“เศรษฐา” สั่งยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี มีผล20ก.ย.นี้เป็นต้นไป

Advertisement 18 กันยายน 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศเรื่อง ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ในเขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ลงนามโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี Advertisement ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ลงวันที่20 กรกฏาคม พ.ศ. 2548 และได้ประกาศการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อใช้มาตรการต่าง 1 ที่บัญญัติไว้ในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เข้าดำเนินการในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งของรัฐและประชาชน ภายในเขตพื้นที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง นั้น Advertisement โดยที่ปรากฏว่า ในปัจจุบันสถานการณ์อันเป็นเหตุให้มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี อยู่ในภาวะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงานของรัฐสามารถใช้มาตรการต่าง ๆ เข้าควบคุม ระงับยับยั้ง และแก้ไขปัญหาได้ตามปกติแล้ว ดังนั้นอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคสาม ประกอบกับมาตรา11 วรรคสาม แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 นายกรัฐมนตรี จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้ ให้ยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 […]

รัฐสภาประกาศระเบียบใหม่ ย้าย ขรก.ไปทำงานหน่วยงานอื่นได้ทั่วประเทศ

14 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ระเบียบ ก.ร. ว่าด้วยการเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการรัฐสภาสามัญโดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ พ.ศ. 2566 ลงนามโดยนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ในฐานะประธาน ก.ร. สำหรับสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าวระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรเพิ่มพูนประสิทธิภาพของข้าราชการรัฐสภาสามัญ โดยการให้ไปปฏิบัติงานที่หน่วยงานอื่นในประเทศ เพื่อให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญมีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการให้เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของทางราชการ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 (3) และมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ ข้าราชการรัฐสภา พ.ศ. 2554 ก.ร. จึงออกระเบียบไว้ มีสาระสำคัญ อาทิ ข้อ 4 หน่วยงานอื่นในประเทศที่จะให้ข้าราชการรัฐสภาสามัญไปปฏิบัติงานตามระเบียบนี้ จะต้องมีองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับภารกิจของส่วนราชการสังกัดรัฐสภา ได้แก่ (1) ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจที่จัดตั้งขึ้น ตามพระราชบัญญัติ พระราชกฤษฎีกา หรือตามมติคณะรัฐมนตรี (2) ส่วนราชการสังกัดรัฐสภา (3) องค์การระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย (4) หน่วยงานภาคเอกชนที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้รับการจัดให้มีดัชนีราคาในตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่สุดหนึ่งร้อยอันดับแรก […]

ระเบียบ กกต. ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ฉบับ 2 กำหนดให้ใช้บัตรประชาชนยื่นเป็นหลักฐานได้แล้ว

31 สิงหาคม 2566 ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ระบุว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2565 เพื่อให้มีความชัดเจนและเหมาะสมยิ่งขึ้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ. 2560 ประกอบมาตรา 6 และมาตรา 43 แห่งพระราชบัญญัติการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 คณะกรรมการการเลือกตั้งจึงออกระเบียบเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติไว้ ดังนี้ ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ราชกิจจาฯ กำหนดคนต่างด้าวมีสัญชาติ มีถิ่นที่อยู่ในไทยไม่เกินประเทศละ 100 คน

1 ก.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีและกระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดจำนวนคนต่างด้าว ซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.2566 โดยที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี เห็นควรกำหนดให้คนต่างด้าวทั้งที่มีสัญชาติและไร้สัญชาติ เข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.2566 ได้ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 87/2557 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติม ผู้รักษาการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ ลงวันที่ 10 กรกฎาคม พุทธศักราช 2557 และมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี จึงประกาศกำหนดจำนวนคนต่างด้าวซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ. 2566 ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 คนต่างด้าวที่มีสัญชาติของแต่ละประเทศ ซึ่งจะมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร ประจำปี พ.ศ.2566 มีจำนวนประเทศละไม่เกินหนึ่งร้อยคน บรรดาอาณานิคมของประเทศหนึ่งรวมกันหรือแต่ละอาณาจักร ซึ่งมีการปกครองของตนเองให้ถือเป็นประเทศหนึ่ง […]

มท.ออกกฎกระทรวง อนุมัติสถานบริการ เขตเมืองการบินภาคตะวันออก เปิด24ชม.

25 สิงหาคม ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ กฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานบริการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. 2546 และมาตรา 30 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ. 2509 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นข้อ 6/1 แห่งกฎกระทรวงกำหนดวันเวลาเปิดปิดของสถานบริการ พ.ศ. 2547 “ข้อ 6/1 สถานบริการตามมาตรา 3 (1) ถึง (5) ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาต ให้ตั้งสถานบริการตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา และตั้งอยู่ในเขตส่งเสริมเมืองการบินภาคตะวันออก ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง กำหนด เขตส่งเสริม : เมืองการบินภาคตะวันออก ลงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561 ให้เปิดทำการได้ ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง” ให้ไว้ […]

ราชกิจจาฯ ประกาศแล้ว 4โรคต้องห้ามรับราชการ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคการปฏิบัติงานในหน้าที่

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2566 ลงนามโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.พ. เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2566 โดยกำหนด 4 โรคต้องห้าม ในการ “รับราชการ” เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานในหน้าที่ ประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (5) และมาตรา 36 ข. (2) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ก.พ. โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีจึงออกกฎ ก.พ. ไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 กฎ ก.พ. นี้ เรียกว่า “กฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ.2566” ข้อ 2 ให้ยกเลิกกฎ ก.พ. ว่าด้วยโรค พ.ศ. 2553 […]

ในหลวง โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต เปลี่ยนนามหน่วยทหารรักษาพระองค์ 7 หน่วย

17 ส.ค. 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ เรื่อง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนนามหน่วย และเปลี่ยนการเรียกนามหน่วยทหารรักษาพระองค์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนนามหน่วยและเปลี่ยนการเรียกนามหน่วยทหารรักษาพระองค์ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 มาตรา 8 (2) มาตรา 10 (5) มาตรา 15 และมาตรา 17 (2) แห่งพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2556 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตเปลี่ยนนามหน่วย และเปลี่ยนการเรียกนามหน่วยทหารรักษาพระองค์ จำนวน 7 หน่วย เพื่อให้การเรียกนามหน่วยทหาร รักษาพระองค์ของกองทัพบกมีความเป็นปัจจุบันและเป็นไปในแนวทางเดียวกัน ดังนี้ 1.กองพันทหารม้าที่ 4 กองพลที่ 1 รักษาพระองค์ เป็น กองพันทหารม้าที่ […]

ราชกิจจาฯ ประกาศให้ค่าทำศพผู้สูงอายุ60ปีขึ้นไป 3,000บาท มีผลแล้ว

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เรื่อง การสนับสนุนการสงเคราะห์ในการจัดการศพตามประเพณีผู้สูงอายุที่เสียชีวิตจะได้รับ “ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป” ต้องเข้าหลักเกณฑ์ ดังนี้ อายุเกิน 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป สัญชาติไทย ผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ผู้สูงอายุที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยังไม่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือยังไม่ได้ลงทะเบียน ให้ผู้อํานวยการเขต หรือนายอําเภอ หรือกํานัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือนายกเทศมนตรี หรือนายกองค์การบริหารส่วนตําบล หรือนายกเมืองพัทยา หรือประธานชุมชน เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง ตามแบบที่อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุกําหนด ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในประกาศนี้รวมถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุ สถานสงเคราะห์ สถานดูแล สถานคุ้มครอง หรือสถานใด ๆ ของรัฐหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ดําเนินการในลักษณะเดียวกัน ซึ่งจัดการศพตามประเพณีโดยมูลนิธิ สมาคมวัด มัสยิด โบสถ์ การยื่นคําขอเพื่อขอ “ค่าทำศพผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป” ให้ผู้ที่รับผิดชอบในการจัดการศพตามประเพณีรายนั้น ยื่นคําขอในท้องที่ที่ผู้สูงอายุมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือภูมิลําเนาในขณะถึงแก่ความตาย ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่นคําขอที่สํานักงานเขต ส่วนจังหวัดอื่นให้ยื่นคําขอที่สํานักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือที่ว่าการอําเภอ หรือสํานักงานเทศบาล หรือที่ทําการองค์การบริหารส่วนตําบล […]

ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่งประยุทธ์ ตั้งแต่วันที่19ก.ค. ให้ที่ปรึกษานายกฯ พ้นจากตำแหน่ง

19 กรกฎาคม 2566 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 173/2566 ลงนามโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทยพ้นจากตำแหน่ง คำสั่งดังกล่าวระบุว่า ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 2/2565 ลงวันที่ 6 มกราคม 2565 แต่งตั้ง หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย ตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2565 เป็นต้นไป นั้น เนื่องจาก หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ได้ขอลาออกจากตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และข้อ 4 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย พ.ศ. 2552 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยผู้แทนการค้าไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ. […]

โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 1 พันตรีหญิง 8 นายร้อยหญิง

14 กรกฎาคม ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 140 ตอนที่ 31 ข หน้า 1-2 ลงวันที่ 14 กรกฎาคม 2566 เผยแพร่ พระบรมราชโองการ ประกาศ พระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 มาตรา 10 มาตรา 13 และมาตรา 15 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 และมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติยศทหาร พุทธศักราช 2479 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานยศข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหารชั้นสัญญาบัตร จำนวน 9 นาย ดังนี้ 1. ร้อยเอกหญิง กุลวธู […]

1 3 4 5 44
error: