นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.เปิดตัว โมบาย แอพลิเคชั่น ชื่อว่า จีเอชบี ออล เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า สามารถทำธุรกรรมการเงินได้ครบวงจรผ่านโทรศัพท์มือถือ ได้แก่ 1. ตรวจสอบยอดเงินฝากและบัญชี 2. โอนเงินภายในและต่างธนาคาร 3. สมัครและโอนเงินผ่านพร้อมเพย์ 4. ตรวจสอบสถานะสินเชื่อ 5. ชำระเงินกู้โดยหักบัญชี ธอส. และ 6. สร้างคิวอาร์โค๊ดเพื่อชำระเงินกู้ โดยพร้อมให้ประชาชนทั่วไปและลูกค้า ดาวน์โหลดได้ผ่านทั้งระบบไอโอเอสและเอนดรอยด์ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2561 นี้
นอกจากนี้ ในระยะต่อไป จะเปิดให้ยื่นกู้ผ่านแอพลิเคชั่นได้ ซึ่งจะมีตัวแทนธนาคารมาเป็นมาให้คำปรึกษาในการตรวจสอบเอกสาร และประเมินศักยภาพในการกู้ของลูกค้า จากเดิมที่ต้องเดินทางมาเจรจาที่สาขาธนาคาร กว่า 3-4 ครั้ง ก็จะเหลือเพียง 1 ครั้ง คือวันที่เข้ามาเซ็นอนุมัติเงินกู้เท่านั้น รวมทั้งมีการเปิดให้จองคิวในการนัดเข้ามาทำนิติกรรม การนัดหมายเข้าประเมินราคา แจ้งผลการพิจารณาสินเชื่อ แจ้งเตือนชำระหนี้ นัดวันลงนามทำนิติกรรม แจ้งขอกู้เพิ่ม และชำระค่าสาธารณูปโภคด้วย เพื่อช่วยลดเวลาให้กับลูกค้า สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
“ปัจจุบันมีปริมาณการทำธุรกรรม 3 วันสุดท้าย โดยลูกค้ามาชำระค่างวดที่สาขากว่า 8 แสนรายการ เคาเตอร์เซอร์วิซ 4 แสนรายการ และธนาคารใหญ่ 5 แห่งอีก 3 แสนรายการ โดย ธอส.ตั้งเป้าหมายระยะแรก ให้ลูกค้ามาชำระค่างวดผ่านแอพลิเคชั่น ที่ 5 แสนรายการ และคาดว่าในระยะต่อไปจะต้องจ่ายผ่านแอพลิเคชั่นทั้งหมดกว่า 80%” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวว่า ปัจจุบัน ธอส.มีต้นทุนค่าให้ปริการที่หน้าเคาท์เตอร์กว่า 30 บาท ต่อ 1 รายการ ขณะที่การทำธุรกรรมผ่านแอพลิเคชั่น มีต้นทุนประมาณ 1 บาทต่อรายการ โดยส่วนต่างของต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ลดลงนั้น ก็สามารถนำไปลดดอกเบี้ย หรือ ตรึงอัตราดอกเบี้ยให้กับลูกค้าได้ รวมทั้งจะมีการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อจูงใจให้ลูกค้าชำระค่างวดผ่านแอพลิเคชั่นมากขึ้น เช่น มีการสะสมแต้ม เพื่อนำไปใช้ในการลดดอกเบี้ยกู้บ้าน รวมถึงค่าธรรมเนียมต่างๆ เป็นต้น
ทั้งนี้ ธอส.ใช้งบในการลงทุนแอพลิเคชั่นกว่า 59 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนการลงทุนปรับโครงสร้างด้านไอทีและการบริการไปสู่รูปแบบธนาคารดิจิทัล (คอร์แบงกิ้ง) โดยเป็นการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน 1,900 ล้านบาท และพัฒนาภาคบริการอีก 100 ล้านบาท ที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นเดือนมี.ค. 2562
นายฉัตรชัย กล่าวว่า เป้าหมายการปล่อยสินเชื่อของธนาคารปีนี้อยู่ที่ 1.89 แสนล้านบาท โดยในวันที่ 19 ก.ย.2561 สามารถปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 1.54 แสนล้านบาท และคาดว่าภายในปีนี้จะปล่อยสินเชื่อได้ถึง 2.2 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้ ธอส.ตรึงดอกเบี้ยมาตั้งแต่ต้นปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อย รวมถึงการผ่อนเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้ผู้มีรายได้เข้ามาขอกู้ได้ง่ายขึ้น และนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ไม่ต้องการให้ ธอส.แสวงผลกำไรสูงสุด ทำให้ธนาคารสามารถตรึงดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปีเพื่อช่วยเหลือลูกค้า
สำหรับความคืบหน้า โครงการบ้านล้านหลัง ขณะนี้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการ และเสนอกระทรวงการคลัง เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีบ้านมือหนึ่ง และบ้านมือสองให้เข้าพร้อมอยู่ 2.7 แสนยูนิต รวมถึงมีสินทรัพย์ของธอส.ที่จะเปิดให้ผ่อนดาวน์ 0% ยาว 3-5 ปี รวมทั้งสินเชื่อบุพเพสันนิวาส ดอกเบี้ยคงที่ 3.99% 10 ปี วงเงิน 3 พันล้านบาท ขณะนี้มีคำขอสินเชื่อแล้วกว่า 1 พันล้านบาท โดยธนาคารปรับเกณฑ์การขอสินเชื่อใหม่ จากอายุไม่ต่ำกว่า 50 ปี เหลือ 45 ปี เพื่อให้มีลูกค้าได้สิทธิขอสินเชื่อเพิ่มขึ้น
ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ