บทความทั่วไป

Advertisement ฮือฮาทางโซเชียล ตำรวจหนุ่มอนาคตไกล ยศสูง ตัดสินใจลาบวช เหตุเบื่อลาภ ยศ สรรเสริญ โดยข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยใน manager.co.th เนื้อความดังนี้ Advertisement Advertisement เพื่อน นรต.47 ที่รักทุกท่าน ผม พ.ต.ท.พนมไพร จักรภาส (จันทร์กา) ขออนุญาตแจ้งข่าว ผมได้เสนอขอลาออกจากราชการก่อนกำหนด early retire มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.59 เป็นต้นไป โดยให้เหตุผลเพื่ออุปการะบุพการีและศึกษาปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา และตร.ได้มีคำสั่งอนุญาตลงมาแล้ว          ผมรู้สึกภูมิใจและดีใจมากที่ได้เป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 กับพวกเราทุกคน ได้มีโอกาสร่วมทุกข์ร่วมสุขอาบเหงื่อต่างน้ำมาด้วยกันตั้งแต่เป็นวัยรุ่น จนแยกย้ายกันออกมารับใช้ชาติตามภารกิจหน้าที่ของแต่ละคน จนกระทั่งตอนนี้ที่พวกเราผ่านพ้นวัยกลางคนกันมาแล้ว ความผูกพันความเป็นเพื่อนของพวกเราก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาและอายุที่เพิ่มมากขึ้นไปทุกขณะ ผมชื่นชมและยินดีกับความสำเร็จ ความเจริญก้าวหน้าของเพื่อนๆ ทุกคนในวิถีชีวิตตำรวจ ตามที่แต่ละคนปรารถนา ตัวผมเองก็มีความพอใจและมีความสุขดีในหน้าที่ราชการปัจจุบัน         เหตุผลที่ตัดสินใจในครั้งนี้ มีที่มาจากสิ่งที่มันสั่งสมอยู่ในใจมาตั้งแต่เด็กๆ ที่สนใจการปฏิบัติสมาธิ ภาวนา มาตั้งแต่อยู่ชั้นประถม เรื่อยมาตลอดจนมาเรียนเตรียมทหาร เข้า นรต.ก็ศึกษาปฏิบัติมาตลอดเท่าที่โอกาสจะอำนวย จนมาประมาณ 6-7 ปีที่ผ่านมา ได้ปฏิบัติเรียนรู้อย่างจริงจังกับครูอาจารย์ท่านผู้รู้แจ้งฯ หลายๆ […]

2 ต.ค.59 นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย.59 ที่ผ่านมา ประธานคณะกรรมการการแพทย์ของ สปส.ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการการแพทย์โดยยกเลิกบัญชีประกาศแนบท้ายหลักเกณฑ์สิทธิการรักษาทันตกรรมผู้ประกันตนของ สปส.ภายใต้วงเงินคนละ 900 บาทต่อปีแล้ว หลังจากนี้ ผู้ประกันตนที่ไปใช้บริการทันตกรรมในสถานพยาบาลรัฐและเอกชนทั่วไป ก็สามารถไปใช้บริการทันตกรรมได้ แต่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อนและผู้ประกันตนมายื่นเรื่องเบิกเงินกับ สปส.ภายหลัง แต่ไม่เกินคนละ 900 บาทต่อปี โดยสามารถยื่นเบิกได้ในครั้งเดียวหรือจะยื่นหลายครั้งก็ได้ ภาพประกอบจาก www.sukumvithospital.com เลขาธิการ สปส.กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันโครงการนำร่องทำฟันโดยไม่ต้องสำรองจ่ายไปก่อนใน 30 หน่วยบริการ ก็ได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งผู้ประกันตนที่ใช้บริการทันตกรรมในสถานพยาบาลรัฐและเอกชนในโครงการนำร่องไม่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน ทั้งนี้ ให้สถานพยาบาลรัฐและเอกชนในโครงการนำร่องมาเรียกเก็บเงินจาก สปส.โดยตรง ซึ่งมีเกณฑ์กำหนดอัตราเบิกจ่ายตามจริง แต่ไม่เกินคนละ 900 บาทต่อปี ซึ่งในส่วนของสถานพยาบาลรัฐจะยึดตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข ขณะที่สถานพยาบาลเอกชน ก็จะให้แจ้งอัตราค่าบริการทันตกรรมต่างๆ ทั้งอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน มายัง สปส. เพื่อจะได้แจ้งผู้ประกันตนให้ทราบ [ads] นพ.สุรเดชกล่าวด้วยว่า โครงการนำร่องทำฟันฯดำเนินการใน […]

ถึงจะเป็นคุณแม่ลูกสองแล้ว "กวาง กมลชนก" ก็ยังหน้าใสปิ๊ง ผิวดูดี มีสุขภาพเสมอ จนหลายคนอาจจะคิดว่าเธอไม่น่าจะมีปัญหาสุขภาพอะไร แต่ล่าสุดนี้ เธอก็ได้โพสต์ภาพในอินสตาแกรมเพื่อเตือนสาวๆ หลายคนได้เห็นว่า บางทีเห็นเป็นเม็ดสิวบนใบหน้า อาจไม่ใช่แค่เรื่องสิวๆ แต่เป็นฝีที่ถึงกับต้องไปผ่าตัดออกเลยทีเดียว "คุณหมอบอกว่ากวางเป็นฝีค่ะ…เริ่มจากคิดว่าตัวเองเป็นสิวมา3วัน เห็นหัวสิวขึ้นมาก็เลยบีบ แต่ไม่ออกก็เลยไปเค้นจนหัวสิวแตกออกมา แต่ก็ยังไม่หมด อยู่ลึกข้างใน วันรุ่งขึ้นเจ็บระบมและหน้าบวมมากไปข้างหนึ่ง(มากจนน่าตกใจ)และปวดบวม(มากขึ้น)อีกคืนจนทนไม่ไหว เห็นท่าไม่ดีเลยไปหาหมอผิวหนัง คุณหมอบอกไม่ใช่สิวและการอักเสบอยู่ลึกกว่าชั้นรูขุมขน จึงส่งกวางไปหาหมอศัลยกรรมทำการผ่าเอาหนองออก คุณหมอบอกว่าเป็นฝีค่ะ ให้ทานยาฆ่าเชื้อ ปรากฏว่าผ่านไปอีก1วันก็ยังบวมและเห็นหนองอยู่ลึกเป็นแอ่งลงไป จึงไปกลับหาหมออีกครั้ง คราวนี้คุณหมอขูดหนองออกจนเป็นหลุมลึกตามภาพที่เห็น เจ็บมากๆๆค่ะ และต้องไปให้หมอทำแผลทุกวันจนกว่าแผลจะปิด #จึงอยากบอกให้เป็นอุทาหรณ์กับทุกคนว่าบางทีสิวของเราอาจไม่ใช่แค่สิวและอาจลุกลามอักเสบจนเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ได้ จึงควรไปหาหมอตั้งแต่เนิ่นๆนะคะ #เฮ้อ!คงต้องรักษากันอีกยาวนาน แผลเป็นมาเยือนใบหน้าแน่นอนค่ะ#ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ" ยังไงก็ขอให้คุณกวางหายไวๆ นะคะ ส่วนสาวๆ ท่านอื่นๆ ก็ต้องระวังกันด้วยนะ   

การเป็นฮีโร่ ใครก็เป็นได้ แม้จะทำความดีเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ชายร่างใหญ่ บึกบึน เหมือนในหนังซุปเปอร์ฮีโร่ เป็นแค่คนธรรมดาอย่างเรื่องราวน่าชื่นชมต่อไปนี้ก็โอเคแล้ว เมื่อวันที่ 2 ต.ค.59 เฟซบุ๊ก จ๊ะ จ๋า จ้า ได้โพสต์ถึงวีรกรรมน่าชื่นชมของเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก ในกลุ่ม "พิษณุโลกบ้านเรา" กล่าวชื่นชมถึงน้องๆ นักเรียนที่จอดรถข้างโรงเรียนวัดคูหาสวรรค์ว่า "ช่วงที่เกิดเหตุไฟไหมรถยนต์ ข้างโรงเรียนวัดคูหาสวรรค์ ตอนที่ไปถึงก็เห็นน้องกลุ่มนี้ จอดรถจักรยานยนต์แล้ววิ่งไปที่รถยนต์ที่กำลังมีกลุ่มควันและเริ่มไฟไหม้ น้องคนที่เฝ้ารถมอเตอร์ไซต์บอกว่า ยังมีคนอยู่ที่รถ เพื่อนผมกำลังเข้าไปช่วย พอไปยืนใกล้ๆ ลุง เห็นชัดเลยว่าลุงตัวสั่นเลยค่ะ ขอชื่นชมน้องๆ กลุ่มนี้มากๆ เลยค่ะ" [ads] [ads=center] แชร์กันไปให้ทราบโดยทั่ว คนทำดี แบบนี้โลกต้องเห็น! 

ผู้ร่วมรายการเวทีสาธารณะ ตอน "สูงวัยไปด้วยกัน" เรียกร้องรัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างระบบการออมเงินที่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เผยกระทรวงการคลังประเมินว่าหากอยากมีชีวิตที่เป็นปกติในช่วงอายุ 60-80 ปี ควรมีเงินเก็บ 2 ล้านบาท ภาพประกอบจาก thumbsup.in.th ดร.ประกาศิต กายะสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในรายการเวทีสาธารณะตอน "สูงวัยไปด้วยกัน" ซึ่งออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสวันนี้ (30 ก.ย.2559) ว่า ระบบการออมเงินเป็นหลักประกันทางเศรษฐกิจที่สำคัญมากสำหรับผู้สูงอายุ "ทุกคนต้องมีเงินเก็บ ไม่อย่างนั้นหยุดงานไม่ได้ หมายความว่าคุณต้องทำงานไปเรื่อยๆ ไม่มีเวลาหยุด เพราะฉะนั้น เงินเก็บจึงมีความจำเป็น แต่เก็บเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับแผนการวางอนาคตของตนเอง" ดร.ประกาศิตกล่าว ดร.ประกาศิตอ้างข้อมูลจากกระทรวงการคลังที่ระบุว่า เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างปกติในช่วงอายุระหว่าง 60 – 80 ปี ต้องมีเงินเก็บประมาณ 2 ล้านบาท โดยตัวเลขนี้มาจากการคำนวณเปรียบเทียบกับรายได้จากค่าแรงขั้นต่ำในปัจจุบัน คือ เดือนละ 9,000 บาท ซึ่งหากเริ่มเก็บเงินในช่วงอายุ 40 ปี ไปจนถึงอายุ 60 ปี ก็ต้องเก็บให้ได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 9,000 บาท […]

กยศ. ทรุดหนัก 12 ปีที่ผ่านมา คนติดหนี้เกือบแสนล้านบาท ปี 2559 ปีเดียวฟ้องไปแล้วกว่า 170,000 ราย พร้อมดำเนินการยึดทรัพย์อีกกว่า 50,000 ราย    ภาพประกอบจาก www.siamintelligence.com เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 น.ส.ฑิตติมา วิชัยรัตน์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้ากับการดำเนินการกับผู้ผิดนัดชำระเงินกู้ กยศ. ว่า ผู้กู้ที่ค้างชำระตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 และถูกฟ้องร้องมีกว่า 900,000 ราย มีหนี้รวมกว่า 90,000 ล้านบาท และเฉพาะปี พ.ศ. 2559 มีผู้ที่ถูกฟ้องไปแล้ว 170,000 ราย ส่วนกองทุนกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) มีผู้ถูกฟ้องไปแล้ว 85,000 ราย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดี สืบทรัพย์และยึดทรัพย์กว่า 50,000 ราย รวมเป็นหนี้กว่า 4,000 ล้านบาท ทว่า ตัวเลขของการชำระเงินในปีนี้นั้นอยู่ที่กว่า 20,000 ล้านบาท […]

มดลูกเป็นอวัยวะที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับผู้หญิงตั้งแต่เกิดจนตาย ด้วยภาระอันหนักอึ้งที่มดลูกต้องแบกรับไว้ทุกช่วงวัย ทำให้ผู้หญิงเรามักต้องเผชิญหน้ากับปัญหามดลูกอยู่เรื่อยๆ ว่ากันว่าครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเคยเจอปัญหามดลูกเกเรกันบ้าง ไม่มากก็น้อย ตั้งแต่ปัญหาเล็กๆ อย่างประจำเดือนมาไม่ปกติ ไปจนถึงเรื่องใหญ่โตอย่างมะเร็งมดลูก ดังนั้นหากดูแลสุขภาพไม่เต็มที่ มดลูกอาจต้องป่วยได้ในที่สุด ก่อนจะสายเกินแก้ เรามาดูแลมดลูกให้แข็งแรงเสียแต่วันนี้ด้วยวิธีธรรมชาติที่นำมาฝากดังต่อไปนี้ค่ะ ภาพประกอบจาก : health.mthai.com 1. กินปรับฮอร์โมนเพศ มดลูกถูกควบคุมโดยฮอร์โมนจากรังไข่ซึ่งอยู่บริเวณปีกมดลูก โดยปกติรังไข่จะสร้างฮอร์โมนเพศ 3 ชนิด คือ แอนโดรเจน (Androgen) เอสโตรเจน (Estrogen) และโปรเจสเตอโรน (Progesterone) การมีสุขภาพมดลูกและระดับฮอร์โมนที่จึงย่อมส่งผลดีต่อกัน อาหารมีบทบาทในการสร้างฮอร์โมน ซึ่งนั่นหมายถึงอาหารมีบทบาทสำคัญต่อสุขภาพมดลูกด้วย ในทางกลับกันหากกินผิดๆ ก็จะทำให้เรามีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนและมดลูกได้เช่นเดียวกัน อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิตแนะแนวทางแก้ไขปัญหาฮอร์โมนด้วยอาหารการกินเอาไว้ว่า “ในคนที่มีปัญหาเรื่องฮอร์โมน จะต้องปรับอาหารกลุ่มโปรตีน เพราะอาหารกลุ่มโปรตีนจะเกี่ยวกับฮอร์โมน คนที่ต้องการปรับเรื่องออร์โมน แนะนำให้กินโปรตีนจากเนื้อสัตว์มากกว่าพืช เน้นอาหารทะเลจำพวกปลาเป็นหลัก เพราะปลานอกจากจะมีโปรตีนดีแล้วยังมีแร่ธาตุที่ดีด้วย ในปลาทะเลมีแร่ธาตุที่มนุษย์ต้องการอยู่ครบ” นายแพทย์แอนดรูว์ ไวล์ กล่าวไว้ว่า อาหารที่เป็นศัตรูของฮอร์โมน คือ “อาหารที่มีฮอร์โมนจะเพิ่มภาวะแบกรับฮอร์โมนให้แก่เซลล์ในเต้านม รังไข่ และมดลูก” จากการศึกษาของ Mayo Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า เพียงฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายของผู้หญิงเราไม่สามารถทำให้เกิดเนื้องอกในมดลูก […]

"น้องแพนเค้ก" เด็กหญิงชาวเลย ยอดกตัญญู ในที่สุดก็สูญเสียไม่มีวันกลับ แม่บังเกิดเกล้า ที่ป่วยเป็นมะเร็ง สิ้นใจในอ้อมกอดหนูน้อย บอกยังไงก็ไม่ท้อ อยากเรียนให้สูงที่สุด ตามความต้องการของแม่ ขณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยื่นมือช่วยเหลือ … เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 29 ก.ย.59 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของนางวรรณภา พงษ์สระพัง อายุ 50 ปี เลขที่ 198 หมู่ 8 บ้านศรีเจริญ ต.เลยวังไสย์ อ.ภูหลวง จ.เลย มีบุตรสาว 1 คนชื่อ ด.ญ.พิทยาภรณ์ (แพนเค้ก) วันชัย อายุ 9 ปี เรียนชั้น ป.3 ร.ร.บ้านโคกศรีเจริญ ต.เลยวังไสย์ แต่ในบ้านชั้นเดียว เป็นบ้านปูนนั้น มีโลงศพของนางวรรณภา ตั้งอยู่และญาติมาช่วยงาน ไหว้ศพเป็นระยะๆ ด.ญ.แพนเค้ก กล่าวว่า หนูไม่มีพี่น้อง ต้องรับแขก รับญาติลำพัง ส่วนพ่อได้หย่าร้างกับแม่ตั้งแต่ปี 2556 ไปมีครอบครัวใหม่ อีก […]

หลังจากที่เกิดเหตุครูแยกลูกสาวให้ไปนั่งกับพื้น อ้างว่าเด็กต้องการความเป็นส่วนตัว ในขณะที่เพื่อนๆ ได้นั่งทานกับโต๊ะ-เก้าอี้เป็นปกติดี ล่าสุด แม่ของเด็ก เจ้าของเฟซนามว่า Newyear Treerat ก็ได้พาลูกสาวลาออกจากโรงเรียนเอกชนแห่งนั้นแล้ว รูปที่ได้จากไลน์กลุ่มผู้ปกครอง เป็นต้นเหตุให้แม่ต้องโร่เข้าไปถามครูถึงความเหมาะสม ซึ่งครูก็ตอบมาว่า "น้องเขาต้องการความส่วนตัว" ซึ่งไม่น่าจะใช่เหตุผลที่เด็กวัยเพียง 2 ขวบคิดเองได้     โดยหลังจากพาลูกสาวลาออก เธอก็ได้โพสต์ท้าให้โรงเรียนงัดคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิดออกมาเผยแพร่ให้ทราบโดยทั่วกันด้วย เพื่อให้วัดใจกันไปเลยว่า เหตุการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างใด ใครผิด ใครถูก บางคนอาจจะมองว่าเรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงกับเอามาประจานทางโซเชียลก็ได้ แต่สำหรับเธอแล้ว เธอกลับคิดว่าเรื่องเล็กๆ บางทีก็อาจส่งผลต่อเด็กได้ อนึ่ง เธอก็ไม่ได้มีปัญหาส่วนตัวกับครูมาก่อน หรือมีเจตนาจะทำลายชื่อเสียงโรงเรียนแต่อย่างใด แค่รู้สึกว่าการกระทำดังกล่าวนี้ไม่เหมาะสมกับตัวเด็กเพียงเท่านั้นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก : http://taghr.net/ เรียบเรียงใหม่โดย : Thaijobsgov

อาจจะด้วยเพราะภัยสังคมที่มากขึ้นในทุกวัน น้ำใจคนไทยจึงหายากมากขึ้น เพราะต่างคนต่างก็ต้องระแวงว่าจะช่วยใครสักคนได้ทำบุญจริงๆ หรือเป็นการช่วยให้มิจฉาชีพได้ทำมาหากินได้สะดวกขึ้น หรือบางทีก็เป็นเพราะสภาพคล่องทางการเงินที่ต่างคนต่างก็ฝืดเคือง เศรษฐกิจไม่ดี จะช่วยทุกคนที่พบเจอก็คงเป็นไปไม่ได้ เพราะลำพังตัวเองยังจะไม่รอดเลย แต่สำหรับเฟซบุ๊ก Nirinrada Chuenarom เธอคือคนหนึ่งที่น่ายกย่องมาก แม้จะช่วยลุงคนหนึ่งซื้อแค่นมเปรี้ยวขวดเดียว แต่ก็ทำให้ลุงคนนั้นปลื้มใจถึงกับน้ำตาไหล มีกำลังใจในการทำมาหากินต่อเลยทีเดียว โดยเธอได้โพสต์เมื่อวันที่ 28 ก.ย.59 ที่ผ่านมานี้ว่า ไปกินหมู่จุ่มเจอลุงคนหนึ่งขับรถขายบีทาเก้น ลุงขับรถมอไซเก่าๆขายตามร้านอาหาร วันนี้เจอที่ ซุ้ม3หมูจุ่มหน้า รร. ดารา ลุงก็มาเดินขายตามปกติ แต่ไม่มีใครซื้อสักคน เราก็แอบมองตามลุงแล้วเห็นลุงเดินไปที่รถแกะถุงนับตัง แล้วลุงก็น้ำตาไหล นาทีนั้น ????เราเลยลุกเดินไปซื้อบีทาเก้นทั้งๆที่เราเป็นคนไม่กินบีทาเก้น ตอนจ่ายตังเห็นนัยตาลุงแดง (ลุงร้องไห้) ถ้าใครเห็นลุงก็ช่วยซื้อด้วยน๊า  #รูปไม่ชัดแต่ถ้าดูลักษณะในภาพละคุ้นๆก็ช่วยซื้อทีนะ #ช่วยกันนะ ซึ่งหลังจากที่เธอโพสต์เรื่องราวดังกล่าวไปก็มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น บางคนก็ชื่นชมถึงความมีน้ำใจ บางคนก็เกรงว่าลุงจะเสแสร้งรึเปล่า เพราะโดยปกติคนขายนมก็น่าจะมีรายได้พอควร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือนี้โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดีงาม จ่ายเพียงแค่ไม่กี่บาท แต่ช่วยซื้อกำลังใจคนทำมาหากินคนหนึ่งไปได้เยอะเลยทีเดียว (ซึ่งหากเขาเป็นคนที่ไม่สุจริตจริง เขาคงไม่ลำบากขับรถตระเวนขายของ คงใช้กลยุทธที่ง่ายกว่านี้ในทางโจรแล้ว) คลิกที่นี่ เพื่อเข้าสู่ลิ้งค์ต้นเรื่อง เพื่ออ่านความคิดเห็นอื่นๆ