ศาลเเพ่งสั่งฟอร์ดจ่าย 23 ล้าน พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ให้ชำระค่าทนายความ คดีเเบบกลุ่มครั้งเเรก หลังขายรถไม่ได้มาตราฐานกับลูกค้านับร้อย
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ย. ที่ห้องพิจารณา 1005 ชั้น 10 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 นายโอภาส อนันตสมบูรณ์ อธิบดีอัยการผู้พิพากษาศาลแพ่งกรุงเทพใต้, นายรัฐวิชญ์ อนันตวิทยานนท์ เลขานุการศาลแพ่งกรุงเทพใต้ พร้อมองค์คณะ 3 คน อ่านคำพิพากษาคดีผู้บริโภค หมายเลขดำ ผบ.492/2560 “กลุ่มผู้ใช้รถยนต์ฟอร์ดรุ่นเฟียสต้าและรุ่นโฟกัส 308 ราย”
อ่านข่าวย้อนหลัง : ผู้เสียหายคดีฟอร์ด 308 ราย ลุ้นคำตัดสินศาล เรียกค่าเสียหาย 24 ล้าน
ยื่นฟ้องบริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์เซอร์วิสแห่งประเทศไทย จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงในการเป็นผู้สั่งผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย เป็นจำเลยเรื่องชำรุดบกพร่อง, สินค้าไม่ปลอดภัย เนื่องจากการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ชำรุดบกพร่องไม่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นไปตามคำโฆษณา และทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงอันตราย เรียกค่าเสียหายเชิงลงโทษและจิตใจ รวมจำนวน 24,751,420.95 บาท (จำเลยตอนเเรกมี4จำเลยอื่นมีการถอนฟ้องไปเเล้วก่อนหน้านี้)
อ่านข่าวย้อนหลัง : ศาลรับฟ้องแบบกลุ่มคดีฟอร์ด ผู้เสียหาย 308 คนรวมตัว คาดนัดพิพากษา ก.ย.นี้
โดยศาลอ่านคำพิพากษาเสร็จในเวลา 11.15 น. โดยให้จำเลย ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ที่ได้รับความเสียหายจำนวน 291 ราย โดยกำหนดค่าซ่อมราคาจากการเข้าซ่อม เเละวันขาดประโยชน์ใช้รถยนต์ของโจทก์ เเละสมาชิกเเต่ละราย รายละตั้งแต่ 20,000 บาทเศษ-200,000 บาท เศษ รวมเป็นเงิน 23 ล้านบาทเศษ พร้อมชำระดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อไป
และให้จำเลยชำระค่าทนายความแทนโจทก์ 150,000 แสนบาท พร้อมเงินรางวัลแก่ทนายความ 800,000 บาท ตามกฎหมายด้วย และให้บังคับคดีตามคำพิพากษาให้เสร็จภายใน 7 วัน
สำหรับคดีในวันนี้มีโจทก์ 12 รายจาก 308 รายที่ได้ดัดเเปลงสภาพรถหรือไม่เคยนำรถยนต์ เข้าซ่อมเกี่ยวกับการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับชุดคลัตช์ เเละกล่องควบคุมโมดุลเกียร์ ซึ่งศาลสั่งยกฟ้องให้จำเลยไม่ต้องชดใช้
โดยภายหลังมีคำพิพากษาได้มีตัวเเทนทนายความอธิบายกระบวนการดำเนินคดีเเบบกลุ่ม เเละให้สมาชิกเข้าไปตกลงกันในกลุ่มอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อภายหลังศาลมีคำพิพากษา
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ