ในแต่ละวันคุณกินสมุนไพรหรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของสมุนไพรร่วมกับยาแผนปัจจุบันบ้างหรือไม่???
หากทำเช่นนั้นอาจต้องระวัง “ยาตีกัน” กล่าวคือ สมุนไพรมีผลต่อการออกฤทธิ์ของยาแผนปัจจุบันโดยทำให้ออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นหรือลดลง ซึ่งจะค่อยๆแสดงอาการโดยที่เราไม่ทันสังเกต ส่งผลให้เกิดอันตรายและเสียชิวิตได้
[ads]
รองศาสตราจารย์ ยุวดี วงษ์กระจ่าง และเภสัชกรวสุ ศุภรัตนสิทธิ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แนะนำสมุนไพรและยาแผนปัจจุบันที่ไม่ควรกินพร้อมกัน
สมุนไพร |
ยาแผนปัจจุบัน |
ผลกระทบต่อการรักษา |
แปะก๊วย |
แอสไพริน (ยาแก้ปวดลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด) วาร์ฟาริน (ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) |
มีผลทำให้เลือดออกง่ายและแข็งตัวช้า ลง |
กระเทียม ตังกุย คาโมมายล์ เก๋ากี้ |
วาร์ฟาริน (ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) Advertisement
|
มีโอกาสทำให้เลือดไม่หยุดไหล |
ชา ขาเขียว |
วาร์ฟาริน (ยาต้านการแข็งตัวของเลือด) กรดโฟลิก (ยาบำรุงเลือด) ซิมวาสแตติน (ยาลดไขมันในเลือด) |
วิตามินเคในชาเขียวจะต้านการออกฤทธิ์ยาชา ชาเขียวยับยั้งการดูดซึมของกรดโฟลิก เพิ่มอาการข้างเคียงของตัวยา เช่น เกิดพิษต่อตับและทำลายเซลล์ |
ชะเอม |
เพรดนิโซโลน (ยาต้านการอักเสบ กลุ่มสเตียรอยด์) |
เพิ่มอาการข้างเคียงของตัวยา เช่น กดภูมิคุ้มกันของร่างกาย เกิดแผลในกระเพาะอาหาร และกระดูกพรุน |
ลองตรวจสอบทุกครั้ง………….
และอย่าลืมปรึกษาเภสัชกรทุกครั้งก่อนกินยาน่ะค่ะ
[ads=center]
Illustration by:
[online] www.thaihealth.or.th
[online] www.tnews.co.th
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ