วันที่ 20 พ.ย.กรณีเด็กนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ขับรถจักรยานยนต์ไปชนกองข้าวเปลือกที่ชาวบ้านนำมาตากบนถนนลาดยาง ทำให้หนึ่งในนั้นเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนเพื่อนอีกคนบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ จนถึงขณะนี้อาการยังน่าห่วง เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดยต่อมาทางหลวงชนบทบุรีรัมย์ ได้โพสต์แจ้งเตือนชาวนาที่นำข้าวเปลือกมาตากบนถนนด้วยข้อความว่า”ในช่วงที่มีผลผลิตทางการเกษตรออกมามาก ๆ และต้องการลดความชื้นของผลผลิตนั้น ๆ ในพื้นที่ชนบท มักจะพบเห็นการนำผลผลิตเหล่านั้นมาตากบนถนน ซึ่งบ่อยครั้งจะเป็นสาเหตุให้เกิดความเสียหายขึ้นแก่ผู้ใช้ถนน ดังนั้น สำนักกฎหมาย กรมทางหลวงชนบท จึงขอชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องเกษตรกรและขอความร่วมมืออย่านำผลผลิตทางการเกษตรหรือสิ่งอื่นใดมาวางกองบนถนน เพื่อความปลอดภัยของทุกคนที่ใช้ถนนในการสัญจร”ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ล่าสุดผู้สื่อข่าว 77jowo ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยางระหว่างบ้านม่วงน้อย-บ้านหนองไทร ต.ทะเมนชัย พบว่ายังมีเกษตรกรนำข้าวเปลือกมาตาก 1 เลนของถนนลาดยางตามปกติ มีเพียงเอาสิ่งของมาตั้งแจ้งเตือนรถที่วิ่งผ่านไปมาให้ระวังเท่านั้น นายสมจิตร มูลพันธ์ อายุ 28 ปี ชาวนาบ้านหนองม่วงน้อย บอกว่าหลังเกิดเหตุรถจักรยานยนต์นักเรียนมาชนกองข้าวจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ชาวบ้านต่างหวาดวิตกไปตามๆกัน
แต่จำเป็นต้องนำข้าวมาตากบนถนนเช่นเดิม เพราะไม่มีที่ตากข้าว ลานตากชุมชนต้องเรียงคิวกันยาว ขณะข้าวเริ่มสุกงอมต้องเร่งเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะใช้รถเกี่ยวข้าวซึ่งจะมีความชื้นในข้าวสูง ตอนนี้ทำได้แค่นำสิ่งของมาวางกันข้าวเพื่อแจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่รถให้ระวังเท่านั้น ส่วนวิธีอื่นยังไม่เห็นทาง โดยเฉพาะช่วงท้ายฤดูเก็บเกี่ยวต้องเร่งทำให้เสร็จ
ข่าวจาก : 77jowo
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ