หลังเกิดกรณีสื่อมวลชนไทย ทั้งเว็บไซด์ข่าว เว็บเพจหลายสำนัก ทีวี หนังสือพิมพ์ ได้โหมประโคมข่าวตำรวจไทยสร้างชื่อกระฉ่อนหลังรวบตัวหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าอันดับ 1 ของญี่ปุ่นที่ชื่อนายชิเคฮารุ ชิราอิ อายุ 74 ปี ที่ก่อคดีแล้วหนีมากบดานในประเทศไทย ที่ ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี ระหว่างเดินซื้อของกิน จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ล่าสุดคนไทยในญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อในเฟซบุ้คว่าธนากร ใจสุขสกุลดี
ซึ่งประกอบอาชีพล่ามและไกด์ท่องเที่ยว และเคยให้ข้อมูลข้อเท็จจริงคดีดังๆที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นหลายกรณีได้โพสต์ข้อความและภาพ ชี้แจงข่าวที่เกิดขึ้นว่าเป็นรายการโอละพ่อ เพราะความจริงนายชิเคฮารุที่ถูกจับไม่ได้เป็นระดับหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าในแดนปลาดิบแต่อย่างใด หากแต่เป็นแค่สมาชิกระดับธรรมดาเท่านั้น แถมหัวหน้าแก๊งค์ยากูซ่าตัวจริงระดับบิ๊กเบิ้มของญี่ปุ่นก็ยังใช้ชีวิตในแดนอาทิตย์อุทัยตามปกติไม่ได้ถูกจับตามข่าวของสื่อไทยแต่อย่างใด งานนี้เลยกลายเป็นเรื่องหน้าแหกแบบหมอไม่รับเย็บของหลายสื่อกันเป็นแถวที่เสนอข่าวแบบไม่ดูตาม้าตาเรือเช็คข้อมูลให้ดีก่อน โดยธนากรได้ให้ข้อมูลระบุว่า
ผมขออนุญาตโพสต์ขัดแย้งกับสื่อมวลชนของไทยนะครับว่า นาย Shirai Shigeharu วัย 74 ปี สมาชิกแก๊งยากูซ่าที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยจับตัวได้ที่จังหวัดลพบุรีนั้น แกไม่ใช่หัวหน้าแก๊งหรือไม่ได้เป็นแม้กระทั่งหัวหน้าสาขาของแก๊งยากูซ่าชื่อดัง ยามากุจิ คุมิ แต่อย่างใดนะครับ ความจริงแล้วแกเป็นแค่สมาชิกธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเองแหละ
เมื่อสักครู่ผมได้โทรศัพท์ไปสอบถามกับเพื่อนทนายความชาวญี่ปุ่นที่เมืองนาโกย่าแล้วล่ะครับ เพื่อนชาวญี่ปุ่นยืนยันมาแล้วแบบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มว่า ตาลุงคนนี้เป็นแค่สมาชิกแก๊งยากูซ่าระดับปลายแถวคนหนึ่งเท่านั้น หรือถ้าจะเรียกให้ถูกต้องจริงๆแล้ว แกอาจจะเป็นแค่ “ จิมปิระ” หรือสมาชิกระดับล่างของกลุ่มยากูซ่าแค่นั้นเองนะครับ ข่าวภาษาญี่ปุ่นหลายๆสำนักข่าวก็รายงานว่า แกเป็นแค่อดีตสมาชิกแก๊งยากูซ่าเท่านั้น ไม่ใช่ระดับหัวหน้าแต่อย่างใด และถึงตอนนี้ลุงแกยังให้การปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหาว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด คงต้องรอผลการสอบสวนของตำรวจญี่ปุ่นต่อไป
สื่อท้องถิ่นของญี่ปุ่นจากจังหวัดมิเอะรายงานว่า ในเดือนกรกฎาคม ปี 2003 ตาลุงกับพรรคพวกแกก็คงจะแค่ได้รับคำสั่งมาจากหัวหน้าใหญ่คนใดคนหนึ่งที่เราไม่มีทางรู้หรอกว่าเป็นใครและชื่ออะไร ให้จัดการสังหารหัวหน้าแก๊งรุ่นที่สิบของแก๊งโคโดไค ( 弘道会 ) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ แก๊ง Isekamiya Ikka ซึ่งถือเป็นแก๊งย่อยของแก๊งยักษ์ใหญ่หมายเลขหนึ่งของญี่ปุ่น ซึ่งหัวหน้าแก๊งในตอนนั้นก็คือนาย Otobe Kazuhiko อายุ 42 ปีในขณะนั้น ซึ่งมีความขัดแย้งทางด้านผลประโยชน์กับแก๊งใหญ่จากเมืองโคเบ แกจึงโดนสั่งตายในที่สุด
ข่าวบอกว่า คุณลุงชิไร ชิเกฮารุ น่าจะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวนหนึ่งและนอกจากนั้นทางแก๊งจะเตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ให้ล่วงหน้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตั๋วเครื่องบินและที่พักอาศัยในต่างประเทศ ส่วนใหญ่แล้วแก๊งยากูซ่าจะมีสมาชิกของแก๊งทำธุรกิจและอาศัยอยู่ในประเทศนั้นๆอยู่แล้ว ประเทศที่พวกเขานิยมส่งลูกน้องที่เป็นอาชญากรไปหลบภัยมากที่สุดก็คือ ประเทศไทยกับฟิลิปปินส์ครับ ถ้าท่านไม่เชื่อไปถามตำรวจญี่ปุ่นดูได้เลย แถวๆธนิยะ
พัฒพงธ์ สีลม มีธุรกิจของพวกเขาเยอะแยะมากมาย
ปี 2005 แกได้หลบหนีคดีอาญาออกนอกประเทศและเดินทางไปยังประเทศไทยตามแผน จนถึงขณะนี้เจ้าตัวยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาของตำรวจญี่ปุ่นนะครับ ผมก็ไม่ทราบว่าทางกรมตำรวจของไทยเรา สอบสวนแกเป็นภาษาญี่ปุ่นหรือภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยก็ไม่ทราบ แต่ขอยืนยัน 100%ว่า แกไม่ใช่หัวหน้าแก๊งยามากุจิอย่างแน่นอนครับ หัวหน้าแก๊งห่าอะไรจะตกอับขนาดนั้น พาสปอร์ตก็หมดอายุแล้วล่ะ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไทยยังไม่รู้แม้กระทั่งว่าแกอายุเท่าไหร่กันแน่
ท่านคิดว่าหัวหน้าแก๊งยากูซ่าจะลดตัวเองลงไปก่อคดีแบบนั้นเหรอครับ พวกเขาคือนักธุรกิจแสนล้าน มีลูกน้องพร้อมที่จะทำงานและตายแทนอยู่แล้วมากมาย และกฏของแก๊งยากูซ่าก็คือ หัวหน้าแก๊งจะไม่จับปืนหรือลดตัวลงไปฆ่าคนด้วยตัวเองหรอกนะครับ เขาใช้วิธี สั่งตายจากสำนักงานใหญ่ซึ่งเป็นคฤหาสน์หรูนะครับท่าน ขอบอกกก !!
สื่อมวลชนของไทยประโคมข่าวว่า หัวหน้าแก๊งหมายเลขหนึ่งโดนจับ ผมคิดว่าป่านนี้ท่านคุณพ่อ Shinoda Kenichi เจ้าพ่อใหญ่ตัวจริงแกคงจะนั่งดูทีวีไป จิบไวน์ขวดละแสนบาทไป หัวเราะหนักมากไปด้วยอยู่ล่ะมั้งนะ 555 หมายเหตุ สองภาพสุดท้ายคือ โคตรเจ้าพ่อหัวหน้าแก๊งยากูซ่าหมายเลขหนึ่งของญี่ปุ่นตัวจริงเสียงจริงนะครับนั่น
ธนากรยังโพสต์ข้อมูลเพิ่มเติมว่า……เห็นคนไทยสนใจกันจังไอ้เรื่องเจ้าพ่อ ยากูซ่าญี่ปุ่นนิ เลยเอามาให้อ่านกันอีกครั้งหนึ่งนะครับ ผมเห็นบางคนมาคอมเมนท์ว่า หัวหน้าแก๊งยากูซ่าเขาไม่มีทางให้ใครรู้หรอกว่าเขาเป็นใคร โถววพี่ครับ ด้วยความเคารพนะครับ หัวหน้าแก๊งออกทีวีแทบทุกอาทิตย์เลยนะครับ ขนาดวันปีใหม่เขายังเปิดคฤหาสน์สำนักงานใหญ่ให้นักข่าวเข้าไปทำข่าวได้เลย พวกนี้นักเลงจริงและใจถึงครับ ภาพของท่านเจ้าพ่อออกสื่อจนโด่งดังไปทั่วโลกแล้วล่ะครับ ภาพลักษณ์ของยากูซ่าญี่ปุ่นคือ เปิดเผยตัวตนออกสู่สังคมอย่างไม่มีการปิดบังแต่อย่างใดนะครับ
งานนี้สื่อไทยหน้าแหกกันเต็มๆ ครับ
ขอบคุณที่มาจาก : ธนากร ใจสุขสกุลดี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ