จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Jenjira Srangchat โพสต์ภาพของชาวนาหมู่บ้านแห่งหนึ่งใน จ.บุรีรัมย์ ปิดถนนเพื่อตากข้าวเปลือก โดยใช้แท่งแบริเออร์ปิดทางเข้า-ออก ทำให้รถไม่สามารถใช้ถนนเส้นดังกล่าวได้ พร้อมระบุข้อความว่า
ภาพที่มีการแชร์บนโลกออนไลน์ (ขอบคุณภาพจาก Jenjira Srangchat)
“ว่าด้วยเรื่องตากข้าว หลายคนอาจจะผ่านเส้นนี้และใช้ถนนเส้นนี้ เวลาจะเข้าเมือง หรือไปเดินตลาดคลองถม ในวันศุกร์ และมาเจอแบบนี้ ก็คงจะหงุดหงิด ในความ ไม่มีมารยาท และเห็นแก่ตัวของคนบางคน แต่อาจไม่กล้าพูดอะไร เห็นตั้งแต่วันศุกร์แล้ว กับการปิดถนน ตากข้าว ฝั่งที่เห็นคือใช้ แบริเออร์พลาสติกมาบังปิด และฝั่งที่ลงจากถนนใหญ่ ใช้ กิ่งไม้ไผ่หรืออะไรนี่แหละบังไว้ทั้งเลน เพื่อไม่ให้คนลงได้ เส้นนี้เขาจะใช้วิธีนี้ เพื่อตากข้าวประจำ (เส้นท้ายบ้านหมู่1 ) ถามว่า มันเป็นการเห็นแก่ตัว และเสียมารยาทไหม ตอบเลยว่ามาก ทั้งๆ ที่ลานกิจกรรมของหมู่ 1 ก็ว่าง คุณไม่ไปตาก แต่คุณเลือกที่จะปิดถนนตาก ไม่เข้าใจเหมือนกัน บอกเลยว่า หมู่ 3 ไม่มีนะแบบนี้ ต่อให้บ้านอยู่ในซอยแค่ไหน เขาก็สู้ขนออกมาตากที่ลาน ที่เขาตากกัน เห็นแล้วเพลียจิต งึดหลาย ทำไปได้”
บริเวณถนนจุดเกิดเหตุ ไม่พบว่ามีการตากข้าว
นที่ 15 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ตรวจสอบหมู่บ้าน ม.1 ต.สองชั้น อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ บริเวณถนนคอนกรีต ไม่พบว่ามีการตากข้าวเปลือกบนถนนแล้ว แต่พบว่า ชาวบ้านนำข้าวเปลือกมาตากไว้ที่บริเวณลานปูนของศูนย์ข้อมูลหมู่บ้านแทน ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้านทราบว่า ก่อนหน้านี้มีการนำข้าวเปลือกไปตากบนถนนคอนกรีต และใช้แท่งแบริเออร์ปิดกั้นถนนจริง แต่ตากแค่ 2 วันเท่านั้น และไม่ได้ตากเป็นประจำ
จุดตากข้าวเปลือก ที่ลานปูนศูนย์ข้อมูลหมู่บ้าน
นางเทียน ประเสริฐศรี ผู้ตากข้าวเปลือกบนถนน อายุ 47 ปี ยอมรับว่า ตนเป็นผู้นำข้าวเปลือกไปตากบนถนนคอนกรีต เมื่อวันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงนั้นมีฝนตก ประกอบกับศูนย์ข้อมูลหมู่บ้าน ซึ่งเปิดให้ชาวนานำข้าวไปตากก็มีการจัดงานกฐิน ตนจึงจำเป็นต้องนำข้าวเปลือกไปตากบนถนนคอนกรีตถนนเลนเดียว และเห็นว่ายังมีถนนอีก 4 – 5 เส้นทางซึ่งอยู่ไม่ห่างกันที่สามารถใช้สัญจรแทนได้ จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบ
นางเทียน ประเสริฐศรี ผู้ตากข้าวเปลือกบนถนน
ตอนแรกตนตั้งใจว่าจะตากแค่วันเดียวก็จะเก็บ แต่กลับมีฝนตกลงมาซ้ำอีก ตนจึงต้องตาก 2 วัน ส่วนแท่งแบริเออร์ที่นำมาปิดกั้นถนนนั้น ตนเห็นมีวางบนถนนอยู่แล้วในช่วงที่มีงานกฐิน ตนจึงไปลากมากั้นถนนบริเวณที่ตากข้าวเปลือกไว้ เพราะกลัวว่ารถจะไปเหยียบเมล็ดข้าวหักเสียหาย ไม่ได้มีเจตนาจะปิดทางเข้า-ออก ซึ่งตนเห็นว่าหลายหมู่บ้าน ก็ตากข้าวบนถนนกันในลักษณะนี้ และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ตนนำข้าวมาตากบนถนน ซึ่งปกติจะตากในลานศูนย์ข้อมูล แต่ไม่คิดจะกลายเป็นกระแสถึงขนาดนี้
นางเทียน กล่าวอีกว่า หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนรู้สึกเสียใจและขอโทษผู้ที่ใช้ถนนสัญจรด้วย แต่ก็อยากจะวิงวอนขอความเห็นใจแก่ชาวนาด้วย เพราะเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวส่วนใหญ่ก็จะเก็บเกี่ยวพร้อมกัน และก่อนจะนำไปขาย หรือเก็บใส่ยุ้งก็ต้องตากให้แห้งก่อน นอกจากนี้ ตนมองว่าคนที่โพสต์ก็ไม่ควรทำ เพราะจะทำให้ผู้ใหญ่บ้านเดือดร้อนไปด้วย ที่ต้องคอยแก้ไขปัญหา ตนคิดว่าควรจะคุยกันก่อน เพราะโพสต์บนโลกออนไลน์แบบนั้น ทำให้รู้สึกอับอาย
นายเชื่อม เกรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
ด้าน นายเชื่อม เกรัมย์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ในฐานะผู้นำชุมชน ตนรู้สึกเห็นใจทั้งชาวนาและผู้ที่สัญจร ซึ่งหลังจากนี้ก็จะหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน โดยเบื้องต้นจะประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าว เพื่อขอความร่วมมือชาวนาให้นำข้าวไปตากตามลานของชุมชน หรือที่โล่งต่าง ๆ ที่สามารถตากได้ ส่วนถนนในหมู่บ้านก็ขอให้หลีกเลี่ยง แต่หากจำเป็น ไม่มีที่ตากจริง ๆ ก็ให้ใช้พื้นที่ตากแค่ฝั่งเดียว อีกฝั่งให้เว้นไว้สำหรับรถสัญจรไปมา ตนอยากให้ทุกฝ่ายเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และควรจะพูดคุยสื่อสารกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะดังกล่าวซ้ำอีก
อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจถนนตามหมู่บ้าน มีชาวนานำข้าวเปลือกไปตากบนถนน 1 ช่องจราจร เว้นไว้ให้รถสัญจร 1 ช่องทาง ขณะที่ส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายแห่ง ก็เปิดพื้นที่ให้ชาวนานำข้าวเปลือกไปตากได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นการช่วยเหลือชาวนาอีกทางหนึ่งด้วย
ข่าวจาก : อัมรินทร์ทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ