นักเรียนไม่มีกางเกงงวอร์ม ยอมแบกไม้มัดใหญ่จากบ้านมาแลก ครูเห็นใจ ยกให้ฟรี

Advertisement ผู้ใช้ติ๊กต็อก @manan_414 ซึ่งเป็นคุณครูอยู่ที่โรงเรียนใน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้แบ่งปันเรื่องราวของลูกศิษย์ตัวน้อย เมื่อลูกศิษย์ไม่มีกางเกงวอร์มใส่ บังเอิญที่บ้านขายไม้ ทางครอบครัวเลยให้เอาไม้หลักค้ำมาแลกกางเกงวอร์ม ในตอนแรกเธอนึกว่าเป็นไม้มัดเล็ก ๆ แต่กลับเป็นไม้มัดใหญ่ซะงั้น Advertisement ทั้งนี้ เธอยอมให้กางเกงวอร์มแก่ลูกศิษย์ไป พร้อมกับดึงไม้มาสัก 2-3 ชิ้นเพื่อไม่ให้ลูกศิษย์เสียน้ำใจ ส่วนไม้ที่เหลือก็ให้ลูกศิษย์นำกลับบ้าน เพื่อที่ทางบ้านสามารถนำไปขายต่อได้ ต่อมาคุณครูได้ตอบกลับชาวเน็ตว่า ขอบคุณทุกท่านที่เมตตา ตอนนี้น้องมีเครื่องแต่งกายครบแล้ว ซึ่งสิ่งที่เธอทำสามารถสอนลูกศิษย์ไปในตัวว่า ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ต้องรู้จักแลกเปลี่ยน และเด็ก ๆ ก็จะเห็นคุณค่าในสิ่งที่ได้มา นอกจากนี้ ทางโรงเรียนเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่มีผอ. ไม่มีนักการ เด็ก ๆ จะช่วยคุณครูทำทุกอย่างในโรงเรียน และคุณครูก็ช่วยเหลือนักเรียนอย่างดีเช่นกัน ถึงโรงเรียนจะเล็กแต่ความรักยิ่งใหญ่ไม่แพ้ใคร Advertisement @manan_414 เวลาเห็นถึงความขาดแคลน…จะนึกถึงตัวเองตอนเด็กเสมอ….#นักเรียนไม่มีกางเกงวอร์ม #ที่บ้านทำไม้เลยเอาไม้มาแลก #นึกว่ามัดเล็กๆ #ต้องลำบากนักเรียนเอากลับบ้านอีกกกก ♬ คนใจสู้ – ซี ดาหลา & วงริสแบนด์   ข่าวจาก […]

ครูถึงกับขาสั่น! เยี่ยมบ้านนักเรียน ทางแค่1ช่วงตัว ผิดองศามีตกคันนาได้

17 มิ.ย.66 สมาชิก TikTok @um.natariga ซึ่งเป็นครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ออกเยี่ยมบ้านนักเรียนประจำภาคเรียน เพื่อให้ครูได้เห็นสภาพแท้จริงของสิ่งแวดล้อมและสภาพความเป็นอยู่ทางครอบครัวของนักเรียน รวมทั้งช่วยให้ครูได้รู้ถึงเจตคติของผู้ปกครองที่มีต่อครู โรงเรียน และนักเรียน และเพื่อสร้างความเข้าใจ และความสัมพันธ์อันดีระหว่างบ้านกับโรงเรียน ซึ่งในคลิป เด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง เดินนำหน้าครูเพื่อพาไปที่บ้าน แต่ทางเดินนั้นอันตรายพอสมควร เนื่องจากเป็นคอนกรีตกว้างประมาณ 1 ฟุต ด้านข้างมีแคมป์คนงานก่อสร้าง เมื่อทะลุแคมป์ออกไป ก็จะเป็นทุ่งนา แต่ที่น่าหวาดเสียวคือความสูงของทางเดิน เพราะถ้าก้าวพลาดตกลงในนา ขึ้นมาลำบากแน่ เนื่องจากมีความสูงน่าจะหลายเมตร ขณะที่ชาวเน็ตต่างออกมาแซวติดตลกว่า ความจริงแล้วมีอีนเส้นทาง แต่พอรู้ครูจะมาบ้านเลยพามาทางลัด ขณะเดียวกันมีคนบอกว่า เส้นทางเป็นแบบนี้จริงๆ และมีทางเดียว ส่วนหลายๆ คนก็เป็นห่วง กลัวจะเกิดอันตราย @um.natariga เมื่อครูไปเยี่ยมบ้านนักเรียน ก้าวผิดชีวิตเปลี่ยนได้ 😭#เยี่ยมบ้านนักเรียน #ครูไทยเป็นคนตลก #ครูไทยทําได้ทุกอย่าง #การศึกษาไทย #ครู #นักเรียน ♬ เตรียมตัวออกเดินทางได้ – Djpaoremix   ข่าวจาก : ข่าวสด

เด็กชายในอินโฯ เกือบวูบกลางถนน เหตุเดินไป-กลับโรงเรียน16กิโลฯ ไม่ยอมขาดเรียนตลอด2ปี

เหตุการณ์น่าสะเทือนใจเกิดขึ้นที่ประเทศอินโดนีเซีย เด็กชายอายุ 16 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองตันเกอรังใต้ จังหวัดบันเติน การไปโรงเรียนของเขาอาศัยเดินเท้าแม้ว่าระยะทางจะมากถึง 8 กิโลเมตร เนื่องจากครอบครัวลำบากทางการเงินเกินกว่าจะจ่ายค่าเดินทางให้ได้ โรงเรียนมัธยมที่เขากำลังศึกษาอยู่นั้น ห่างจากบ้านของเขา 8 กิโลเมตร ดังนั้น หมายความว่าเขาต้องเดินไปและกลับจากสถานที่ทั้งสองแห่งรวม 16 กิโลเมตรทุกวัน ใช้เวลารวมมากกว่า 3 ชั่วโมง แม้เส้นทางไปเรียนจะไกลแต่เขาก็ยังยืนหยัด และไม่เคยขาดเรียนเลยตลอด 2 ปี กระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้ เนื่องจากมีอาการไม่สบายทางร่างกายอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เขาเกือบหมดสติไประหว่างทางกลับบ้าน ผู้ที่สัญจรไปมาเห็นเด็กสวมชุดนักเรียนนั่งพักอยู่ริมถนน จึงเข้ามาสอบถามพร้อมกับช่วยเหลือ ทั้งนี้ยังได้มีคนถ่ายคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์บนโลกออนไลน์ พร้อมกับเรื่องเล่าชีวิตของเขาจนกลายเป็นไวรัล ปรากฏว่าที่บ้านของเขามีพ่อเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเพียงคนเดียว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจุบันพ่อของเขาป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง และไม่สามารถทำงานได้ ชีวิตของเขาจึงพลิกผันในทันที เนื่องจากไม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนของโรงเรียนเอกชนได้ จึงต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนของรัฐที่ห่างไกล และจำเป็นต้องเดินไปและกลับจากโรงเรียนเพื่อประหยัดค่าเดินทาง ล่าสุดหลังจากคลิปกลายเป็นไวรัล รองนายกเทศมนตรีเมืองตันเกอรังใต้ ได้รับรู้เรื่องราวของเขาแล้ว และได้เดินทางมาเยี่ยมที่บ้าน พร้อมมอบจักรยานให้ใช้สำหรับเดินทาง และทุนการศึกษาเพื่อช่วยให้เขาเรียนจบ   ข่าวจาก : Sanook

แบบนี้แฟร์ ๆ ดี ครูปิ๊งไอเดีย “สมุดร้องทุกข์” นร.ต้องเขียนคำร้อง-รอครูไต่สวน

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ‘ข้าวแช่ เมืองเพชร’ ครูโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านชะอำ ได้โพสต์รูปภาพ สมุดเขียนคำร้องของเด็ก ๆ ทั้งนี้ปกติเมื่อเด็ก ๆ ถูกเพื่อนแกล้ง หรือมีการทะเลาะวิวาทกัน จะมาฟ้องคุณครู ซึ่งจะมีหลายคนมาก จนทำให้คุณครูหลายคนมีอาการปวดหัว และปวดหูไปตาม ๆ กัน จึงแก้ไขปัญหานี้ ด้วยการทำจุดเขียนคำร้องได้ทุกเรื่อง พร้อมสมุด 1 เล่ม เพื่อให้เด็กๆ นักเรียนเดินมาเขียนคำร้องเวลาถูกเพื่อนแกล้ง จากนั้นจะไต่สวน ถึงเรื่องราวที่โดนร้องของนักเรียน “ฉีกกฎการฟ้องครู ช่วยให้ครูเบาหูขึ้น นวัตกรรม : ฟ้องได้ต้องเขียนเป็น ครูสอนให้อ่าน ให้เขียนแสนจะยาก แต่พออัดอั้นอยากฟ้อง ก็ไปตามเพื่อนมาช่วยสะกด #ป.2/1 #เผยแพร่ได้ไม่หวงค่าเผื่อคุณครูเจอปัญหาเดียวกัน” งานนี้ หลังถูกเผยแพร่ออกไป ต่างก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ก็เข้ามาชื่นชม กับวิธีการแก้ไขปัญหา โดยมองว่าวิธีนี้นอกจากครูจะได้หูเบาขึ้นแล้ว จะช่วยให้นักเรียนให้สะกด เขียนภาษาไทยคล่องอีกด้วย   ข่าวจาก : ข่าวสด

ดราม่าเด็กก้มกราบครู รร.เผย นร.คิดกิจกรรมเอง หวังแสดงความกตัญญู

7 เม.ย.2566 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผย กรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกโพสต์วิดีโอนักเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุพรรณบุรี เขต 1 นั่งก้มกราบครูทุกคน จนกว่าครูจะเดินผ่านทั้งหมด ว่า ตนทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยทางโรงเรียนรายงานว่า กิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมปัจฉิมนิเทศของนักเรียนชั้น ม.3 และ ม.6 ซึ่งทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมปัจฉิมนิเทศทุกปี โดยในปีนี้นักเรียนเป็นคนออกแบบกิจกรรมเพื่อแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตาระหว่างลูกศิษย์กับคุณครู ซึ่งถือเป็นแบบอย่างที่ดี “เรื่องดังกล่าวอยู่ที่มุมมองของแต่ละคน ซึ่งเรื่องนี้มองได้ 2 มุม คือ 1.เป็นการแสดงออกด้วยความกตัญญู หากกิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกด้วยความกตัญญูก็ควรจะคงกิจกรรมนี้ไว้ และ 2. ถ้าเป็นการบังคับให้เด็กมาทำ และเด็กไม่เต็มใจ ไม่มีความภาคภูมิใจ ก็เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง ดังนั้น การจะให้คน คนหนึ่ง มาก้มกราบ หรือมาทำกิจกรรมอะไร ต้องดูความสมัครใจความต้องการของเด็กด้วย แต่อย่าไปบังคับให้เด็กทำ”นายอัมพร กล่าว   ข่าวจาก : ข่าวสด

ครูใจเหี้ยม สั่งนร.ยืนเท้าเปล่าตากแดดจนเท้าเป็นแผล เหตุไม่เชื่อว่าเป็นเล็บขบ

2 ก.พ. 2566 – ผู้ปกครองรายหนึ่ง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวร้องเรียนกรณี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ให้ลูกชายถอดรองเท้ายืนตากแดด จนเท้าพองเป็นแผล หลังจากที่ลูกใส่รองเท้าแตะไปโรงเรียน ผู้ปกครอง ระบุข้อความว่า ” วันนี้ลูกชายไม่ได้ใส่รองเท้านักเรียน เนื่องจากเล็บขบ อธิบายกับครูแล้ว ครูไม่เชื่อ สั่งให้ถอดรองเท้ายืนตากแดดบนถนนตอนเที่ยง จะตีก็ได้ไม่ว่า เพราะถ้าแบบนี้เด็กเดินทางไปโรงเรียนไม่สะดวก เรียนมาก็สูง เอาสมองส่วนไหนคิด ตีเป็นรอยก็ไม่ว่าอะไรหรอก อย่างน้อยก็ไปโรงเรียนสะดวก” ขณะที่หลายคนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ระบุว่า ให้แจ้งทางโรงเรียนให้ทราบเรื่อง เพราะว่าคุณครูทำเกินกว่าเหตุ ส่วนบางความเห็นระบุว่า ให้เอาเรื่องจนถึงที่สุด พร้อมระบุว่าคนทำโทษ ไม่มีจรรยาบรรณของความเป็นครูเลยสักนิด ด้านผู้โพสต์ ได้ระบุต่อในคอมเมนต์สั้น ๆ ว่า เดี๋ยวจะเดินทางไปพูดคุยกับทางโรงเรียนในวันศุกร์นี้   ข่าวจาก : ข่าวสด

ครูหั่นผมนร.หญิง เข้าใจผิดคิดว่าเป็นผู้ชาย อ้างเห็นแค่ใส่แมสก์-ชุดพละ

จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ปรากฏภาพของครูท่านหนึ่ง ถือกรรไกรมาตัดผมนักเรียนที่ใส่ชุดลูกเสือ ทีละคนๆ ที่นั่งอยู่กลางสนามหญ้า นักเรียนที่ถูกตัดผม ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชายที่มีผมยาว แต่มีดราม่าเกิดขึ้น เพราะครูผู้ชายไปตัดผมนักเรียนหญิง ที่มีลักษณะทอมบอย โดยมีการโพสต์ข้อความ ระบุว่า โรงเรียนเขียวเหลืองแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น น้องเสื้อเขียวพละ เป็นผู้หญิงด้วย (ทอม) มันเกินไปไหม? ทีมข่าวช่อง 8 ศูนย์อีสาน ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตามคลิปที่ปรากฏ โรงเรียนอยู่ในพื้นที่อำเภอชนบท จังหวัดขอนแก่น ซึ่งทางอาจารย์ไม่อนุญาตให้ทีมข่าวสัมภาษณ์แต่สามารถสอบถามพูดคุยกันได้ โดยอาจารย์ เปิดเผยว่า คลิปที่ปรากฏในสื่อโซเชียล ยอมรับว่า เป็นคลิปนักเรียนของโรงเรียนจริง โดยในคลิปเป็นช่วงหลังเคารพธงชาติในช่วงเช้า อาจารย์ก็จะเรียกนักเรียนคนที่ทำผิดกระเบียบของโรงเรียนมาลงโทษ ตามระเบียบกฎกระทรวงศึกษาธิการที่อนุญาตให้นักเรียนไว้ทรงผมได้กี่แบบ มีความยาวแค่ไหน และในคลิปก็เป็นการลงโทษนักเรียนที่มีทรงผมยาวผิดกฎระเบียบของโรงเรียน หรือเกินที่โรงเรียนกำหนด โดยนักเรียนสามารถไว้ผมรองทรงได้แต่ต้องไม่ยาวเกินหู ส่วนนักเรียนไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบมัดผมเก็บผมให้เรียบร้อย ขณะที่กลุ่มที่ถูกลงโทษมีนักเรียนที่เป็นผู้หญิง (ทอม) อยู่ด้วย และอาจารย์คนที่ลงโทษยอมรับไม่รู้ว่าเป็นเด็กผู้หญิง เพราะใส่แมสก์และใส่ชุดพละศึกษา จึงได้ลงโทษด้วยการตัดผมด้านบนหัวจนสั้น เป็นแหว่งๆ และตอนนี้อาจารย์คนที่ลงโทษ( ฝ่ายปกครอง) ก็รู้สึกผิด ล่าสุดทางโรงเรียนเตรียมที่จะเข้าไปพูดคุยเยี่ยวยากับผู้ปกครองของนักเรียนหญิงคนดังกล่าว และจะมีการชี้แจงกับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง   ข่าวจาก : ข่าวช่อง8

น้ำตาแห่งความอัดอั้น อยากเรียนสายวิชาที่ชอบ แต่ที่บ้านให้เรียนอีกสาย

ผู้ใช้งาน TikTok บัญชี onanong.2007 ได้แชร์คลิปสุดบีบหัวใจ ของเพื่อนนักเรียนคนหนึ่ง ที่ไม่สามารถเรียนต่อในสายวิชาที่ตัวเองต้องการได้ เพราะพ่อแม่ต้องการให้ไปเรียนในอีกสายวิชา พร้อมบรรยายคลิปว่า “ชีวิต ม.3 พ่อแม่บังคับ”   โดยในคลิปจะเห็นได้ว่านักเรียนหญิงคนหนึ่งกอดเพื่อนและร้องไห้อย่างหนักมาก พร้อมตัดพ้อชีวิตกับเพื่อนๆ ซึ่งในคลิปยังได้บรรยายเพิ่มเติมอีกด้วยว่า “กับอนาคตของเด็กคนหนึ่ง ที่อยากเรียนต่อสายที่ตัวเองชอบ มันไม่ได้” นอกจากนั้นในคลิปก็ยังได้ยินเสียงของนักเรียนหญิงที่ร้องไห้พูดอีกด้วยว่า “เขาหาว่ากูจะไปหาผู้ชาย” หลังจากที่คลิปดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป ก็เรียกว่ากลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงบนโลกออนไลน์กันอย่างมากมาย โดยมีผู้ที่เข้ามารับชมคลิปมากกว่า 1.7 ล้านครั้ง รวมไปถึงยังมีคอมเมนต์อีกมากมายที่เข้ามาให้กำลังใจน้องนักเรียนกันอย่างล้นหลาม ข่าวจาก : sanook

ทปอ.ให้อิสระจัดเต็มเสื้อผ้า-หน้า-ผม นักเรียนเข้าสอบ TGAT-TPAT

หลังมีนักเรียนถามไปยังที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยเกี่ยวกับการแต่งกายเข้าสอบ TGAT-TPAT ที่กำลังเปิดรับสมัครและทำการสอบในวันที่ 10-12 ธันวาคมนี้ว่าจะต้องแต่งกายอย่างไร เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่ได้ห้ามเรื่องการทำสีเล็บ แล้วทำไมไม่อนุญาตเรื่องทำสีผม ล่าสุดสมาคมที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย ออกประกาศเรื่องการแต่งกายไปสอบ TGAT/TPAT2-5 และ A-Level สาระสำคัญระบุว่า นักเรียนสามารถแต่งชุดนักเรียน ชุดพละ หรือชุดนักศึกษาเข้ามาสอบก็ได้ จะมีหรือไม่มีตราของสถาบันการศึกษาก็ได้ และสามารถแต่งชุดสุภาพเข้าห้องสอบ ทั้งเสื้อเชิ้ต เสื้อโปโล กางเกงขายาว หรือกระโปรงยาวคลุมเข่า รองเท้าหุ้มส้น สีผม และสีเล็บ สามารถทำได้ทุกสี ใส่แว่นสายตา และคอนแทคเลนส์มาสอบได้ สำหรับผู้เข้าสอบเพศทางเลือก สามารถแต่งกายสุภาพได้ตามประสงค์ ไม่จำเป็นต้องตรงกับเพศกำเนิดของตนเอง แต่ต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาสอบ ด้านรศ.ดร.ชาลี เจริญลาภนพรัตน์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรับเข้าศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ผู้จัดการระบบการคัดเลือกกลางบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2566 เปิดเผยว่า ในวันที่ 1-10 พฤศจิกายนนี้ ทปอ.จะเปิดสมัครสอบรายวิชา TGAT และ TPAT2-5 โดยผู้สมัครสามารถเลือกสอบด้วยกระดาษ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ตามความสมัครใจ และสามารถเลือกสนามสอบได้ด้วย โดยเลือกสนามสอบแบบเรียงลำดับ 5 ลำดับ ซึ่งจะสอบในวันที่ […]

มาตรการสถานศึกษาป้องกันโควิด มีคนติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่ต้องปิดเรียน

3 ต.ค.65 น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวตอนหนึ่งในการแถลงข่าวเตรียมความพร้อมสถานศึกษาในสังกัดและในกำกับกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ ว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยมีแนวโน้มคลี่คลายลง และ สธ.ได้ประกาศยกเลิกโรคโควิด-19 จากโรคติดต่ออันตราย เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา และ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมติยกเลิก พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ให้กลับไปใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จึงยกเลิกประกาศ 3 ฉบับ เพื่อให้สอดรับกัน ได้แก่ ประกาศ ศธ. เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ ศธ. ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2564 และ ประกาศ ศธ. เรื่องดังกล่าวเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 […]

1 2 3 4
error: