นายไพศาล พืชมงคล อีดตสมาชิกวุฒิสภาและกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ถึงกรณีธรรมกายล่าสุดว่า
หลังจากมีพระราชโองการโปรดเกล้าถอดถอนสมณศักดิ์ ธัมมชโยแล้วต่อไปนี้ ยังเหลือธุระ ของคณะสงฆ์ และรัฐบาลคือ
1 เรื่องการสึกหรือให้พ้นจากสมณเพศก็เป็นอำนาจ ของเจ้าคณะ ไม่ว่าเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอหรือเจ้าคณะจังหวัดหรือเจ้าคณะภาคหรือเจ้าคณะหนก็สามารถสึกได้ทั้งสิ้น
ต่างกับก่อนหน้านี้ ถ้าหากยังดำรงสมณศักดิ์อยู่ ผู้ที่จะสึกได้ก็มีเจ้าคณะหนกับเจ้าคณะภาคเท่านั้น
การสั่งและกำกับการให้สุด เป็นอำนาจหน้าที่โดยตรงของเจ้าคณะหนกลาง ที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรงและโดยเฉพาะ หรือในกรณีเจ้าพนักงานจับกุมธัมมชโยได้ก็มีอำนาจสึกหรือให้สละสมณเพศเสียได้
2 เรื่องเร่งด่วนมากอีกเรื่องหนึ่งคือ การแต่งตั้งเจ้าอาวาส เพราะตอนนี้ไม่มีเจ้าอาวาสมานานแล้ว มีแต่ผู้รักษาการเจ้าอาวาสซึ่งตั้งไว้ในต่างประเทศ จึงต้องรีบตั้งเจ้าอาวาสโดยเร็วที่สุดและอำนาจในการตั้งเจ้าอาวาสเป็นอำนาจของเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ก็ขออาราธนาพระเดชพระคุณรีบแต่งตั้งพระดีเป็นเจ้าอาวาสโดยเร็ว เพื่อให้เจ้าอาวาสได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารวัดหรือคณะมัคทายกวัดแล้วบริหารจัดการวัดให้เป็นไปตามกฎหมาย ขับไล่พวกอลัชชีผีเปรตออกไปจากวัดป้องกันไม่ให้ เหล่าพาลต่างๆเข้ามาก่อความวุ่นวายภายในวัด แล้วสำรวจบริหารจัดการทรัพย์สินของวัดให้เป็นไปตามกฎหมายและเจตนารมณ์ของสาธุชนทั้งหลายต่อไป ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสั่งการและกำกับในเรื่องนี้ ก็คือเจ้าคณะหนกลางอีกนั่นแหละ
3 การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาหรือจำเลยที่หนีหมายศาล ซึ่งที่ผ่านมาทำไม่ได้ เพราะมีการตั้งรัฐอิสระตั้งป้อมค่ายระดมมวลชนมาขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าพนักงานจนต้องมีคำสั่งตามมาตรา๔๔ มากว่า 20 วันแล้วก็ยังไม่สามารถบังคับการตามหมายของศาลได้ เป็นกรณีร้ายแรงและเป็นปัญหาความมั่นคงของประเทศชาติ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจที่จะต้องเร่งดำเนินการ ให้อำนาจอธิปไตยทั้งหลายของชาติสามารถดำเนินการได้ และเพื่อการนี้ใครที่รู้ตัวว่าเคยอุปถัมภ์ค้ำชูธัมมชโยก็ดีหรือเคยรับประโยชน์ใดๆก็ดีควรจะสำนึกตัวว่า ต้องทำอย่างไรแล้วรีบทำอย่างนั้นเสียอย่าให้เป็นอุปสรรคหรือขัดขวาง การบังคับตามหมายของศาลอีกเลย ขอให้เห็นแก่แผ่นดินเห็นแก่ราษฎรบ้างเกิด
ส่วนทางด้านของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งเป็นอดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ก็ได้ออกมากล่าว มหาเถรสมาคม (มส.) ควรเร่งนำกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ ข้อ 3. ในกรณีพระภิกษุรูปใด ประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกัน หรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ หรือไม่มีวัดเป็นที่อยู่หลักแหล่ง คณะปกครองสงฆ์มีอำนาจวินิจฉัยให้สละสมณเพศได้ มาดำเนินการสั่งให้พระธัมมชโยพ้นจากสมณเพศได้ในทันที
โดยนายไพบูลย์กล่าวว่า..
เชื่อว่าจะช่วยให้สถานการณ์การชุมนุมที่วัดธรรมกายจะคลี่คลายลงทันที เพราะศิษย์วัดธรรมกายจะหมดข้ออ้าง ที่ว่าพวกเขาปกป้องพระธัมมชโยเป็นการปกป้องพระภิกษุ ปกป้องพุทธศาสนา กลายเป็นว่าสถานะของธัมมชโยเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ถูกคณะสงฆ์ขับออกสมณเพศไปแล้ว ไม่ใช่พระสงฆ์อีกต่อไป หากยังมีบุคคลยังดื้อดึงจะชุมนุมปกป้องคนหนีคดี โดยฝ่าฝืนกฎหมาย มาตรา 44 ต่อไป จะไม่ได้รับความเห็นใจใดๆจากสังคมชาวพุทธอีก และคราวนี้จะพากันมีคดีติดตัวกันมากมาย จึงเชื่อตอนนี้เข้าสู่บทสุดท้ายของม๊อบผิดกฎหมายที่วัดธรรมกาย ความเป็นนิติรัฐก็จะกลับคืนมา
ส่วนนายออมสิน ชีวะพฤกษ์ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวเช่นกันว่า ขั้นตอนการดำเนินการหลังจากนี้ต้องแล้วแต่ พศ. เพราะพระธัมมชโยยังเป็ฯพระภิกษุอยู่ ไม่ได้ถูกจับสึก เนื่องจากยังหาตัวไม่เจอ โดยการสึกพระจะต้องนำตัวมาให้ได้ก่อนแล้วจึงจับสึก
ข่าวจาก : bangkokbiznews.com, zocialx.com, เฟซบุ๊กPaisal Puechmongkol
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ