“สนธิญา” ยื่นศาล รธน.เพิ่ม ขอให้วินิจฉัย “ดิจิทัลวอลเล็ต”

Advertisement 9 ธ.ค.67 ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิญา สวัสดี นำเอกสารเพิ่มเติมเข้ายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญจากครั้งที่เคยยื่นไว้เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. กรณีขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ที่รัฐบาลดำเนินโครงการแจกเงิน 10,000 บาท แตกต่างจากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่พรรคเพื่อไทยได้หาเสียงในการเลือกตั้งเมื่อปี 2566 Advertisement โดยมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์การแจกและกลุ่มบุคคล ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.ว่าด้วยการการเลือกตั้ง ส.ส.2561 และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีหรือไม่ และหากศาลรับเรื่องไว้พิจารณาวินิจฉัย ขอให้สั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ยุติการปฏิบัติหน้าที่ไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย นายสนธิญากล่าวว่า เอกสารเพิ่มเติมที่นำมายื่นต่อศาลในวันนี้เป็นหลักฐานที่ทำให้ศาลเห็นว่านโยบายดิจิทัล 10,000 บาท รัฐบาลไม่ได้ทำแม้แต่ประการเดียว ที่ผ่านมาทำในรูปแบบการแจกเงินโดยใช้รูปแบบเดียวกับรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ซึ่งขณะนั้นการแจกเงินทำเพราะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศฟื้นกลับคืนขึ้นมาแล้ว นักท่องเที่ยว 31 ล้านคน ตนจึงไม่เห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินในโครงการดังกล่าว ที่สำคัญกลุ่มคนตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไปที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศว่าจะได้รับเงินตามนโยบายดิจิทัล 10,000 บาทนั้น วันนี้คนกลุ่มนี้ผิดหวังไปแล้ว […]

โพลเผย81% ปชช.ควรมีสิทธิร้องศาล รธน.โดยตรงปม “ล้มล้างปกครอง”

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ ของประชาชน เรื่อง “ยุบพรรค ตัดสิทธิทางการเมือง” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 25-26 พฤศจิกายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง จากการสำรวจเมื่อถามถึงการมีสิทธิของประชาชนในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง หากพบบุคคลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 81.37 ระบุว่า ประชาชนควรจะมีสิทธิในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง รองลงมา ร้อยละ 16.42 ระบุว่า ประชาชนไม่ควรจะมีสิทธิในการยื่น คำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง และร้อยละ 2.21 ระบุว่า ไม่ทราบ/ไม่ตอบ/ไม่สนใจ สำหรับการยุบพรรคการเมืองที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 61.30 ระบุว่า ควรมีการลงโทษด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การยุบพรรค รองลงมา ร้อยละ 36.10 […]

มติเอกฉันท์ 7:2 ทักษิณรอดทุกประเด็น ศาล รธน.ไม่รับคำร้อง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 พฤศจิกายน ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีการประชุมประจำสัปดาห์ ซึ่งจะมีการหยิบยกคำร้องของ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัย โดยศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้มีหนังสือถึงอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร และรวบรวมพยานหลักฐานได้เพียงใด โดยให้จัดส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ซึ่งอัยการสูงสุดได้รับหนังสือเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม ต่อมาเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน และวันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด ลับ ด่วนที่สุด ส่งเอกสารตามหนังสือเรียกเอกสาร หลักฐาน หรือบุคคลของศาลรัฐธรรมนูญ ตามลำดับ สำหรับคำร้องที่นายธีรยุทธยื่นมี 6 ประเด็น ประกอบด้วย ประเด็นที่ 1 นายทักษิณสั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรม […]

อสส. ไม่รับดำเนินการคดี “ทักษิณ-เพื่อไทย” ชี้ ไม่เข้าหลักเกณฑ์ล้มล้างการปกครอง

19 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด ได้ลงนามตอบถ้อยคำต่อศาลรัฐธรรมนูญในประเด็นที่ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร (ผู้ร้อง) ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ โดยศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือแจ้งอัยการสูงสุดเพื่อขอทราบว่าได้ดำเนินการตามคำร้องของผู้ร้องไปแล้วอย่างไร โดยก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ที่อัยการสูงสุดส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญมีข้อมูลในการสอบถ้อยคำ ทั้งทางฝั่งผู้ร้องและผู้ถูกร้องไปแล้ว โดยไม่ได้มีการสอบถ้อยคำ นายทักษิณ ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 อัยการสูงสุดยังมีความเห็นแจ้งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง อัยการสูงสุดจึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ ซึ่งเป็นไปตามความเห็นของคณะทำงานที่เสนอมายังอัยการสูงสุดก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม แม้อัยการสูงสุดจะมีมติไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ แต่ศาลรัฐธรรมนูญจะยังมีอำนาจพิจารณาคดีต่อไปได้.   ข่าวจาก : ไทยรัฐออนไลน์

ศาล รธน.มติเอกฉันท์ ไม่รับคำร้อง “วัฒนา” ปมทุจริตคลองด่าน

30 ตุลาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณี นายวัฒนา อัศวเหม (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 213 กล่าวอ้างว่าการกระทำขององค์คณะผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิตในการพิจารณาและพิพากษาคดีอาญา คดีหมายเลขดำที่ 654/2547 คดีหมายเลขแดงที่ 3501/2552 และการกระทำขององค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาในการพิจารณาและพิพากษาคดีอาญา คำพิพากษาที่ 8068/2560 ในคดีเกี่ยวกับการทุจริตก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 28 วรรคสามและมาตรา 188 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 391 (5) และมาตรา 185 วรรคหนึ่ง หรือไม่ ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำร้องและเอกสารประกอบคำร้อง ผู้ร้องกล่าวอ้างว่า การกระทำขององค์คณะผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิตและองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาในการพิจารณาและพิพากษาคดีอาญาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 3 มาตรา 28 วรรคสาม และมาตรา 188 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39 (4) และมาตรา […]

ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่รับคำร้อง ทักษิณ ครอบงำ

22 ตุลาคม สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความอิสระ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายทักษิณ ชินวัตร (ผู้ถูกร้องที่ 1) และพรรคเพื่อไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 6 ประเด็น ดังนี้ ประเด็นที่ 1 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลผ่านกระทรวงยุติธรรรม กรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ให้เอื้อประโยชน์แก่ผู้ถูกร้องที่ 1 ให้พักอาศัยอยู่ห้องพัก ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ในระหว่างรับโทษจำคุก เพื่อให้ไม่ต้องรับโทษในเรือนจำ ทั้งที่ไม่พบว่ามีอาการป่วยขั้นวิกฤต ประเด็นที่ 2 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการรัฐบาลให้เอื้อประโยชน์แก่อดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชาให้มีการเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลเพื่อแบ่งผลประโยชน์ก๊าซธรรมชาติและทรัพยากรใต้ทะเลในเขตอธิปไตยทางทะเลของประเทศไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา ประเด็นที่ 3 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการให้ผู้ถูกร้องที่ 2 ร่วมมือเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญกับพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคที่ก่อตั้งโดยกลุ่มการเมืองของพรรคก้าวไกลเดิมที่ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประเด็นที่ 4 ผู้ถูกร้องที่ 1 สั่งการแทนผู้ถูกร้องที่ […]

ด่วน! นายทะเบียนชี้คดียุบ “เพื่อไทย” มีมูล ปม“ทักษิณ”ครอบงำ

วันนี้ (18 ต.ค.67) มีรายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้พิจารณา 6 คำร้องที่มีผู้ร้องขอให้ กกต.พิจารณาสั่งยุบพรรคเพื่อไทย และ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเดิม จากเหตุ นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการครอบงำ ชี้นำ และ 6 พรรคการเมืองยินยอมให้ นายทักษิณ ครอบงำ ชี้นำ โดยเห็นว่า คำร้องมีมูล และให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการสอบสวนและมีความเห็นเสนอ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่สามารถขอขยายได้อีกครั้งละไม่เกิน 30 วัน จนกว่าจะแล้วเสร็จ กรณีดังกล่าวมีผู้ร้องที่ถูกระบุว่า เป็นบุคคลนิรนาม น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ นายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 เป็นผู้ยื่นคำร้อง อ้างถึงพฤติการณ์ของ นายทักษิณ ทั้งการที่แกนนำ […]

ที่ประชุมตุลาการชี้ “ไม่เสื่อมเสีย” ปม “อุดม” พูดติดตลกยุบพรรคก้าวไกล

วันนี้ (11ต.ค.67) เว็บไซต์สภาผู้แทนราษฎรได้เผยแพร่เอกสารประกอบการประชุมสำหรับวาระในวันที่ 17ต.ค.67 ในหัวข้อ เรื่องที่ประธานจะแจ้งต่อที่ประชุม วาระที่ 2.2 รับทราบเรื่อง ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎรในญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเกี่ยวกับการแสดงออกของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตุลาการบนเวทีสาธารณะ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยประชาชน จนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ เพื่อส่งข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎรให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาดำเนินการต่อไป สำหรับเอกสารประกอบดังกล่าวเป็นหนังสือราชการ ออกโดยสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ลงวันที่ 4 ตุลาคม ส่งถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างถึงหนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ 0014/8412 ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2567 มีรายละเอียดระบุว่า ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรส่งสรุปประเด็นและข้อเสนอแนะการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเกี่ยวกับการแสดงออกของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตุลาการบนเวทีสาธารณะ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยประชาชน จนนำไปสู่การตั้งคำถามต่อความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมและการปฏิบัติหน้าที่ขององค์กรอิสระ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญรับทราบ หากศาลรัฐธรรมนูญได้ปฏิบัติตามข้อสังเกตและข้อเสนอแนะประการได้โปรดแจ้งให้ทราบด้วยนั้น สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญขอเรียนว่า ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญรับทราบข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เห็นว่าการแสดงความคิดเห็นของ อุดม สิทธิวิรัชธรรม ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยในคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับข้อกฎหมายพรรคการเมืองในการสัมมนาทางวิชาการของศาลรัฐธรรมนูญ มิได้เป็นการแสดงความคิดเห็นอันมีลักษณะเป็นการเสียดสีหรือประชดประชันพรรคการเมืองใด ที่จะส่งผลต่อความเป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติ ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการพิจารณาวินิจฉัยคดี ไม่กระทบกระเทือน หรือก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการปฏิบัติหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ     สำหรับกรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากมีการเผยแพร่เนื้อหาในคลิปวิดีโอ […]

“นิพิฏฐ์” ประชาธิปัตย์ ปกป้อง “ตุลาการศาล รธน.” มีอารมณ์ขันบ้าง

22 สิงหาคม 2567 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตส.ส.พัทลุง หลายสมัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแสดงความคิดเห็นกรณีเสียงวิจารณ์ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หลังพูดติดตลก ระหว่างการสัมมนาทางวิชาการถึงคดียุบพรรคก้าวไกล ตอนหนึ่งว่า พรรคประชาชนต้องขอบคุณตนเองที่ยุบพรรค ทำให้ได้เงินบริจาคถึง 20 ล้าน โดยระบุว่า หัดมีอารมณ์ขัน แล้ว “ยักไหล่” การพูดในวงสัมมนาของ ท่านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ “อุดม สิทธิวิรัชธรรม” จะเหมาะสมหรือไม่ ผมไม่วิจารณ์ แต่อ่านประวัติของท่านแล้ว ไม่เบาทีเดียว ที่ผมอยากจะกล่าว คือ ตุลาการเสียงข้างมาก ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก ด้วยถ้อยคำที่รุนแรง มิใช่ถ้อยคำวิจารณ์ทางวิชาการ แต่เป็นการ “ก่นด่า” เลยทีเดียว นี่แหละครับ ที่เขาวางบรรทัดฐานไว้ว่า ให้มีบทลงโทษฐาน “ละเมิดอำนาจศาล” สำหรับคนที่ไม่รู้ว่า “การแสดงความเห็น” หรือ การ “ด่า” ต่างกันอย่างไร ในทางอรรถคดี ชีวิตผม ถูกตั้งข้อหาละเมิดอำนาจศาลมาแล้ว 2 ครั้ง ทั้ง 2 ครั้ง ท่านอธิบดีผู้พิพากษาท่านได้เข้ามาดูสำนวนเอง […]

เปิดใจ “วิษณุ”คัมแบ็คทำเนียบฯ รับตำแหน่งที่ปรึกษา สลค.

28 พ.ค. 2567 นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เปิดเผยกับ “เนชั่นทีวี” ถึงการพูดคุยกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เมื่อวันเสาร์ที่ 25 พ.ค.ที่บ้านพัก จนกระทั่งมีข่าวว่า นายกฯ เซ็นคำสั่งแต่งตั้ง เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่า ยอมรับว่าได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาสำนักเลขาฯ ครม.จริง โดยตำแหน่งนี้เป็นการพูดคุยกับ สำนักเลขาธิการ ครม. หลังจากตนพ้นตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ไว้นานแล้ว ซึ่งพอท่านนายกฯเศรษฐา ทราบข่าว ก็มาเรียนให้ตนทราบว่า จะมีการลงนามแต่งตั้งให้ เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการ ครม. “ก่อนหน้านี้ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการ ครม. ซึ่งเขาจะมีการปรับระบบ ระเบียบของเอกสาร งาน สลค. และ ครม. มาก่อน ว่าจะให้ผมมาเป็นที่ปรึกษา“ นายวิษณุ กล่าวว่า ตำแหน่งดังกล่าว ไม่ใช่ตำแหน่งข้าราชการทางการเมือง ไม่มีอัตราเงินเดือน หรือ ต้องแสดงบัญชีหนี้สินทรัพย์สินอะไร และก็ไม่เหมือนตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ แต่อย่างใด […]

1 2 3
error: