อีกช่องทางสางหนี้ครู! ‘หมอธี’ แนะ สกสค.สอนครูขายของออนไลน์ สร้างรายได้นอกเวลาราชการ แก้ปัญหาหนี้เยอะ

  รมว.ศึกษาธิการ ถก พัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการของสกสค.จัดเต็มสวัสดิการให้แก่เพื่อนครูอย่างครบวงจรทั้งสวัสดิการกฎหมาย-สุขภาพ คาดอีก 2 เดือนสรุปข้อมูลออมสินหักเงินครูไปจากกองทุนช.พ.ค.   11 มี.ค.62 ที่โรงแรมปริ๊นพาเลซ มหานาค กทม. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จัดประชุมเชิงปฎิบัติการเพื่อพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ โดยนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวตอนหนึ่งในการมอบนโยบายว่า ตนต้องขอชื่นชมนายอรรถพล ตรึกตรอง ปฎิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ที่ทำงานได้รวดเร็วและมีความละเอียดภายในไม่กี่เดือนสามารถนำพาสกสค.ให้ผ่านพ้นวิกฤตได้เป็นอย่างดี ซึ่งตนขอฝากสกสค.ให้ช่วยดูแลเรื่องความทุกข์ของครูว่ามีอะไรบ้าง โดยตนมองว่าเรื่องสวัสดิการต่างๆเราทำได้ดีอยู่แล้วทั้งการลดภาระหนี้ครู การบรรลุข้อตกลงการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูในโครงการสวัสดิการเงินกู้สมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ตั้งแต่โครงการ 2-7 โดย สกสค.จะไม่รับเงินค่าบริหารจัดการที่ธนาคารออมสินส่งคืนให้โครงการที่ 2-7 จำนวน 0.5-1% เพื่อให้ธนาคารนำไปลดดอกเบี้ยให้แก่ครูที่มีวินัยการชำระหนี้ที่ดี รวมถึงการดูแลสวัสดิการเรื่องสุขภาพครูเพราะขณะนี้ตนเห็นว่าสุขภาพจิตของผู้สูงอายุมีปัญหามาก เนื่องจากพบสถิติมีผู้สูงอายุฆ่าตัวตายจำนวนมาก ดังนั้นอยากให้สกสค.ได้มีการจัดกิจกรรมที่เหมาะสมให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุด้วย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้อยากสกสค.มีการจัดสวัสดิการเรื่องที่ปรึกษาทางกฎหมายให้แก่ครูจังหวัดละ 1 คนให้คำแนะนำครูในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย โดยบางครั้งครูต้องมีเรื่องเข้าไปเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมายจำนวนมากและอาจยังขาดความรู้ในเรื่องนี้ เพราเป็นเรื่องเฉพาะทาง เพื่อให้ครูได้รับสิทธิดูแลทางกฎหมายอย่างเต็มที่ ดังนั้นจึงอยากให้สกสค.ช่วยดูแลในส่วนนี้ด้วย  ขณะเดียวกันให้สกสค.จัดอบรมอาชีพออนไลน์ให้แก่ครู หรือการทำโครงการ Starup ให้ครูเริ่มทำธุรกิจของตัวเองโดยใช้เวลานอกราชการค้าขายได้ เพราะอาชีพการค้าขายออนไลน์มีความสะดวกสบายมากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครูอีกทางหนึ่ง ส่วนการคืนเงินที่ธนาคารออมสินที่หักไปกว่า 10,000 ล้านบาทที่ครูไม่ชำระหนี้ติดกันเป็นเวลา 3 เดือนก็ได้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว […]

ก.ค.ศ.ยันไม่ได้สั่งให้จัดทำ ’13แฟ้มผลงาน’เพื่อเลื่อนเงินเดือน ชี้ครูเข้าใจคลาดเคลื่อนเอง

เมื่อวันที่ 4 มีนาคม น.ส.อุษณีย์ ธโนศวรรย์ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการส่งต่อข้อมูลในกลุ่มไลน์ข้าราชการครูว่า ก.ค.ศ.ได้กำหนดแบบประเมินความดีความชอบปี 2562 เป็น 3 ด้าน 13 แฟ้ม ซึ่งเป็นการสร้างภาระ และความยุ่งยากให้แก่ครูผู้รับการประเมินนั้น ตนขอชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเท่าที่ตรวจสอบพบว่าน่าจะเป็นความกังวลใจของครู และทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ค.ศ.ได้มีการส่งหนังสือ ว 20/2561 หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แจ้งไปยังศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) และผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) โดยแจ้งหลักเกณฑ์ตามมติก.ค.ศ. ที่ให้มีการปรับปรุงวิธีการประเมินผลการปฏิบัติงานเพื่อเลื่อนขั้นเงินเดือน ตามกฎ ก.ค.ศ.ฉบับใหม่ จากการเลื่อนเงินเดือนเป็นขั้น เปลี่ยนเป็นเลื่อนเงินเดือนเป็นเปอร์เซ็นต์ ให้เป็นลักษณะเดียวกับข้าราชการพลเรือน และต้องมีการประเมินให้สอดคล้องกับมาตรฐานตำแหน่ง และระดับคุณภาพอีกด้วย “ก.ค.ศ.มีการกำหนดมาตรฐานตำแหน่งของครูอยู่แล้ว ว่าต้องทำอะไรบ้าง และการประเมินต้องประเมินตามมาตรฐานตำแหน่ง เพียงแต่ก.ค.ศ. นำมากำหนดเป็นหัวข้อ หรือ 13 ตัวชี้วัด เพื่อให้ประเมินตามมาตรฐานตำแหน่งของครู และสอดคล้องกับระดับคุณภาพ 5 ระดับ ไม่ได้บอกว่าจะต้องไปทำ […]

1 6 7 8 12
error: