นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานบ้าน ธอส.เอ็กซ์โป @กรุงเทพฯ ประจำปี 2561 ว่า ขอให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ร่วมมือกับการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) จัดทำโครงการที่อยู่อาศัยราคาถูกสำหรับผู้มีรายได้น้อยให้ครบทั่วทั้งประเทศ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่ยังไม่มีบ้านมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยรูปแบบอาจสร้างเป็นคอนโดมิเนียมกระจายไปทั่วประเทศเพราะมีต้นทุนการสร้างถูกกว่าและราคาไม่แพง ซึ่งจะต้องมีความชัดเจนภายใน 3-4 เดือน
“เดือนนี้เป็นเดือนเกิดของผม ปกติผมไม่เคยขอของขวัญวันเกิดใคร แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่จะขอ ให้ ธอส. ไปร่วมกับการเคหะฯ ให้เร่งช่วยทำเพื่อให้ความฝันเป็นจริง โดยจะต้องปูพรมทำเป็นสเกลขนาดใหญ่พร้อมกันทั่วประเทศไม่ใช่เป็นรายโครงการเฉพาะบางพื้นที่เหมือนก่อน โดยกลุ่มแรกต้องทำโครงการให้กับคนผู้มีรายได้น้อย เช่น พื้นที่คลองเตย ดินแดง ส่วนรูปแบบการลงทุนตอนนี้รัฐบาลแก้กฎหมายในการร่วมทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แล้ว จึงสามารถดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนที่อยู่อาศัยในกลุ่มสวัสดิการได้ และหากติดขัดอะไร อยากให้รัฐบาลช่วยเหลือในด้านใดก็ให้บอกมา”
สำหรับการปล่อยกู้ของธอส. ปีนี้ สามารถปล่อยกู้ไปได้แล้วเป็นแสนล้านบาท ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็อยากเห็นให้เข้าไปช่วยปล่อยกู้ใน 3 กลุ่มเยอะๆ ได้แก่ กลุ่มผู้มีรายได้น้อย กลุ่มที่เพิ่งสร้างตัวต้องการมีบ้านหลังแรก และกลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่มีใครดูแลเพิ่มเติม ส่วนทิศทางการการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปีนี้จะเติบโตดีแน่นอน จากโครงการลงทุนของรัฐบาล ทั้งรถไฟฟ้า โครงการอีอีซี โครงการเที่ยวเมืองรอง การเติบโตของเมืองท่องเที่ยว ซึ่งในกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในไทย ก็มีความต้องการที่อยู่อาศัยสูง
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมกการผู้จัดการธอส. กล่าวว่า ภายในเดือนนี้จะนำเรื่องการจัดทำที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อยของรองนายกฯ สมคิด เสนอคณะกรรมการ ธอส. เพื่อเดินหน้าโครงการให้ได้ภายใน 3-4 เดือนตามนโยบาย โดยหลักเกณฑ์เบื้องต้นจะเสนอให้มีการจัดทำที่อยู่อาศัยแบบห้องชุด หรือคอนโดมิเนียม เปิดให้ผ่อนชำระได้ 40 ปี ราคาที่อยู่อาศัยต่อหน่วยไม่เกิน 1 ล้านบาท เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถผ่อนชำระได้ไม่เกินเดือนละ 3,000 บาท
“สิ่งที่ ธอส. จะเข้าไปดำเนินการคือการกำหนดและรูปแบบของโครงการก่อสร้างเพื่อเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน ซึ่งแม้ไม่ใช่หน้าที่หลักของ ธอส. แต่ก็สามารถเข้าไปร่วมทำทางอ้อมได้ โดยไม่ต้องแก้กฎหมายอะไร ขณะเดียวกันจะจัดหาแหล่งเงินทุนเข้าไปสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับผู้มีรายได้น้อยและให้ผู้ประกอบการที่สนใจนำไปลงทุนก่อสร้างที่อยู่อาศัยราคาถูก”
ส่วนกรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีความเป็นห่วงเรื่องหนี้เสียในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย เชื่อว่าการปล่อยกู้ของ ธอส. ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ ธปท. เป็นกังวล เนื่องจากกลุ่มที่ธนาคารปล่อยจะเน้นช่วยผู้มีบ้านหลังแรก และต้องการกู้เพื่ออยู่อาศัยอย่างแท้จริง ขณะที่กลุ่มที่มีความเสี่ยงส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้กู้ที่ตั้งใจจะกู้เพื่อการลงทุน หรือการซื้อบ้านหลังที่สองเพื่อหวังผลตอบแทนในระยะยาวมากกว่า
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ