10 มิ.ย.61 เฟซบุ๊ก June Pattarasaya แชร์ประสบการณ์ซ่อมมอเตอร์ไซค์สุดโหด โดยเธอเล่าว่า
#โพสนี้โพสไว้เพื่อเป็นอุทาหรณ์
เมื่อวันศุกร์เวลาประมาณ 15.30 น. จูนได้ขับรถมอไซด์เพื่อที่จะพาแม่ไปหาหมอระหว่างทางน้ำมันรถหมด เลยโทรให้เพื่อนซื้อน้ำมันมาเติมรถให้ พอเติมเสร็จปรากฏว่า รถสตาร์ทไม่ติดเหมือนเดิม เลยเข็นมอไซด์ไปร้านซ่อมรถตรงข้าม ปรากฏว่า ช่างบอกว่า ปั๊มน้ำมันรถจูนเสีย จูนเลยสอบถามไปว่า ราคาประมาณเท่าไหร่คะ ช่างตอบมาว่า พันกว่าบาท แล้วเรียกเก็บเงินจากจูนก่อน 1,000 บาทเพื่อที่จะไปซื้อปั๊มน้ำมาซ่อมรถ
ณ ตอนนั้น จูนมีตังค์ในกระเป๋าแค่ 400 บาท เลยบอกช่างไปว่า งั้นเดี๋ยวพรุ่งนีจูนค่อยเอาตังค์เข้ามาให้
พอตอนเช้าเวลาประมาณ 09.45 น.จูนให้เพื่อนจูนโทรไปถามที่ร้านว่า ตกลงว่ารถจูนอะไรเสีย ช่างก็ตอบกลับมาว่า ปั๊มหัวฉีดน้ำมันเสีย เพื่อนจูนเลยแจ้งช่างไปว่า งั้นรีบซ่อมเลยนะพี่ พอดีจูนไม่มีรถใช้ล่ะเดี๋ยวเอาตังค์ไปจ่ายให้ พอเวลาประมาณ 11.00 น.จูนกับเพื่อนได้เข้าไปที่ร้านดังกล่าว ปรากฏว่า ช่างกำลังแกะรถมอไซด์จูนออกเป็นชิ้นๆ จูนไปเห็นก็ตกใจ เลยสอบถามช่างไปว่า ตกลงรถจูนอะไรเสีย เค้าบอกว่าเสียหลายอย่าง จูนเลยสอบถามราคาอีกครั้งช่างแจ้งมาว่า ประมาณ 4,500+ ซึ่งจูนเลยบอกช่างไปว่า ถ้า4,500+จูนไม่ซ่อม ให้ช่างช่วยประกอบรถจูนให้เหมือนเดิม ล่ะเดี๋ยวจูนจะจ่ายค่าแรงให้
ปรากฏว่าช่างบอกให้จูนหารถกระบะมายกซากรถจูนกลับไป ล่ะจะให้จูนจ่ายเงินให้ทางร้าน 3,430 บาท ซึ่งจูนไม่รู้ว่าค่าอะไรบ้าง เลยให้ช่างเขียนบิลรายการมาให้ ช่างก็เขียนมาให้ตามบิลในภาพดังกล่าว ซึ่งตามที่ตกลงกัน ช่างแจ้งจูนว่า ปั๊มน้ำมันหัวฉีดเสีย ราคาประมาณพันกว่าบาท แต่มาเรียกเก็บจากจูน 3,430 ซึ่งถ้าจูนยอมจ่าย3,430นี้จูนจะได้แค่ซากรถกลับไป โดยที่เขาไม่ประกอบให้
จูนเลยเข้าไปแจ้งความ ที่ สภ. ร้อยเวรประจำวันนั้นแนะนำให้ไปไกลเกลี่ยกัน โดยให้ สายตรวจที่อยู่บริเวณนั้น เข้าไปกับจูนด้วย พอเข้าไปถึงร้านสายตรวจเจรจาให้ บอกให้ประกอบรถให้จูน ละจูนจะจ่ายค่าปั๊มน้ำมันหัวฉีดที่ตกลงให้ช่างเปลี่ยนในตอนแรก ซึ่งราคาที่ตกลงกันตอนแรก ช่างแจ้งว่าประมาณพันกว่าบาท แต่ช่างเขียนบิลมาเฉพาะค่าปั๊มน้ำมันก็ 2,300 บาทล่ะ สายตรวจเลยเจรจากับจูนว่า ให้จูนยอมจ่ายค่าปั๊มน้ำมัน 2,300 บาท แล้วก็ค่าแรงช่าง 500 บาท ซึ่งณ.ตอนนั้น จูนรู้สึกว่ามันเสียเวลามากไปแล้ว เลยยอมที่จะจ่ายเงิน 2,800 บาท ให้ช่าง สายตรวจเลยหันไปเจรจากับช่างอีก บอกจูนจะยอมจ่าย 2,800 บาท ละช่วยประกอบรถให้เหมือนเดิม แต่ช่างปฏิเสธ แล้วก็บอกว่า ค่าแรง 500 บาทคือค่าแกะอย่างเดียวถ้าจะให้ประกอบจูนต้องจ่ายเพิ่มอีก 500 บาท
ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าเริ่มโมโหล่ะ เหมือนจะตกลงกันไม่ได้ สายตรวจเลยบอกให้ไปคุยกันที่ สภ. ซึ่งตอนนั้นช่างก็ไม่ยอมที่จะไปโรงพักอีก บอกให้เอาหมายเรียกมาช่างถึงจะไป สายตรวจเลยบอกไปว่า ถ้าคุณไม่ยอมไปเท่ากับคุณขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่ เค้าจึงยอมตามไปสภ ร้อยเวรเจรจา ถามว่า ตกลงรถจูนอะไรเสีย เค้าตอบว่าปั๊มไม่ได้เสีย แบตไม่ได้เสีย ล่ะบอกว่าแหวนลูกสูบเสีย แต่จูนต้องจ่ายค่าปั๊ม ค่าแบต ค่าหัวเทียน เพราะเค้าซื้อมาแล้ว เค้าให้เหตุผลแบบนี้ ร้อยเวรเลยแนะนำให้จูนไปหาช่างความรู้มาอีกคน เพื่อที่จะเข้าไปที่ร้านซ่อมรถดังกล่าวแล้วเจรจากับจูนว่าจะให้จูนจ่ายให้ร้านนั้นเฉพาะที่ของจูนเสียจริงๆพอช่างอีกคนเข้าไป เค้าก็พูดภาษามุสลิมกัน ซึ่งจูนเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเขาพูดกันแบบนี้
ช่างที่จูนตามมา : ถามว่าขอสายไฟลองปั๊มน้ำมันหน่อยว่าเสียจริงรึป่าว
ช่างเจ้าของร้านดังกล่าว : พูดว่า มึงอย่าเสือก คือไม่ให้ช่างที่จูนพาไปเข้ามายุ่ง
ช่างที่จูนตามมาเลยถามไปอีกว่า ตกลงรถเค้าอะไรเสีย ช่างเจ้าของร้านตอบว่า กูยังไม่ได้แกะ ช่างที่จูนตามมาก็เลยถามไปอีกว่า แล้วไหนอุปกรณ์ ที่ซื้อมาจะแต่งรถจูน เค้าตอบกลับมาว่า กูยังไม่ได้ซื้อ แล้วก็เหมือนจะโมโหช่างที่จูนพาไป เค้าด่าช่างที่จูนพาไปว่า อย่าเสือก มึงไม่เคยตายหรอ มึงอยากตายหรอ ซึ่งตอนนั้นจูนตกใจเลยพาช่างกลับไปส่งก่อน แล้วก็โทรหาร้อยเวรคนดังกล่าว ซึ่งร้อยเวรคนดังกล่าวให้ข้อสรุปมาว่า ให้จูนไปคุยกับนิติกรที่ศาลเอง สรุปตอนนี้ ซากรถจูนก็ยังเอากลับมาไม่ได้
คำถามที่จูนต้องการคำตอบตอนนี้คือ
#ไม่มีใครช่วยอะไรจูนไม่ได้เลยหรอ
#คือจูนจะต้องจ่ายตังค์ตามที่เค้าเรียกร้องมาทั้งๆที่จูนไม่ได้ผิดจริงๆหรอจูนถึงจะได้ซากรถจูนกลับมา
#ถ้าจูนยอมเค้าก็จะทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆรึป่าวเพราะเท่าที่รู้มาจูนไม่ใช่เคสแรก
#ฝากเพื่อนๆช่วยกันแชร์โพสนี้แชร์จนกว่าจูนจะได้รถคืนแชร์จนกว่าจูนจะได้รับความยุติธรรม
โดยในเวลาต่อมา เรื่องก็จบที่ช่างไม่คิดค่าซ่อมและค่าอะไหล่ทั้งหมด โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ผอ.ศูนย์ดำรงศ์ธรรม นายอำเภอเมืองยะลา ปลัดอำเภอเมืองยะลา ผกก.สภ.เมืองยะลา สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองยะลา กอ.รมน.ภาค4 สน. ฉก.ยะลา 12 และตัวแทนจากขนส่งจังหวัดยะลา เป็นผู้ช่วยประสานงานให้เรื่องดังกล่าวจบลงด้วยดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : June Pattarasaya
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ