เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่ศาลาดนตรีสุริยเทพ ม.รังสิต พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) จัดการประชุมเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดตัวผู้ก่อตั้งพรรคและผู้สนับสนุนพรรคกว่า 500 คน อาทิ นายสุเทพ เทือกบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปด้านการเมือง นายธานี นายเชน เทือกสุบรรณ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล นายประสาร มฤคพิทักษ์ อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดี วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) ทั้งนี้ เริ่มงานด้วยการเปิดวีดิทัศน์เปิดตัวพรรค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้เข้าร่วมเปิดตัวพรรคจากทุกภาคมาร่วมงานครั้งแรกกว่า 500 คน โดยนายสุเทพเดินทางมาถึงเป็นคนแรกเพื่อมารอต้อนรับสมาชิก ซึ่งเริ่มงานด้วยการเปิดวีดิทัศน์เปิดตัวพรรค
จากนั้นนายอเนก กล่าวถึงความเป็นพรรคการเมืองของประชาชนที่แท้จริง และจุดกำเนิดของพรรคว่า ที่ผ่านมาเรามีพรรคการเมืองหลายแบบ คือ 1.พรรคของทหาร 2.พรรคของคนที่ทำธุรกิจการเมืองหรือพรรคทุนสามานย์ และ 3.พรรคของคนที่อยากทำงานการเมือง ซึ่งพรรค 2 แบบแรกเป็นพรรคที่สั่งการมาจากข้างบน มีนายทุน มีคนสั่งการซึ่งเราไม่อยากจะเห็นอีกแล้ว เราอยากจะเห็นพรรคที่ทุกคนมีส่วนก่อตั้ง มีโอกาส ทั้งนี้ เมื่อมีการตั้งพรรค ตนถูกทาบทาม หลายคนถามว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคหรือ ซึ่งตนอยากบอกว่าตนไม่ได้อยากมาเพื่อเป็นหัวหน้าพรรค มาเป็นรัฐมนตรีหรือเป็นอะไรทั้งสิ้น แต่ตนมาทำพรรคเพราะอยากเห็นบ้านเมืองมีโอกาส มีทางรอด การเมืองอย่างไรจะทำให้บ้านเมืองมีแสงสว่าง มีทางออก คนไทยเรารักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนไทยต้องการประชาธิปไตย แต่ต้องเป็นแบบธรรมาธิปไตย ไม่ฉ้อฉล อย่างไรก็ตาม ประชาชนได้แสดงออกหลายครั้ง หลายคนบาดเจ็บ เสียชีวิต เพื่อให้บ้านเมืองเป็นประชาชาติไทยที่ยิ่งใหญ่ ขอให้ประชาชนที่เคยต่อสู้เดินหน้าออกมาต่อสู้ร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง เป็นการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ครั้งยิ่งใหญ่ จากนี้ประชาชนเรือนแสนเรือนล้านจะไม่ต่อสู้เพื่อความฉ้อฉลเท่านั้น แต่จะเข้ามาทำการเมืองเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และเพื่อประชาชน
“เราจะปฏิรูป ไม่ปฏิวัติ ไม่โค่นล้ม ไม่ชิงชังใดๆ แต่เราจะทำการเมืองแบบรู้รักสามัคคี เชื่อว่าแผ่นดินจะสงบ สันติ เพื่ออนาคตลูกหลาน แล้วอีก 3 เดือนเราจะขับเคลื่อนไปข้างหน้า อนาคตอยู่กับเรา บ้านเมืองเป็นของเรา เราจะไม่เป็นลูกน้องใครทั้งสิ้น เราจะเป็นพรรคของพลเมือง เป็นพลเมืองที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และปกป้องสิ่งดีงามทั้งหมดที่เรารักและเทิดทูน” นายเอนก กล่าว
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติตั้งคณะทำงาน 5 ด้าน พร้อมทั้งประธานคณะทำงาน ประกอบด้วย 1.คณะทำงานเตรียมการจัดงานประชุมสมัชชาพรรค โดยมีนายจักษ์ พันธ์ชูเพชร เป็นประธาน 2.คณะทำงานยกร่างข้อบังคับพรรค วินัย และมาตรฐานจริยธรรมพรรค โดยมีนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง 3.คณะทำงานยกร่างนโยบายพรรคและโรงเรียนการเมืองพรรค โดยมีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ 4.คณะทำงานเตรียมการจัดตั้งสโมสรผู้นำเยาวชนพรรค โดยมีนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ เป็นประธาน และ5.คณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมเป็นเจ้าของพรรค โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นประธาน
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ลุกขึ้นพร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนกำลังนึกถึงคนที่เสียชีวิตนึกถึงพี่น้องประชาชนที่เสียขาตัวเองเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ใฝ่ฝันจะเห็นประเทศเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ใฝ่ฝันเห็นประเทศไทย คนไทยทุกเชื้อชาติศาสนา ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างรู้คุณค่าแผ่นดิน คนไทยเหล่านั้นเสียสละความสุข นอนกลางดินกินกลางถนน ถูกขว้างระเบิด เจ็บเป็นพัน ตายหลายสิบ อยากให้คนเหล่านั้นได้เห็นภาพวันนี้ วันที่พวกเรารำลึกถึงพวกเขาด้วยความเคารพในความเสียสละ และวันที่คนอย่างพวกเราประกาศสืบสานปณิธานของพี่น้องผู้เสียสละ ไม่ง่ายเลยที่จะสร้างพรรคที่เป็นพรรคของประชาชนที่แท้จริงขึ้นในประเทศนี้ ที่ผ่านมามีข่าวดูถูกเราว่าจะมีน้ำยาสักเท่าไรสร้างพรรคการเมืองแข่งกับพรรคที่ยิ่งใหญ่อยู่มาก่อน ถูกวิจารณ์ว่าเป็นพรรค กปปส.บ้าง พรรคลุงกำนันบ้าง หลายคนให้สัมภาษณ์ปรามาสว่าพรรคแบบนี้ไม่มีทางเกิดหรือโตขึ้นได้ ตนใช้เวลาครุ่นคิด คุยกับผู้คนมา 4 ปี ฟังความคิด ศึกษาการตัดสินใจ และก็ดีใจที่เห็นพี่น้องประชาชนทั้งที่อยู่ในชนบททุกภาคของประเทศ เป็นเกษตรกร ครูประชาบาล ทหาร ตำรวจ พลเรือน ตุลาการชั้นผู้ใหญ่ระดับหัวหน้า อดีตอัยการ คนที่ตนได้พบเห็นพูดตรงกันว่าวันนี้เป็นโอกาสเดียวที่จะรวมพลังประชาชนมาทำการเมืองเพื่อประเทศ เพื่อประโยขน์สุขของประเทศและแผ่นดิน
“ผมพูดคุยซักถามจนรู้ว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจริง หลายคนไม่คิดว่าจะเข้ามาการเมือง เช่น ม.ร.ว.จัตุมงคล เป็นข้าราชการปากหนัก ไม่ชอบนักการเมือง แต่ก็เดินเข้ามาหาผมถามว่าจริงหรือเปล่าที่มีคนอยากตั้งพรรคเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ม.ร.ว.จัตุมงคลบอกไม่เคยคิดว่าจะมีคนเข้ามาทำแบบนี้ตั้งแต่การต่อสู้ปี 57 สุดท้ายท่านก็มาร่วมเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง ผมระวังตัวมากตั้งแต่ตัดสินใจลาออกจากการเป็น ส.ส.เพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชน และประกาศว่าจะไม่เป็น ส.ส.ไม่อยากรับตำแหน่งทางการเมือง แต่เมื่อพี่น้องผู้ร่วมอุดมการณ์อยากตั้งพรรคเพื่อประชาชน ผมรู้เลยว่าต้องเข้ามาร่วม แม้ผมรู้ว่าตัวเองจะเป็นจุดด้อยจุดอ่อนของพรรคนี้ ให้คนนำมาโจมตีว่าผมตระบัดสัตย์ แต่ผมขอประกาศเลยว่าจะไม่อยู่เบื้องหลังแต่ผมจะยืนเคียงข้างพี่น้องประชาชน และผมไม่สนใจคำวิจารณ์เหล่านั้น ผมจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ขออาสาเป็นขี้ข้า เป็นผู้รับใช้ประชาชน ผมจะจะเอาประสบการณ์นักการเมืองกว่า 40 ปี มาร่วมตั้งพรรคของประชาชนให้เกิดขึ้นให้ได้ ทันทีที่ได้รับอนุญาตจาก คสช.ให้รณรงค์ต่างๆ ได้ ผมจะเดินไปทุกจังหวัดทั้่วประเทศด้วยตนเอง ตนไม่มีต้นทุน จะลงทุน 5 หมื่นบาท แล้วจะใช้รองเท่าคู่เดิม เพราะตนยังเก็บรองเท้าคู่เดิมที่เคยเดินขบวน แล้วจะใช้รองเท้าคู่นี้เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนมาร่วมเป็นสมาชิกพรรค จะไม่ใช่พรรคที่เกิดขึ้นได้เพราะกำนันสุเทพ แต่กำนันสุเทพจะเป็นส่วนหนึ่งของพรรคที่รักชาติ รักแผ่นดินไทย” นายสุเทพ กล่าว
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
คลิปจาก : Autchara Thongsawat
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ