ดื่มทุกวันแต่ไม่เคยรู้! น้ำแร่ 6 ยี่ห้อในท้องตลาด แต่ละยี่ห้อมีแร่ธาตุเท่าไหร่? ใครบ้างที่ห้ามดื่มน้ำแร่!





 

ว่ากันว่าน้ำแร่เป็นน้ำที่สะอาดที่สุด น่าไว้วางใจกว่าน้ำดื่มธรรมดาทั่วๆ ไป บางคนจึงยอมจ่ายแพงเพื่อดื่มน้ำที่ดีที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่า 6 ยี่ห้อในท้องตลาด "มีแร่ธาตุที่ต่างกัน" ไม่ควรดื่มมั่วเพื่อสุขภาพที่ดี Thaijobsgov จึงขอเผยข้อมูลที่หลายคนอาจไม่เคยรู้กันมาก่อน ในโอกาสต่อไปที่เลือกซื้อน้ำ จะได้เลือกกันอย่างถูกต้อง

 

 

Evian : เป็นยี่ห้อที่ดูแล้วปริมาณแร่ธาตุสูงที่สุด ที่เด่นคือ Bicabonate, Calcium และ Magnisium *ที่ช่วยปรับสมดุลและช่วยระบบในกระเพาะอาหาร และแคลเซียมเยอะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแคลเซียม

Aura : น้ำแร่สัญชาติไทย ที่ปริมาณแร่ธาตุต่างๆอยู่ในระดับกลางๆ จุดเด่นคือหาซื้อง่ายและราคาถูก

Acqua Panna : ยี่ห้อนี้เด่นที่ Sulphates *ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ บรรเทาอาการท้องผูก ส่วนราคาก็สูงพอสมควรทีเดียว

Purra : น้ำแร่สัญชาติไทยอีกเช่นกัน แต่ตัวนี้แอบมีปริมาณโซเดียมเยอะอยู่ทีเดียว ทิ้งห่างยี่ห้ออื่นลิบลิ่ว และมี Fluoride ที่สูงกว่าคนอื่นด้วย อาจต้องระวังนิดนึงถ้าจะดื่มแทนน้ำเปล่าทุกวัน

Volvic : เด่นที่ Chloride, Nitrate และ Potassium *ซึ่งคลอไรด์กระตุ้นการทำงานของลำไส้ และช่วยบรรเทาอาหารท้องผูก

Fiji : มี Silica สูงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น สร้างความยืดหยุ่นของผิว รสชาติหอมอร่อยดีด้วยล่ะ

Editor’s Choice คราวนี้ไม่มีครับผม เพราะว่าน้ำแร่แต่ละยี่ห้อก็เหมาะกับคนที่แตกต่างกันไป บางคนก็เหมาะกับยี่ห้อนี้ แต่บางคนก็กินมากไม่ได้ เพราะงั้นจะเลือกดื่มยี่ห้อไหน ก็ต้องพิจารณาปริมาณแร่ธาตุให้เหมาะกับตัวเองละกันนะ

ปล. คะแนนที่ให้นั้น พิจารณาจากความคุ้มค่าของราคากับปริมาณแร่ธาตุเป็นหลักครับ เพราะราคามันต่างกันเยอะอ่ะ 555

วิธีดื่มน้ำแร่ ควรทำอย่างไร?

วิธีดื่มน้ำแร่แบ่งได้ 2 วิธี คือ

1. การดื่มน้ำแร่ปริมาณมากในระยะเวลาสั้นๆ (Water loading)คือ การดื่มน้ำปริมาณ 1 ลิตร ภายใน 30 นาที ขณะท้องว่าง ซึ่งการดื่มน้ำแร่วิธีนี้จะใช้กับน้ำแร่ชนิดที่หวังผล เช่น เพื่อขับนิ่วออกจากร่างกาย วิธีนี้ไม่ควรดื่มก่อนนอน เนื่องจากจะทำให้ต้องลุกขึ้นมาเข้าห้องน้ำในช่วงกลางคืน

2. การดื่มแบบทยอยในปริมาณไม่สูง (Subdivided doses)คือ การดื่มน้ำแร่ปริมาณ 500 มิลลิลิตร และ ตามด้วยน้ำแร่ 10 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม โดยจิบน้ำครั้งละน้อยขณะอ่อนเพลีย หรือขณะเดิน หรือพร้อมมื้ออาหาร

สำหรับนักกีฬา ควรดื่มน้ำแร่ที่มีปริมาณเกลือแร่น้อยถึงปานกลาง ตลอด 2 ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน โดยดื่ม 100-150 มิลลิลิตร ทุก 15-20 นาที และดื่ม 400-500 มิลลิลิตร 15 นาทีสุดท้ายของชั่วโมงที่ 2 หลังการอบอุ่นร่างกาย ระหว่างการแข่งขัน ควรดื่ม 200-250 มิลลิลิตร ทุก 15-20 นาที โดยปริมาณของเหลวที่ดื่มเข้าร่างกายหลังแข่งขันหรือเล่นกีฬานั้น ควรมีปริมาณร้อยละ 150 ของน้ำหนักตัว ซึ่งปริมาณของเหลวที่บริโภคโดยทั่วไป คือ 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน

ใครไม่ควรดื่มน้ำแร่?
ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ประโยชน์จากน้ำแร่ หากดื่มไปโดยไม่ระวังอาจเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ แล้วใครกันที่ไม่ควรดื่มน้ำแร่?

 

 

รู้อย่างนี้แล้ว คราวต่อไปที่จะเลือกซื้อ ยังไงก็เลือกกันให้ดี อย่าคิดว่าหยิบๆ อะไรก็ได้นะจ๊ะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : pharmacy.mahidol.ac.th , araideewa.com

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: