จุลพันธ์ เผย เตรียมเปิดลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่อรื้อสิทธิการใช้จ่ายใหม่

Advertisement ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมว่า หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบทบทวน Advertisement มติคณะรัฐมนตรี ปรับรอบการลงทะเบียนจาก 1 ปี เป็น 2 ปี โดยรัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม 2568 นี้ หลักเกณฑ์การลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ กระบวนการในการที่จะลงทะเบียนเบื้องต้น คาดว่าจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน ซึ่งแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มเดิมคือผู้ที่มีสิทธิในปัจจุบันที่ผ่านกระบวนการแล้ว 14.5 ล้านคน และ 2.กลุ่มใหม่ที่ประมาณการไว้ที่ 10 ล้านคน สำหรับกลุ่มใหม่ ที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา กลุ่มที่เคยลงทะเบียนแต่ไม่ได้รับสิทธิ 4-5 ล้านคน และกลุ่มอื่น ๆ ที่คาดการณ์ไว้ก็มีอีกหลาย ๆ ล้านคนที่คงจะมาลงทะเบียน ซึ่งไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดจะได้รับสิทธิก็ต้องมาตรวจสอบตามกลไกต่อไป นายจุลพันธ์กล่าวว่า สำหรับกลุ่มผู้มีสิทธิเดิม […]

เว็บลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 68 คลัง เตรียมเปิดรอบใหม่

24 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ มีความชัดเจนแล้ว ภายหลังจาก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง จะมีการนัดประชุมหารือความคืบหน้าการเปิด ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ เร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นไปตามมติครม. หลังให้มีการทบทวนข้อมูลบัตรสวัสดิการแห่งรัฐใหม่ทุก 2 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมการเปิดลงทะเบียนบัตรสวัสดิการฯ รอบใหม่ช่วงต้นปี 68 และจากนั้นจะมีการคัดกรองคุณสมบัติใหม่ เพื่อให้ได้คนผู้ได้สิทธิทั้งหมดเสร็จทันภายในวันที่ 31 มี.ค.2568 เว็บลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 สำหรับเว็บลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 หากเงื่อนไขการลงทะเบียนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คาดว่า กระทรวงการคลัง จะเปิดให้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่เว็บไซต์ มีขั้นตอนลงทะเบียน 6 ขั้นตอน ดังนี้ เข้าไปเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th https://welfare.mof.go.th/ คลิกลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ เลือกหน่วยงาน เช่น ธนาคารกรุงไทย เลือกจังหวัด กรอกข้อมูลบัตรประชาชน และ เลข Laser หลังบัตรประชาชน คลิก ขั้นตอนถัดไป […]

ครม.ทบทวนเกณฑ์ลงทะเบียน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รอบใหม่

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 15 ตุลาคม 2567 นี้ มีวาระสำคัญที่ต้องติดตาม โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อยที่เคยได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หลังจากคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เตรียมเสนอ ที่ประชุมทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เรื่อง โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 สำหรับการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ทบทวนมติครม.เดิมเกี่ยวกับโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 นั้น จะเป็นการรองรับการเปิดให้ผู้ที่มีรายได้น้อยลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ ซึ่งกระทรวงการคลังจะทบทวนรายละเอียดเงื่อนไขและสิทธิของผู้เข้าร่วมโครงการรายเดิม รวมทั้งการเปิดให้ผู้มีรายได้น้อยรายใหม่เข้าลงทะเบียน หลังจากการให้สิทธิรอบเดิมเมื่อปี 2565 ครบกำหนด 2 ปีแล้ว ทั้งนี้มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้มีสิทธิในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กระทรวงการคลัง จะปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ เช่น เพิ่มการตรวจสอบคุณสมบัติของครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องรายได้ เช่น กรณีผู้ลงทะเบียน เป็นแม่บ้าน ไม่มีรายได้จากการทำงาน แต่หากสามีมีรายได้หรือทรัพย์สินที่สามารถดูแลได้ทั้งครัวเรือน โดยนำรายได้มาหารเฉลี่ยในต่อหัวของคนในครอบครัวแล้วเกิน 1 แสนบาทต่อคนต่อปี ผู้ลงทะเบียนที่เป็นแม่บ้านจะไม่ผ่านเกณฑ์ สำหรับการเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 ตั้งแต่วันที่ 5 […]

เตรียมเปิดลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่

สำหรับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ในช่วงต้นปี 2568 หรือประมาณเดือนมี.ค. กระทรวงการคลังวางแผนว่า จะเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน รอบใหม่ เพราะขณะนี้กำลังจะครบ 2 ปี หลังจากรอบล่าสุดที่เปิดลงทะเบียน เมื่อปลายปี 2565 เมื่อวันที่ 5 ก.ย.-31 ต.ค. เพื่อเป็นการทบทวนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการใหม่ โดยวางแผนไว้ว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะทบทวนผู้มีสิทธิกันใหม่ทุกๆ 2 ปี เพราะบางคนอาจจะมีคุณสมบัติที่หลุดจากเกณฑ์ไปแล้ว หรือบางคนที่ไม่ได้สิทธิ คุณสมบัติอาจจะผ่านในรอบนี้ ซึ่งรอบที่แล้วเดิมมีผู้ลงทะเบียนกว่า 14.9 ล้านคน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ราว 13.5 ล้านคน เพราะส่วนหนึ่งก็เสียชีวิตไป เกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมคือ ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่าง […]

กระทรวงการคลัง เล็งทบทวน ผู้ถือ บัตรคนจน จ่อเปิดลงทะเบียนรอบใหม่

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ช่วงต้นปี 2568 หรือราวเดือน มี.ค. กระทรวงการคลังวางแผนไว้ว่า จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน รอบใหม่ เนื่องจากขณะนี้กำลังจะครบ 2 ปี หลังจากรอบล่าสุดที่เปิดลงทะเบียน เมื่อปลายปี 2565 (5 ก.ย.-31 ต.ค.) ทั้งนี้ เพื่อเป็นการทบทวนคุณสมบัติของผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการใหม่ “มีการวางไว้ว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีการทบทวนผู้มีสิทธิกันใหม่ทุก ๆ 2 ปี เพราะบางคนอาจจะมีคุณสมบัติที่หลุดจากเกณฑ์ไปแล้ว หรือบางคนที่ไม่ได้สิทธิ คุณสมบัติอาจจะผ่านในรอบนี้ ซึ่งรอบที่แล้วเดิมมีผู้ลงทะเบียนกว่า 14.9 ล้านคน แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ราว 13.5 ล้านคน เพราะส่วนหนึ่งก็เสียชีวิตไป” แหล่งข่าวกล่าว สำหรับเกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมคือ ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว โดยต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี รวมถึงทรัพย์สินทางการเงิน […]

เปิด 5 ช่องทาง ตรวจสอบสิทธิรับเงิน 10,000 บาท

เมื่อวันที่ 17 ก.ย.2567 ครม.มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ตามที่นายกฯ ได้แถลงนโยบายของ ครม.ต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ (โครงการฯ) ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา โดยมีนโยบายสำคัญที่จะเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย ควบคู่กับการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเปราะบางเป็นลำดับแรก คณะรัฐมนตรีเล็งเห็นว่า เนื่องจากในปี 2567 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และต่ำกว่าอัตราการขยายตัวตามศักยภาพ (Potential Growth) และประเทศในภูมิภาค นอกจากนี้ ยังต้องเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ เช่น การหดตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตรกรรมในช่วงครึ่งปีแรก การหดตัวของการบริโภคสินค้าคงทุนในช่วง 7 เดือนแรกของปี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ผู้ผลิตอุตสาหกรรมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมลดลงอย่างต่อเนื่อง หนี้ภาคครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ เป็นต้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยและคนพิการที่มีกำลังซื้อที่อ่อนแอได้รับผลกระทบเป็นกลุ่มแรก ๆ คณะรัฐมนตรีจึงมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินโครงการฯ เพื่อเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการใช้จ่ายของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพ […]

วิธีขอดูยอดเงินสดดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ชัดเจนแล้วว่าแจกเงินสดดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท กลุ่มแรกที่จะได้รับเงิน คือ กลุ่มเปราะบางจำนวน 14.5 ล้านราย ดังนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนจำนวน 13.5 ล้านราย  กลุ่มเปราะบางผู้พิการจำนวน 1 ล้านราย โดยรัฐบาลจะโอนงินสดเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนสำหรับผู้ได้รับสิทธิ และ โอนเงินพร้อมเพย์บัตรประชาชนสำหรับกลุ่มเปราะบาง 1 ล้านราย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน วิธีขอดูยอดเงินสดดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามไทม์ไลน์ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไได้ปาฐกถา “วิสัยทัศน์ประเทศไทย” Vision For Thailand จัดโดย “เนชั่น กรุ๊ป” ว่า กลุ่มเปราะบางทั้งสองกลุ่ม คือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน และ กลุ่มคนพิการ รัฐบาลโอนเงินสดในเดือนกันยายน 2567 หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงในเดือนกันยายนนี้ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน และ กลุ่มเปราะบาง สามารถเช็กยอดเงินสดเข้าในบัญชี โดยสามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ ไปที่ตู้เอทีเอ็ม( ATM )ธนาคารกรุงไทย สอดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเข้าตู้ เอทีเอ็ม ธนาคารกรุงไทย […]

ครม.อนุมัติ 3.5พันล้าน เติมเงิน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” 2 เดือน

27 สิงหาคม 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบกลาง เงินสำรองจ่าย เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 67 วงเงิน 3,500 ล้านบาท ให้กับกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม นายเฉลิมพลกล่าวว่า สำหรับสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับกองทุนประชารัฐฯ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายให้ถึงสิ้นปีงบประมาณ 67  หรือใช้จ่ายในเดือนสิงหาคมถึงกันยายน 67 นายเฉลิมพลกล่าวว่า กองทุนประชารัฐฯ ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 67 วงเงินเหลืออยู่ 6,000 กว่าล้านบาท แต่กองทุนประชารัฐฯ จะจ่ายทุกเดือน เดือนละ 4,900 กว่าล้านบาท จึงเป็นการเติมเงินให้กับกองทุนฯ ให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายให้ถึงสิ้นเดือนกันยายน 67 ข่าวจาก ฐานเศรษฐกิจ

ปรับเงื่อนไข ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ไปต่อ แจกกลุ่มเปราะบาง ผ่านบัตรคนจน แจก 1 หมื่นรอบเดียว

21 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรคเพื่อไทยในสมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อมาถึงรัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กลับมีกระแสข่าวว่าโครงการจะถูกล้ม ล่าสุดแหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเดินหน้าต่อ สอดคล้องกับที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ว่าดิจิทัลวอลเล็ตมีทางไปและมีทางออกที่ดี แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด ขอให้ขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะแถลงครั้งเดียว โดยแหล่งข่าวระบุว่า การเดินหน้าของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะมีการปรับเงื่อนไขเบื้องต้นจะเป็นการแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางที่ลงทะเบียนไว้ก่อนเป็นอันดับแรกในวงเงิน 1.22 แสนล้านบาท ตามที่สภาเห็นชอบอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม 1.22 แสนล้านบาท มาใช้แจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเป็นการแจกเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) ในครั้งเดียว จำนวน 10,000 บาท โดยไม่กังวลว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นบัตรที่มาจากนโยบายของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งวิธีการดังกล่าวถือเป็นการเปลี่ยนจากการใช้เงินผ่านระบบดิจิทัลเป็นการเติมเงินสดลงไปในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อเป็นการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางที่ต้องการความช่วยเหลือจากภาครัฐก่อน ส่วนประชาชนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบางนั้นยังไม่ได้พิจารณา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการปาฐกถาพิเศษในงาน Dinner Talk: […]

กบง. ช่วย “ผู้ถือบัตรคนจน” 3 เดือน ให้ค่าน้ำมัน 120 บาท/เดือน

(27 มิ.ย.2567) นายวีรพัฒน์เกียรติ เฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กบง. และโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุม กบง. มีมติให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่นก๊าซ LPG ที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. ถึง 30 ก.ย. 2567 และให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) พิจารณาบริหารจัดการเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงให้สอดคล้องกับแนวทางการทบทวนการกำหนดราคาก๊าซ LPG ต่อไป นายวีรพัฒน์ ยังอีกว่า ขณะนี้ราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินในประเทศปรับตัวสูงขึ้น มีแนวโน้มทรงตัวในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านราคาน้ำมัน สำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งเป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางที่จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือในช่วงที่ระดับราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูง ดังนั้นกบง.จึงมีมติเห็นชอบในหลักการ มาตรการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันสำหรับผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานหารือกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสนอเรื่องขออนุมัติหลักการจากคณะรัฐมนตรี โดยรูปแบบจะให้สิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมัน 120 บาท/คน/เดือน เป็นระยะเวลา 3 […]

1 2 11
error: