มาแน่! โพลเผย ประชาชนเชื่อ อาจมีโอกาส “เกิดรัฐประหาร” อีกครั้ง
Advertisement Advertisement
Advertisement Advertisement
พปชร.ประกาศชัดไม่แตะกองทัพ ชี้รัฐประหารเกิดจากนักการเมืองบริหารประเทศไม่ได้เอง ทางกองทัพจึงต้องเข้ามา วันนี้ (20 ก.พ.62) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พาแกนนำพรรคไปเปิดนโยบาย Bangkok OK ที่ตึก FYI โดยชู 4 เรื่องหลัก คือ 1 ติดตั้ง Super Speed WIFI 9 จุดทั่วกรุงเทพฯ เพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า ขายของ และทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบออนไลน์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น 2 สร้างเว็บไซด์กลาง ให้คนกรุงเทพฯ นำสินค้ามาขายทางออนไลน์ เพื่อจะได้ลดต้นทุน ไม่ต้องเสียเงินสร้าง หรือ จ้างเว็บเอง 3 ทำถนนคนเดินประชารัฐ 50 เส้นใน 50 เขตทั่วกรุงเทพฯ ทุกวันอาทิตย์ เพื่อเป็นแลนด์มาร์ค ให้คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ และให้พ่อค้า แม่ค้าที่ถูกจัดระเบียบทางเท้า ได้กลับมาขายของได้ 4 ตั้งกองทุนให้คนรุ่นใหม่ ทำธุรกิจ Start Up […]
ผู้บัญชาการทหารบก ยืนยันกระแสข่าวรัฐประหารไม่เป็นความจริง ย้ำจุดยืนกองทัพเป็นกลางและอยู่ข้างประชาชน ไม่ขอแสดงความเห็นกรณี กกต.ยื่นยุบพรรคไทยรักษาชาติ 13 ก.พ.2562 พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวภายหลังเป็นประธานแถลงข่าวรายการชกมวย ถึงกระแสข่าวลือการรัฐประหาร ว่า ไม่เป็นความจริง โดยข่าวลือดังกล่าวเป็นความพยายามสร้างสถานการณ์ นำประเด็นต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกัน ส่วนการเคลื่อนย้ายรถถัง หรือยานพาหนะ เพื่อใช้ในการฝึกหน่วยทหาร ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก อย่าตกเป็นเหยื่อสื่อสังคมออนไลน์ที่พยายามบิดเบือน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวย้ำว่าจุดยืนของกองทัพยังคงเหมือนเดิม คือ วางตัวเป็นกลางและจะยืนอยู่ข้างประชาชน พร้อมกำชับกำลังพลระมัดระวังตัวและอย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง โดยยึดถือชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการทหารบก ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติ โดยขอให้เป็นเรื่องทางการเมือง และน้อมนำพระราชโองการไปปฏิบัติ "ข่าวลือก็คือข่าวลือ คนทำเป็นคนเดิม ๆ เมื่อมีพระราชโองการออกมาแล้ว ผมไม่อยากจะพูดอะไร ขอให้น้อมนำไปปฏิบัติ กองทัพวางตัวเป็นกลาง อยู่ในกรอบของกฎหมาย อย่าล้ำเส้นซึ่งกันและกัน" ข่าวจาก : http://news.thaipbs.or.th/content/277703, โต๊ะข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
เมื่อวันที่ 25 กันยายน นายเอกชัย อิสระทะ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ อดีตแกนนำพันธมิตรภาคใต้และผู้ชุมนุม กปปส. ออกแถลงการณ์ขอโทษการเข้าร่วมชุมนุม กปปส.ที่มีส่วนเป็นต้นเหตุให้เกิดการรัฐประหาร และถูกตั้งคำถามหลังนายเอกชัยเข้าร่วมกับพรรคสามัญชนและได้รับเลือกเป็นรองหัวหน้าพรรค – โดยแถลงการณ์ ได้ระบุว่า “ผมต้องขอโทษด้วยที่ทำให้พรรคสามัญชนถูกตั้งคำถามจากเพื่อนพ้องในสังคม แต่ผมถือว่าเป็นการดีที่เราจะต้องถูกตรวจสอบทั้งในอุดมคติและการปฏิบัติว่าเราได้ทำอะไรๆ สอดคล้องกันหรือไม่ อย่างไร และพรรคสามัญชนของเราจะออกแบบ จัดวางกลไกกระบวนการพิจารณา การกำหนดคุณสมบัติของสมาชิกและผู้มาทำหน้าที่ให้พรรคอันเป็นการพัฒนาระบบพรรคให้สังคมรับรู้ต่อไป ผมเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวระดับจังหวัดสงขลาจริงในนามของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจังหวัดสงขลา (1) ที่ตั้งเวทีหลังสถานีรถไฟหาดใหญ่ในปี 2548-2549 หลังจากนั้นกลับไปอยู่บ้านที่อำเภอรัตภูมิ สงขลา จึงไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวอื่น สำหรับกรณีของ กปปส. ผมเป็นมวลชนคนหนึ่งที่ออกมาเดินใช้สิทธิในการชุมนุม ไม่ได้เป็นแกนนำใดๆ ไม่เคยไปชุมนุมหารือ วิเคราะห์หรือวางแผนสถานการณ์ใดๆ กับแกนนำ กปปส. ทั้งในภาคใต้และส่วนกลาง แต่อาจจะมีการกระทำหนึ่งที่อาจถูกนับว่าเป็นแกนนำได้ตรงที่ผมและเพื่อนพี่น้องในชุมชนอำเภอรัตภูมิได้จัดตั้งเวทีปราศรัยขึ้นที่สี่แยกคูหา วัตถุประสงค์ก็เพื่อปราศรัยและถ่ายทอดสัญญาณการชุมนุมจากส่วนกลาง ช่วงระหว่างนี้การชุมนุมจากส่วนกลางยังเป็นการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอยู่ แต่หลังจากการชุมนุมจากส่วนกลางขยายตัวไปมากกว่าการต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เวทีก็ได้ถูกยึดและเคลื่อนย้ายมาที่หน้าอำเภอรัตภูมิโดยพรรคการเมืองหนึ่ง ผมก็ได้ถอยออกมา เนื่องจากผมไม่เคยเชื่อมั่นหรือไว้ใจใดๆ ต่อพรรคนั้นมาเนิ่นนานแล้วจากหลายกรณีที่พรรคนี้ผลักดันการพัฒนาในภาคใต้ที่ผมและเพื่อนๆ ต่อสู้คัดค้านร่วมกับพี่น้องประชาชน ผมขอโทษต่อพี่น้องที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการเคลื่อนไหวครั้งนั้นนำพาไปสู่การรัฐประหาร ผมไม่เคยหยุดเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิของพี่น้องในชุมชนที่ถูกละเมิดจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ภายใต้โครงสร้างการเมืองที่คนชายขอบตกเป็นผู้ถูกกระทำมาโดยตลอด กรณีพันธมิตรสงขลาได้มีการแถลงผ่านสื่อในการไม่เห็นด้วยกับ คมช.ที่ยึดอำนาจซึ่งเป็นการทำลายพลังประชาชนในช่วงหลังการยึดอำนาจของ […]