กำลังจะลาออก แต่ต้องรับบทสัมภาษณ์งาน ส่งซิกให้เด็กหนีไป จะโดนฟ้องไหม?

Advertisement (10 กันยายน 2565) กรณีหนุ่มรายหนึ่งตั้งกระทู้สอบถามผ่านเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ว่า หากตนเองกำลังจะลาออกจากงาน แต่ได้รับหน้าที่เป็นผู้สัมภาษณ์งานคนที่จะเข้ามาใหม่ มาทำงานตำแหน่งแทนตัวเอง สงสัยว่าสามารถส่งซิกแนล หรือสัญญาณ เพื่อบอกคนที่มาสัมภาษณ์งานใหม่รู้ได้หรือไม่ ให้หนีไป หากเหตุผลหลัก ๆ ที่ลาออกคือ รับไม่ได้กับตัวเนื้องาน, บรรยากาศ, คนที่ติดต่อด้วย หรือ หัวหน้า คุณก็เลยรู้ว่าคนใหม่ที่เข้ามาจะเจอะไรบ้าง Advertisement โดยเจ้าของกระทู้ติดใจว่า เราสามารถทำได้หรือไม่ ทั้งวิธีการบอกตรง ๆ เพราะเห็นแก่เพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ในกรณีที่ตนเองเป็นคนสัมภาษณ์คนเดียว หรือบอกอ้อม ๆ หากมีคนอื่นอยู่ในห้องสัมภาษณ์ด้วย เช่น ไม่พูดตรง ๆ แต่พยายามพูดอธิบายส่วนที่น่าปวดหัว งาน เพื่อนร่วมงาน หรือ หัวหน้าที่ต้องเจอ หรือไม่บอกเลย เพราะผู้สมัครอาจจะรับสิ่งที่เรารับไม่ได้ก็ได้ และหากบอกไปแล้วถูกจับได้จะถูกบริษัทฟ้องร้องหรือไม่ โซเชียลยันไม่ควรพูด แต่หากอยากช่วยแนะควรบอกอ้อม ๆ ด้วยวิธีนี้… ทั้งนี้ หลังกระทู้ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาตอบคำถามจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าความคิดของเจ้าของกระทู้ดูไม่เป็นผู้ใหญ่ ควรพูดให้กลาง ๆ เพราะถ้าพูดมากเกินไปจะดูเหมือนนินทาบริษัทให้คนภายนอกฟัง อาจทำให้ผู้สมัครเกิดอคติและมองบริษัทของเราในแง่ลบตั้งแต่ยังไม่ได้ทำงาน ควรบอกแค่เนื้องาน […]

ปธน.ศรีลังกายอมแล้ว ประกาศเตรียมลาออก หลังม็อบบุกทำเนียบ

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า ประธานาธิบดี โกตาบายา ราชปักษา แห่งประเทศศรีลังกา ประกาศจะลาออกจากตำแหน่งแล้ว หลังจากเกิดเหตุประท้วงรุนแรงที่กรุงโคลอมโบเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (9 ก.ค. 2565) จนมีผู้ชุมนุมหลายร้อยคนบุกรุกเข้าไปภายในทำเนียบประธานาธิบดี และบ้านพักนายกรัฐมนตรีถูกจุดไฟเผา แต่ทั้งสองคนไม่ได้อยู่ในอาคารทั้งสองแต่อย่างใด เมื่อวันเสาร์ ประชาชนนับแสนคนออกมาชุมนุมประท้วงในกรุงโคลอมโบ เพื่อเรียกร้องอีกครั้งให้นายราชปักษาลาออก หลังจากเกิดการประท้วงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา จากความไม่พอใจในสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญวิกฤติครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปี ซึ่งผู้ชุมนุมกล่าวหาว่าเป็นผลจากการบริหารที่ผิดพลาดของนายราชปักษา นายราชปักษาระบุว่า เขาจะลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 13 ก.ค. ขณะที่นาย รานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมตรี ประกาศก่อนหน้านี้ว่าเขายินดีจะก้าวลงจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ขณะที่นาย มหินดา อาเบวาร์ดานา กล่าวว่า ประธานาธิบดีตัดสินใจลาออกเพื่อรับรองว่าจะมีการส่งผ่านอำนาจอย่างสงบ จึงขอให้สังคมเคารพกฎหมายและรักษาความสงบด้วย ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมจำนวนมหาศาลบุกไปยังทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อวันเสาร์ โดยหลายร้อยคนสามารถบุกเข้าไปภายในได้สำเร็จ ทำให้เกิดภาพผู้ประท้วงหลายร้อยคนอยู่เต็มห้องต่างๆ และตามทางเดิน บางคนกระโดดลงไปในสระว่ายน้ำ ขณะที่คนอื่นๆ นั่งนอนบนเตียงสี่เสาและโซฟาในทำเนียบ และรื้อคนตู้เสื้อผ้า แต่ตามปกติแล้ว นายราชปักษาจะอาศัยอยู่ที่ตึกแยกที่อยู่ติดกัน ภาพคล้ายกันเกิดขึ้นที่บ้านพักของนายกรัฐมนตรีด้วย ก่อนที่สำนักงานของนายวิกรมสิงเหจะประกาศในเวลาต่อมาว่า เขายินดีลาออก แต่ไม่นานหลังจากนั้นกลับมีภาพเผยแพร่บนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นว่าบ้านพักหลังนี้กำลังถูกเพลิงไหม้ อย่างไรก็ตาม […]

ฟางเส้นสุดท้ายขาดกัน! สาวแชร์ประสบการณ์สุดทน เจอวัฒนธรรมองค์กรไม่โอเคหลายอย่าง ล่าสุดเจอตามจิกทั้งที่ลาพักร้อนล่วงหน้าแล้ว ตัดสินใจลาออกทันที!

  ที่ทำงานที่สงบ มีความสุข ก็เหมือนสวรรค์อย่างหนึ่งของคนทำงาน แต่ถ้าเจอที่ทำงานแย่ต่อจิตใจ ใครก็ไม่อยากทน ล่าสุด (7 พ.ค.61) สมาชิกหมายเลข 2717220 ก็ขอแชร์ประสบการณ์แย่ๆ ของตนเองบ้าง โดยระบุว่า… เรามีแพลนไปต่างประเทศกับครอบครัวเลยจัดการลาหยุดล่วงหน้าตามกฏบริษัทและเคลียร์งานทุกอย่างก่อนเดินทางพร้อมแจ้งหัวหน้าและคนที่เกี่ยวข้องอย่างชัดเจนแล้วนะคะ  แต่คืนก่อนวันเดินทางโดนที่ทำงานโทรตามพูดอ้อมๆโน้มน้าวให้แคนเซิลทริปอยากให้กลับมาช่วยงานด่วนที่บริษัท เราปฏิเสธแล้วบอกว่าจะขึ้นเครื่องพรุ้งนี้เช้า ในระหว่างนั้นก็มีไลน์จากที่ทำงานเข้ามาเรื่อยๆแต่เราปิดแจ้งเตือนทุกอย่างเพราะถือว่ามาพักผ่อน กลับมาถึงไทยเปิดไลน์ก็เห็นข้อความตามจิกแซะรัวๆ พอไปทำงานก็เหมือนโดนสายตาทิ่มแทงส่งมา เจ้านายเรียกเข้าคุยแล้วบอกว่าเราต้องรู้จักมีน้ำใจและสปิริตมากกว่านี้ โอ้โห!!!หน้าชามากกลายเป็นความผิดเราซะงั้น  บริษัทนี้เป็นที่แรกที่เริ่มทำแถมอยู่ใกล้บ้านใจก็อยากอยู่ไปนานๆนะคะ แต่รู้สึกว่าวัฒนธรรมองค์กรไม่ถูกจริตเลย เช่น เพื่อนร่วมงานหยิบเครื่องเขียนไปใช้โดยไม่ขอ แม่บ้านมาวุ่นวายกับของบนโต๊ะทำงาน ชอบไลน์มาทวงงานในวันหยุด หัวหน้าบังคับให้ไปสังสรรค์กะทันหันทั้งๆที่นัดเทรนเนอร์ไว้แล้ว ที่ผ่านมาก็พยายามยืดหยุ่นตลอดจนมารอบนี้ที่ทนทำงานกับองค์กรที่ไม่เคารพความเป็นส่วนตัวไม่ไหวจริงๆ สุดท้ายตัดสินใจยื่นใบลาออกก็ไม่วายโดนหัวหน้าถามซอกแซกกับเรื่องหางานใหม่พร้อมตบท้ายด้วยการสั่งสอนผสมแซะเรื่องความอดทนไปอีก หน้าก็ยิ้มรับคำค่ะๆแต่ในใจแอบคิดว่าเผือกกับชีวิตตรูจริ๊งงงง ตอนนี้กำลังพิจารณางานใหม่ที่เงินเดือนสูงกว่าแต่เงื่อนไขต้องไปอยู่เวียดนามหกเดือนเลยแอบกังวลเบาๆไม่รู้ว่าจะดีหรือแย่กว่าเดิม แต่ก็คิดซะว่าไปเก็บประสบการณ์การทำงานกับคนชาติอื่นบ้างล่ะกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ     กว่า 122 ความคิดเห็นต่างแสดงความคิดเห็นสนับสนุนเจ้าของกระทู้ที่ลาออกมาได้ เพราะวัฒนธรรมองค์กรเท่าที่เจ้าของกระทู้เล่ามานั้นแย่จริงๆ สะท้อนถึงองค์กรที่มีการทำงานไม่เป็นระบบจนต้องมีภาระให้มาติดตามกันอีกทั้งที่ลาและเคลียร์งานกันล่วงหน้าแล้ว บางคนก็แนะนำเพิ่มเติมว่า หากใครที่โดนฝากให้ตามงานช่วงวันหยุดหรือเวลาพักผ่อน อย่าริอ่านทำเด็ดขาด เพราะเขาจะฝากคุณไปเรื่อยๆ โดยเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร หรือปฏิเสธใครไม่เป็นอยู่แล้ว บางคนถึงกับเหมารวมเลยว่าระบบที่ทำงานในไทยส่วนมากก็เป็นเช่นนี้ ถ้าเป็นของเมืองนอกหรือบริษัทที่เปิดโดยคนต่างชาติ มักจะไม่มีปัญหาเรื่องเวลาและระบบงานเลย อ่านเพิ่มเติมที่ : https://pantip.com/topic/37642425

1 2
error: