึงเขาจะเป็นเด็กออทิสติก แต่เขาก็ทำได้!!
แชร์ประสบการณ์ ความภาคภูมิใจที่เด็กออทิสติกอย่างผม เป็นข้าราชการครูผู้ช่วยได้แล้ว
มันเป็นอะไรที่ผมรู้สึกตื่นเต้นมากๆ และไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะทำได้ละ ผมอยากจะเล่า อยากจะแชร์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับ พ่อแม่เด็กพิเศษทุกคนนะครับ จุดเริ่มของกว่าจะเป็นข้าราชการครูนั้น เริ่มจากตัวผมเองก็เป็นครูจัตราจ้างที่โรงเรียนแห่งนึ่ง ตอนนั้นก็ไม่ได้อยากสอบเป็นข้าราชการหรอก เพราะตัวเองเป็นเด็กพิเศษ จะไปสอบเป็นข้าราชการได้อย่างไรละ ในใจตัวเองก็คิด เป้าหมายตัวเองคงมาได้เท่านี้ แต่ว่าครูหลายคน และคนรอบข้างก็บอกว่า เชาว์ลองไปสอบดูสิ เชาว์ก็คิดหลายอย่างมาก จะไปดีหรือเปล่า ทางเขตพื้นที่การศึกษาจะรับได้ไหม สุดท้ายเชาว์ก็ไปสมัครสอบที่เขตพื้นที่
วันไปสมัครเชาว์เองก็ต้องเตรียมเอกสารต่างๆ มากมายที่เขตเค้าให้เตรียมมา สำหรับสมัคร ตอนนั้นผมรู้สึกว่า ผมไม่รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนดี ผมเครียดมาก ไม่มีใครช่วยผมเอง และวันนั้นเอง ผมก็เจอเพื่อนผมสมัยที่เรียนมหาลัย หลายคน เค้าช่วยทำเอกสารให้ผมจนเสร็จ จากนั้นก็ส่งให้เค้าตรวจ และจ่ายตังค่าสมัคร 200 บาท เพื่อนๆ เค้าก็ใจดี ส่งเชาว์ที่สถานี ก่อนหน้านี้เชาว์ก็บอกกับคนรับสมัครว่า ผมมีภาวะออทิสติกนะครับ เค้าก็บอกว่า สมัครได้ ตอนนั้นผมดีใจมากเลยละครับ แต่ก็อย่างว่าแหละ หนังสือก็ไม่อ่านสักตัว และจะไปสอบติดได้อย่างไร ตัวผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน จนกระทั้งมาถึง วันสอบวันที่ 1 ผมก็ตื่นเต้น และสับสน เค้าบอกว่าสอบราชการ ต้องอ่านหนังสือและข้อสอบยากมากๆเลย เชาว์ก็ทำใจแล้วละ ว่าเชาว์สอบไม่ได้อย่างแน่นอน ตอนนั้นเชาว์คิดว่าสอบเล่นๆ ไม่คิดไรเลย ก่อนเข้าห้องสอบก็ต้องมีการสแกนร่างกายว่า มีการทุจริต โกงข้อสอบหรือไม่ โดยให้ตำรวจมาทำหน้าที่ ตอนเชาว์เข้าห้องสอบ อยากจะบอกว่า ตื่นเต้นมากๆ แต่ก็นิ่งอยู่ พอเห็นข้อสอบก็ลงมือทำ เด็กออทิสติกอย่างผมจะไม่ค่อยมีสมาธิ ถ้าใครรบกวน ตอนที่อ่านสอบเล็กๆน้อย หน้าเดียวยังไม่มีสมาธิเลย แต่ตอนนั้นสมาธิสูงมาก มันคิดออกทุกอย่างเลย
เสร็จจากวันแรกไปสู่วันที่สอง ก็สอบวิชาเอก ผมตัดพ้อกับเพื่อนๆว่า เชาว์ทำไม่ได้หรอก เชาว์โง่จะตาย ข้อสอบยากมากๆ เชาว์ทำไม่ได้หรอก เชาว์รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ไม่มีความมั่นใจเลย แต่ก็นะ ก็สอบไป ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เหนื่อยมากๆเลย คิดในใจนะ เราเป็นเด็กพิเศษจะไปเป็นข้าราชการ ใครจะยอมรับในตัวเชาว์ เดี๋ยวพรุ่งนี้ สอบสัมภาษณ์ก็ต้องไม่ผ่านหรอก บุคลิกภาพเราก็แย่มากเลยละ เราก็ตอบคำถามแบบอื่อๆ ออๆละ และวันที่ 3 วันสอบสัมภาษณ์ เชาว์ตื่นเต้นมากๆเลยนะ ที่จะตอบคำถาม และเชาว์ก็ได้สัมภาษณ์ คณะกรรมการถามและให้เรานำเสนอ ตัวเราเอง ผมก็นำเสนอออกมาเกี่ยวกับ การศึกษาพิเศษ ที่ผมคิด คณะกรรมการก็บอกว่า เสร็จแล้ว หาเสร็จแล้ว ออกมาแบบงงๆเลย และคงคิดว่าเค้าคงไม่อยากฟังสิ่งที่ผมพูดแล้วมั่ง
จากนั้น 5 วัน ถัดมา ก็มีข่าวผลการสอบ เค้าบอกว่า เชาว์สอบผ่าน หา !!!!!!!! อะไรนะ สอบผ่านหรอ ตอนนั้น เชาว์รู้สึกดีใจมากๆเลย ว่าได้ขึ้นบัญชีครูผู้ช่วยลำดับที่ 37 ตอนนั้นประมาณ ตุลาคม เชาว์ก็รอเรียกบรรจุ นานอยู่นะ และก็ถึงวันเรียกบรรจุ
จากนั้น วันได้รับจดหมาย เชาว์รู้สึกดีใจมากๆ ฉันจะได้เป็นข้าราชการครูจริงๆหรอ เหมือนฝันเลยละ ก็เตรียมเอกสารหลายอย่าง มันยากอยู่เหมือนกัน สำหรับเด็กออทิสติกที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องอย่างผม แต่ก็พยายามนะ พยายามจนสำเร็จ จากนั้นวันรายงานตัว ที่เลือกโรงเรียน เชาว์ก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกโรงเรียนไหนดี เชาว์พยายามคิดหลายๆอย่าง เลยละ แต่เหมือนโชคชะตามันเลือกให้เราอยู่แล้ว ว่าเราต้องอยู่โรงเรียนนี้ เชาว์ก็ได้โรงเรียนแถบบชานเมือง อยากจะบอกว่าไกลมากจากที่พัก แต่เชาว์ก็ต้องสู้ จากนั้น 2 วัน เชาว์ก็เตรียมชุดสีกากี อยากจะบอกว่า
มันเป็นชุดที่ภูมิใจมากที่สุดเลย สำหรับผม มีเป็นเด็กพิเศษ โอกาสที่จะได้ใส่ชุดนี้ น้อยมาก มันเป็นไปไม่ได้เลยละ แต่ตอนนี้มันกำลังจะเป็นไปแล้ว เชาว์ก็รอก่อนถึงวันบรรจุ 1 วัน วันนั้นเชาว์ต้องอำลา เด็กๆพิเศษของเชาว์ที่โรงเรียนที่อยู่ เชาว์รู้สึกว่า มันผูกพันมาก เด็กๆเค้ามาอำลาเชาว์ คำพูดแห่งการจากลา มันรู้สึกว่า เชาว์เห็นคุณค่าในตัวเองมากๆ เห็นความรักอันน้อยๆบนความบกพร่องของพวกเค้า เห็นทุกอย่างๆ เชาว์ผูกพันกับหลายๆสิ่งมา ในวันสุดท้ายที่โรงเรียนแห่งนี้ เชาว์จัดเลี้ยงเล็กๆ อำลากับเด็กๆ ได้กินอาหารร่วมกับเด็กๆ ได้สนุกๆกับเด็กเป็นครั้งสุดท้าย ทุกคนต่าง อยากให้ครูเชาว์กลับบ้านอยู่ด้วยกันอีก และคำพูดจากเด็กพิเศษคนนึ่ง ที่ดื้อกับเชาว์สุดๆ ไม่ตั้งใจเรียน ดื้อมากเค้าพูดกับเชาว์ว่า ครูครับ ผมขอโทษ จุดนี้น้ำตาผมไหลเลย รู้สึกแบบว่า สิ่งที่ผมสอนเค้า เข็นเค้าอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียเงินไปกับเค้าเท่าไร เชาว์เห็นเค้าพัฒนาขึ้นและเป็นคนดีที่สุดของเชาว์ เชาว์จะไม่ลืมเลย และอีกหลายๆคนก็เช่นกัน
วันบรรจุ ฝนก็ตกลงมา แต่ก็พยายามที่จะไปให้ถึงเขต วันนี้เชาว์ก็มีครูที่จะไปส่งเชาว์ที่โรงเรียนใหม่ คุณครูเค้าแสดงความยินดีกับเชาว์ทุกคนเลย เชาว์รู้สึกภาคภูมิใจ วันนี้เชาว์ได้ใส่ชุดข้าราชการ วันแรก อย่างจะบอกว่า มันสุดยอดมาก ไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าตัวเอง จะมาถึงขนาดนี้ ทุกคนยินดีกับเชาว์ ครูที่โรงเรียก็พาเชาว์ไปส่งที่โรงเรียนใหม่ ครูทุกคนที่โรงเรียนใหม่ก็ต้อนรับเชาว์เป็นอย่างดี เชาว์รู้สึกว่า สิ่งที่ตัวเองพยายามมาตลอด และที่ท้อแท้มาหลายครั้ง ในที่สุดก็ประสบความสำเร็จได้
อยากจะขอบคุณทุกๆคนมากนะ ที่ยอมยืนเคียงข้างเชาว์ ถึงแม้ว่าเชาว์จะเป็นออทิสติก ที่ดูไม่เก่ง อ่อนแอและมีปัญหาอารมณ์เยอะ ที่ทำให้เชาว์มีความพยายามที่สานกำลังใจให้เชาว์ ทำในสิ่งที่ไม่สำเร็จ ให้สำเร็จได้ ขอบคุณจริงๆ นะ
สุดท้ายนี้ ก็อยากที่จะบอกกับทุกคนว่า ตัวเชาว์เองไม่เก่งเลย แต่เชาว์มีสิ่งนึ่งที่เชาว์มี คือความฝัน และความพยายาม เชาว์จะบอกอยู่เสอมว่า เชาว์ต้องพยายามมากแค่ไหน กว่าจะได้ถึงขนาดนี้ ต้องอดทนกับตัวเอง คนอื่นอีกเท่าไร สำหรับเด็กออทิสติกอย่างผม จะบอกว่า ตัวผมเองพยายามหนักมากๆ หลายๆอย่าง ทำให้คนเชื่อว่าตัวผมทำได้ ตัวผมมีคุณค่าต่อสังคมเหมือนกัน ณ จุดนี้ อยากให้ทุกคนที่มีความฝันและยังไม่ถึงฝัน จะบอกว่า ท้อได้ เครียดได้ ร้องไห้ได้ แต่อย่ายอมแพ้ เชาว์เชื่อว่า ความฝันและความเป็นไปได้มันอยู่คู่กัน ให้พยายามทำดู อดทน ต่อสู้และเอาชนะให้ได้มีให้ได้ "เป้าหมายมันทำให้ชีวิตเรามีค่า" เชาว์เชื่ออย่างนั้น มันไม่ทางสำเร็จก็จริงกับความฝัน แต่เราก็ยังได้ลองทำมัน แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดีแล้วละ
เชาว์ฝากถึงพ่อแม่เด็กพิเศษทุกคนนะ ลูกเรา เค้าบกพร่องมากมายแค่ไหน แต่เค้าก็อยากที่จะพัฒนา อยากมีคุณค่าในตัวเอง ต่อสายตาคนอื่น เค้ามีความรู้สึกเหมือนกับเรานั่นแหละ เค้าอยากที่จะฝัน อยากที่จะทำเหมือนเรา ฉะนั้นอยากทิ้งความรู้สึกเค้า ส่งเสริมเค้าให้เป็นอย่างที่เค้าตั้งใจ บกพร่องมากมายแค่ไหน ถ้าตัวเค้ารู้สึกอยากพัฒนา เราต้องส่งเสริมเค้า ความรู้สึกตั้งใจ มุ่งมันจะทำให้เค้ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น เชื่อไหมว่า ความสำเร็จที่ทำให้เค้าดีขึ้น นั้นมันมีค่ามากๆ มากกว่า ทุกสิ่งเลยละ จากนี้เชาว์ยังคงต้องพยายามต่อไปอีก และมากขึ้น เชาว์คิดเป้าหมายใหม่ได้แล้วละ และก็จะพยายามต่อไปอีกเรื่อยๆ เชาว์เชื่อว่า ความพยายามนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราทำมากเท่าไร แต่ขึ้นอยู่กับเราศรัทธากับเป้าหมายเท่าไร การฝึกให้เด็กพิเศษคิดเป็นและมีความพยายามนั้น จะสามารถทำให้เค้ามีความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนได้ และพยายามในสิ่งที่เค้าตั้งใจ
เชาว์ก็นะ บางที่พิมพ์ยาวๆ ก็ไม่ค่อยมีเวลาเหมือนกันนะ เชาว์อาจจะบกพร่อง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมบ้างตอนนี้ แต่ก็จะพยายามปรับตัวนะครับ
ติดตามแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของชายคนนี้ได้ที่ chaochaostory.bloggang.com
ขอบคุณประสบการณ์ดีๆ จาก เว็บไซต์ http://pantip.com/topic/35228992/ (ล็อกอิน "น้องเชาว์")
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ