“ภูมิธรรม” เผยประชาชนอยากได้ “เขื่อนแก่งเสือเต้น”

Advertisement เมื่อเวลา 11.20 น. 4ก.ย.67 มติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่ศูนย์สิริกิติ์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดสร้างแก่งเสือเต้น เพื่อแก้ปัญหาอุทกภัยจากลุ่มน้ำยม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ความคิดเห็นแตกต่างกันมานาน เป็นเวลานับ 10 ปี ที่ผ่านมาน้ำเหนือที่หลากมาทั้งหมด แม่น้ำปิง แม่น้ำวัง ไม่มีปัญหาเพราะมีเขื่อนภูมิพลรองรับ ขณะที่ จ.เชียงราย ไหลลงแม่น้ำโขง ก็ไม่น่าเป็นปัญหา เช่นเดียวกับแม่น้ำน่าน ส่วนหนึ่งไหลลงแม่น้ำโขง Advertisement Advertisement เหลือแต่ลุ่มน้ำยมที่ไม่มีแหล่งรองรับ น้ำจะหลากลงมา เห็นได้จากเวลาที่ฝนตกทุกปีน้ำยมจะหนักสุด ท่วม จ.แพร่ พะเยา ลงมา จ.สุโขทัย ซึ่งเป็นที่รับน้ำตั้งแต่โบราณ มีลักษณะเป็นทุ่งนอกเมืองก่อนที่จะมีบ้านเรือน แต่เวลานี้มีส่งผลกับประชาชน และประชาชนมาร้องเรียนว่าอยากได้พื้นที่ที่รองรับน้ำได้ ไม่ต้องให้ท่วมทุกปีและเสียค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูทรัพยากรต่างๆ เป็นแสนล้านบาท จึงอยากให้เรื่องนี้มาคุยกัน อยากให้เรื่องนี้เป็นการคุยกันสาธารณะ เอาทุกความเห็นถกเถียงกัน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน และควรทำเรื่องน้ำขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ คิดทุกกระบวนการว่าจะมีทางออกอย่างไรที่ดีขึ้น ซึ่งยังไม่ได้หมายความว่าจะเอาเข้า ครม.

‘ธรรมนัส-ภูมิธรรม’ รายงานสถานการณ์น้ำท่วม มั่นใจเอาอยู่

29 ส.ค.2567 – เมื่อเวลา 15.15 น. ที่อาคารชินวัตร 3 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางเข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรายงานสถานการณ์น้ำพื้นที่ จ.สุโขทัย นายภูมิธรรม กล่าวว่า วันนี้มาประชุมร่วมกันเพื่อสรุปสถานการณ์น้ำท่วม โดยวันที่ 30 ส.ค. น.ส.แพทองธาร จะลงพื้นที่ จ.สุโขทัย พวกตนจะลงพื้นที่กันวันที่ 31 ส.ค. และจะประชุมกันที่ศาลากลางจ.สุโขทัย เพื่อจะได้สั่งการปัญหาเฉพาะหน้า วันนี้ได้นำแผนที่ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ มาดูว่าต้องดำเนินการเรื่องอะไรบ้าง และพื้นที่กักเก็บน้ำในเขื่อนต่างๆถือว่ายังเพียงพอคิดว่าไม่น่าเป็นห่วง เราพยายามป้องกัน แต่เรื่องน้ำมีอุบัติเหตุได้ หมายถึงว่าอาจมีเรื่องพายุเข้ามา แต่เท่าที่ดูตอนนี้คิดว่าควบคุมสถานการณ์ได้ เมื่อถามว่าคนกทม.และภาคกลาง ห่วงว่าน้ำจะทะลักลงมา นายภูมิธรรม ตอบว่า ตนว่าไม่น่าเป็นห่วงเราสกัดน้ำไว้ได้ เฉพาะหน้าตอนนี้คิดว่าเอาอยู่ แต่ถ้ามีพายุเข้ามาก็ต้องดูสถานการณ์แต่เราก็เตรียมป้องกัน เมื่อถามว่าการเป็นรัฐบาลรักษาการ ในเรื่องการใช้งบประมาณที่อาจต้องใช้งบกลางจะไม่มีผลกระทบอะไรใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ […]

พาณิชย์เตรียมเชิญอินฟลูฯ ต่างชาติ ช่วยไลฟ์ขายสินค้าไทย ลดขาดดุลจีน

13 ส.ค.67 ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระบุผ่าน Facebook ว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมจัดมหกรรม Live Commerce ในช่วงเดือนกันยายน โดยให้ Influencer จากต่างประเทศเข้ามาคัดเลือกสินค้าไทย นำไป Live เพื่อขายสินค้าจากประเทศไทยไปยังผู้บริโภคในประเทศจีน ซึ่งขณะนี้มีการสำรวจสินค้าไทยซึ่งเป็นที่ต้องการของคนจีนจำนวนกว่า 500 รายการสินค้า เพื่อทำการซื้อขายดึงเม็ดเงินจากการส่งออกสินค้าเข้าสู่ประเทศ โดยมีเป้าหมายครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,500 ล้านบาท ตามข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2567 ไทยขาดดุลการค้าจีน 19,967.5 ล้านดอลลาร์แล้ว นับเป็นการขาดดุลมานานหลายปีติดต่อกัน เนื่องจากจีนเป็นแหล่งนำเข้าลำดับที่ 1 ของไทย คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของการนำเข้ารวม (24.6%) และเป็นตลาดส่งออกลำดับที่ 2 ของไทย ซึ่งในปี 2566 มูลค่าส่งออกไปจีนคิดเป็นสัดส่วน 12% ภูมิธรรมกล่าวอีกว่า การเข้ามาของ Temu ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลก […]

“สรรพากร” ยอมรับ Temu ไม่ได้จดทะเบียนในไทย ไม่เข้าข่ายเสียภาษี

9 ส.ค.67 ข่าวช่อง 3 รายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาการทุ่มตลาดของสินค้าจีน ได้มีแนวปกป้องสินค้าไทยบนพื้นฐานของกฎหมายที่มีอยู่ ไม่เน้นเรื่องการตอบโต้ เพราะยอมรับว่าอาจจะกระทบกับความสัมพันธ์การค้าระหว่างประเทศซึ่งไทยก็ส่งออกสินค้าเกษตรให้จีนได้ อย่างไรก็ตามในส่วนตัวได้หารือกับทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งทางทูตจีนได้แสดงความกังวลเช่นกันพร้อมที่จะหาแนวทางร่วมกันต่อไป พร้อมระบุการที่จีนจะบุกไทยหรือไทยจะบุกจีนถือเป็นแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่ จีนมีสิทธิ์จะเข้ามา ไทยก็มีหน้าที่ที่จะปกป้องตัวเอง หากลุกขึ้นมาตอบโต้ ห้ามจีนทำการค้า ทางจีนเองก็อาจจะห้ามไทยได้ด้วยเหมือนกัน การค้าระหว่างประเทศก็จะไม่เกิดขึ้น ด้าน นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรได้ส่งอีเมล์ไปยังแพลตฟอร์ม Temu เพื่อแจ้งให้ทราบว่าหากแพลตฟอร์ม Temu เข้าข่ายเกณฑ์ที่กำหนดที่จะต้องจ่ายภาษีของไทย ก็ต้องเข้ามาจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฏหมาย แต่ไม่เปิดเผยว่าทางแพลตฟอร์ม Temu ตอบกลับหรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้จะต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มาจดทะเบียนผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้มีอยู่ในระบบกว่า 180 ราย สามารถจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มได้กว่า 6000 ล้านบาท และต้องมีผู้ค้าของไทยมาทำการค้ากับแพลตฟอร์มนั้น และมีการเก็บค่าดำเนินการต่างๆเช่นค่าคอมมิชชั่น กรมสรรพากรก็จะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% กับผู้ค้าไทย แต่ในส่วนแพลตฟอร์ม Temu ยังไม่เข้าข่ายดังกล่าว คือไม่ได้มีการตั้งถิ่นฐานสำนักงานในไทย และไม่ได้ทำการค้ากับพ่อค้าแม่ขายในไทย […]

ยังไงกันแน่! ”ภูมิธรรม” เลื่อนแถลงขึ้นทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมดิจิทัลวอลเล็ต

4 ส.ค. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในระหว่างลงพื้นที่จังหวัดลำพูน ว่า จะมีการเลื่อนแถลงข่าว “ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต” จากเดิมที่กำหนดไว้วันจันทร์ที่ 5 ส.ค. ที่กระทรวงพาณิชย์ เลื่อนไปประมาณเดือน ก.ย. นายภูมิธรรมระบุว่า การเลื่อนนี้เพราะไม่ต้องการซ้ำซ้อน และอยากให้โฟกัสเรื่องการลงทะเบียนของประชาชนก่อน อีกทั้งยังมีเวลาเพียงพอก่อนที่ทั้งโครงการจะครบทั้งระบบภายในเดือน ต.ค. ก่อนที่จะเริ่มโครงการได้ทันที นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เรื่องการเตรียมร้านค้าเป็นภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเราได้เตรียมการมาอย่างต่อเนื่องไม่ได้มีปัญหาอะไร สิ่งที่เราประเมินคือไม่อยากให้พี่น้องประชาชนสับสนเพราะตอนนี้ประชาชนทะลักเข้ามาลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตจนถึงวันนี้ 20 กว่าล้านคนแล้ว มีความสนใจลงทะเบียนเยอะ ขณะเดียวกันเราก็ได้รับคำถามต่าง ๆ ผ่านสายด่วน 1111 ว่ามีปัญหาอะไร เป็นธรรมดาที่เรากำลังทำเรื่องใหม่ ซึ่งพี่น้องประชาชนอาจจะยังมีความต้องการเข้าใจมากขึ้น เพื่อให้การใช้งานดิจิทัลวอลเล็ตได้ผลมีประสิทธิภาพสูงสุด” เราคิดว่าให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อน ซึ่งกว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะออกประมาณเดือนพฤศจิกายนและช่วง 1 ตุลาคมเป็นช่วงที่เราลงทะเบียนร้านค้า ยังมีเวลาเหลืออีก 2 เดือน เราจึงเลื่อนการแถลงไปก่อนไม่ให้สับสน เอาเรื่องคนลงทะเบียนให้จบ และจากนี้เอาเรื่องร้านค้ามาทีเดียว ขณะนี้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินเรื่องมีการสอบถามหน่วยงานเอกชนต่าง ๆ รวมทั้งร้านค้าแล้ว ขณะนี้แสดงตนมาเป็นล้านรายแล้ว หลังจากที่เคลียร์ชัดเจน […]

ภูมิธรรมเผย “พระสงฆ์” เป็นพลเมืองตามกฎหมาย รับวอลเล็ตได้!

25ก.ค.67 มติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงข้อสงสัยประเด็นการจ่ายเงิน 10,000 บาท ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ในส่วนของพระสงฆ์ว่า พระสงฆ์ถือเป็นพลเมืองได้สิทธิตามโครงการ เช่นเดียวกับผู้ป่วยติดเตียงนั้นไม่มีปัญหา ได้รับสิทธิตามปกติ โดยใช้บัตรประชาชนซึ่งจะมีเลข 13 หลักประจำบุคคลอยู่แล้วซึ่งจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนในครั้งที่สองและจะมีการแถลงข่าวในรายละเอียดให้ทราบอีกครั้ง ในส่วนร้านอาหารต่างๆ นั้นก็อยู่ในขอบข่าย แต่ขอให้รอทางกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้แถลงถึงความชัดเจนอีกครั้ง อย่างไรก็ตามขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดูในรายละเอียดสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนว่าจะใช้วิธีการและช่องทางใดบ้างในการอำนวยความสะดวก

ภูมิธรรม ปลื้ม มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลข้าว 10 ปี 8 ราย ดีเกินคาด

10 มิถุนายน 2567 นายวิทยากร มณีเนตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า องค์การคลังสินค้า (อคส.) รายงานผลการยื่นซองเอกสารคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูลข้าวของรัฐ จำนวน 15,000 ตันในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. โดยมีผู้ประกอบการสนใจเข้ายื่นซองตรวจสอบคุณสมบัติ ทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ประกอบการและผู้ส่งออกข้าวรายสำคัญจากจังหวัดต่าง ๆ อาทิ กำแพงเพชร ชัยนาท นครสวรรค์ สุพรรณบุรี และอุบลราชธานี เป็นต้น ทั้งนี้ ภายหลังจากยื่นซองคุณสมบัติของผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมประมูล ต่อไปทาง อคส. โดยคณะทำงานจะตรวจสอบคุณสมบัติผู้ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ และจะประกาศรายชื่อผู้ผ่านคุณสมบัติในวันที่ 13 มิถุนายน 2567 จากนั้นในวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ผู้ผ่านคุณสมบัติจะยื่นซองเสนอราคา และทาง อคส.จะเปิดซองเสนอราคาในวันเดียวกัน ก่อนประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูลในวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ต่อไป อย่างไรก็ดี ข้อกังวลที่ว่าจะไม่มีผู้ใดสนใจเข้าร่วมเพื่อมายื่นสองคุณสมบัติ การประมูลข้าวของรัฐบาล จึงคลายกังวลไปได้ และคิดว่าทั้ง […]

“ภูมิธรรม” ลั่น เตรียมปิดตำนาน ประมูลข้าว 10 ปี มิ.ย.นี้

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเปิดประมูลข้าวในสต๊อกรัฐ 10 ปีในโครงการรับจำนำข้าว ว่า ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ อยู่ระหว่างการจัดทำเอกสารการประมูล หรือ TOR โดยจะมีการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป แบบยกกองทั้งหมดจำนวน 15,000 ตัน โดยจะขายแบบจัดลำดับ 1-5 หากเกิดกรณีคนทิ้งประมูล ก็ให้เรียกลำดับถัดไป รองนายกฯ ระบุว่า ในส่วนของราคาประมูล อยากเห็นราคาประมูลอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของราคาตลาด แต่คงพูดไม่ได้ว่าจะได้ราคาเท่าไหร่ เพราะขึ้นอยู่กับราคาประมูลเวลานั้น ซึ่งหากราคาได้ตามที่ใจคิดก็จะได้มูลค่าอยู่ที่ 200-400 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้ไม่ควรให้ค้างอยู่ แต่ควรจะปิดตำนานโครงการรับจำนำข้าวลงมาสักที โดยยืนยันว่า การประมูลจะต้องจบภายในเดือนมิถุนายน 2567 นี้ “ตอนนี้ได้ให้ทุกฝ่ายได้พิจารณา เชื่อว่าตลาดข้าวในแอฟริกายังสนใจเข้าไทย เพราะเป็นข้าวที่ตรงกับความต้องการคือข้าวเก่า แต่ทุกคนก็มีสิทธิ์ประมูลเพื่อให้ได้เงินเข้าคลังมากขึ้น เพื่อที่จะชดใช้เยียวยากับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบซึ่งก็จะต้องมีการตกลงเยียวยากันต่อไป”   ข่าวจาก : thansettakij

ซูเปอร์โพล ชี้ 6 เดือนแรก “เศรษฐา” ทำงานเข้าตา ประชาชน

3 มี.ค. สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง ประเมินผลงานรัฐบาล 6 เดือน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ อายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวน 1,289 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-2 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา เมื่อถามถึงรัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ เมื่อตอบได้มากกว่า 1 ท่าน พบว่า 5 อันดับแรก รัฐมนตรีที่ประชาชนรับรู้และพอใจเรื่อง แก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ได้แก่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ร้อยละ 67.5 รองลงมา อันดับที่สอง ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร้อยละ 36.0 อันดับที่สาม […]

“วิษณุ” ขอบคุณ “ภูมิธรรม” ที่ยังนึกถึงทาบทาม คกก.ประชามติ ปฏิเสธนิ่มๆ ไม่ขอนั่งอีก พ้นมาแล้ว

24 ก.ย. นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ อยากทาบทามมาร่วมคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ว่า ขอบพระคุณมากที่ยังนึกถึง แต่ท่านอาจจะไม่นึกถึงก็ได้ แต่มีสื่อฯ ไปถามนำท่านก่อน แต่ก็ขอบคุณที่นึกถึง ซึ่งงานที่ทำเป็นงานใหญ่ ใช้เวลาและยุ่งยาก ข้อสำคัญอยู่กับความเห็นที่แตกต่าง ที่อาจจะเกิดความขัดแย้ง “ผมพ้นออกมาจากสิ่งเหล่านี้แล้ว ก็ไม่ควรจะกลับไปเป็นบุคคลสาธารณะอีก เพราะการไปทำงานนี้ คือไปเป็นบุคคลสาธารณะอย่างยิ่ง ทุกวันนี้ก็สบายอกสบายใจอยู่แล้ว” นายวิษณุ กล่าว… เมื่อถามว่า หากมาขอคำแนะนำเป็นบางครั้งบางคราว นายวิษณุ กล่าวว่า ด้วยความยินดี ซึ่งที่ผ่านมาก็มีอยู่บ้างคือรัฐมนตรีหน้าเก่าๆ ที่เคยอยู่ในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งคุ้นเคยกันอยู่ ท่านก็โทรมาถามแบบที่สื่อฯ สอบถามว่า สมัยนั้นสมัยนี้เป็นอย่างไร แต่ไม่ถามว่า ควรจะอย่างไร เพราะท่านตัดสินใจเองได้ และถามเรื่องในอดีต อาทิ มติ ครม.เก่าๆ ซึ่งก็มีคนโทรมาถามบ่อยๆ ทุกวัน นายวิษณุ กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรื่องนี้ตอบไม่ถูก แต่ให้เขาคิดกันเอง เพราะว่ายุ่งยากซับซ้อน ข้อสำคัญหากจะใช้วิธีไหนก็ตาม ก็ควรจะหลบหลีกการทำประชามติหลายครั้ง และเห็นด้วยกับแก้ไขเป็นรายมาตรา ทีละหลายๆ […]

1 2
error: