โอนวันนี้ ! เงินอุดหนุนบุตร เบี้ยคนพิการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เดือนธ.ค.67

Advertisement กลุ่มเปราะบาง รับเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยคนพิการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เช็คช่องทางตรวจสอบสถานะสิทธิการรับเงิน พร้อมไขข้อข้องใจเด็กเกิดเดือนไหนหมดสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยา Advertisement กลุ่มเปราะบาง อันประกอบไปด้วย เด็กแรกเกิด – 6 ขวบ ที่รับเงินอุดหนุนบุตรจำนวน 600 บาทต่อเดือน ผู้พิการ ที่รับเบี้ยความพิการ 800 และ 1,000 บาทต่อเดือน และ ผู้สูงอายุ ที่รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ แบบขั้นบันได ตั้งแต่ 600 ,700 ,800 และ 1,000 บาท วันนี้เตรียมรับเงินได้เลย โดยกรมบัญชีกลาง และ พม.จะโอนเงินเข้าบัญชีผู้ที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ประจำเดือนธันวาคม 2567 ซึ่งในเดือนนี้เงินช่วยเหลือเยียวยาได้ทำการโอนก่อนวันที่ 10 เนื่องจากในวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปีตรงกับวันรัฐธรรมนูญ ที่เป็นวันหยุดราชการ ดังนั้นพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือผู้พิการ และ ผู้สูงอายุ สามารถตรวจสอบบัญชี หรือ ตรวจสอบผ่านแอปฯทางรัฐฯได้ว่ามีเงินเข้ามาแล้วหรือไม่ หรือใครยังไม่แน่ใจว่าต้องตรวจสอบผ่านช่องทางใด ตรวจสอบผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐเพื่อเช็คสิทธิรับเงินเยียวยากลุ่มเปราะบาง ทั้งเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยคนพิการ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ดาวน์โหลดผ่านระบบ iOS  (คลิกที่นี่) […]

เปิดลงทะเบียนรับ ‘เบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ’ เดือนละ 600-1,000 บาท

รับเงินเดือนละ 1,000 บาท รายใหม่ลงทะเบียน ‘เบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ คนชรา’ สำหรับผู้สูงอายุ อายุครบ 60 ปี ประจำปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลช่วยเหลือค่าครองชีพ กลุ่มเปราะบาง เช็กขั้นตอน เอกสาร หลักฐานที่ต้องใช้ ตารางการจ่ายเงินแบบขั้นบันไดตามช่วงอายุ เงื่อนไข ลงทะเบียนรับเงิน เดือนละ 1,000 บาท ‘เบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ คนชรา’ เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี แต่ยังไม่เคยได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ที่กำลังจะเป็นผู้สูงอายุ โดยเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509 ลงทะเบียนรับเงินประจำปีงบประมาณ 2569 คุณสมบัติผู้ที่มีสิทธิ ลงทะเบียนรับเงิน เดือนละ 1,000 บาท ‘เบี้ยยังชีพ เบี้ยผู้สูงอายุ คนชรา’ – สัญชาติไทย – มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และ ผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 […]

ดีใจยิ้มแก้มปริ เงินหมื่นเข้าบัญชีแล้ว กลุ่มเปราะบาง แห่กดเงินแต่เช้า

25 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณหน้าตู้กดเงินธนาคารกรุงไทย สาขาชัยนาท ในตัวเทศบาลเมืองชัยนาท ในวันแรกของการโอนเงินตามโครง เติมเงิน10,000 บาทเพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งมีประชาชนกลุ่มเปราะบางทะยอยเดินทางออกจากบ้านมากดเช็กยอดเงินกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละคนเมื่อรู้ว่ามียอดเงินโอนเข้ามาแล้วต่างก็ดีใจดีใจยิ้มจนแก้มปริ อดที่จะออกอาการปลื้มแทบจะกระโดดโลดเต้นไม่ได้ นางนันทา หิรัญปาน กับนางวาสนา กลิ่นกุหลาบ ที่มาช่วยกันทำรายการเช็กยอดเงิน ที่เมื่อรู้ว่ามีเงินเข้ามาแล้ว ต่างคนต่างแสดงความยินดีและดีใจซึ่งกันและกัน โดยทั้ง 2 ท่าน ได้กดเงินออกมาทีเดียวหมดทั้ง10,000 บาท นางวาสนาบอกว่า ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรคนพิการอยู่ เฝ้ากดตรวจสอบผลการตรวจสอบสิทธิ์ตามโครงการในแอพฯทางรัฐ แต่ก็ไม่ทราบผลทำให้ร้อนใจ รอจนเช้าจึงชวนหลานมากดเช็กยอดที่หน้าตู้กดเงิน ทำให้ทราบว่ามีเงินโอนเข้ามาแล้ว ซึ่งเงินจำนวนนี้ ตนจะเก็บไว้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน และเป็นค่า ใช้จ่ายในการเลี้ยงดูหลานสาวที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา ซึ่งเงินจำนวน10,000 บาท นี้สำหรับครอบครัวคนจนอย่างตน ถือว่ามีค่ามากและน่าจะใช้จ่ายให้ชีวิตดีขึ้นได้หลายเดือน นางป้านันทา บอกว่า ดีใจมากๆที่เงินตามโครงการโอนเข้ามาแล้ว เพราะป้าเองหวังไว้มากกับเงิน10,000บาทก้อนนี้ เพราะตั้งใจไว้ว่าจะเอามาซื้อของซ่อมแซมบ้าน เพราะบ้านที่อยู่ปัจจุบัน มีสภาพที่ทรุดโทรมมาก เพราะเลี้ยงสุนัขหลายตัว มันกัดแทะจนเป้นรุ้โหว่หลายที่ เลยจะเอาเงินไปว่อมบ้าน ที่เหลือก้จะซื้อข้าวสารและของใช้ในบ้าน    

เปิด 5 ช่องทาง ตรวจสอบสิทธิรับเงิน 10,000 บาท

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 ครม.มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ตามที่นายกฯ ได้แถลงนโยบายของ ครม.ต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก คณะรัฐมนตรีเล็งเห็นว่า เนื่องจากในปี 2567 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่าอัตราการขยายตัวตามศักยภาพ (Potential Growth) และประเทศในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น การหดตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมในช่วงครึ่งปีแรก การหดตัวของการบริโภคสินค้าคงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ผู้ผลิตอุตสาหกรรมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลดลงอย่างต่อเนื่อง หนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนพิการที่มีกำลังซื้อที่อ่อนแอได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ คณะรัฐมนตรีจึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินโครงการฯ เพื่อเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ […]

จัดไป 2 เด้ง! “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ – กลุ่มเปราะบาง” รวม 3,200 บาท

นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยว่า จากมติครม.ที่ผ่านมา (5 พ.ค.2564) ได้รับหลักการมาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งสิ้น 6 โครงการ เป็นวงเงินราว 235,820 แสนล้านบาท โดยพบว่ามาตรการเยียวยารอบใหม่ กลุ่ม “ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หรือบัตรคนจน และ กลุ่ม “ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ” หรือ กลุ่มเปราะบาง จะได้เงินช่วยเหลือ 2 โครงการ คือ 1.จากโครงการ “เพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน” จะได้รับเพิ่มเติมเดือนละ 200 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนกรกฏาคม- ธันวาคม 2564 รวมรับเงินรายละ 1,200 บาท ครอบคลุม 16.1 ล้านคน โดยจำนวนนี้ 13.65 ล้านคน เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และอีก 2.5 ล้านคน เป็นผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ รัฐใช้วงเงินสิ้น 19,320 […]

error: