‘บิ๊กตู่’ ชี้เครื่องบินเก่า กองทัพจำเป็นต้องซื้อยุทโธปกรณ์เพิ่ม(มีคลิป)

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แจงเหตุเครื่องบิน C130 ใบพัดขัดข้องทำให้ภารกิจลงพื้นที่สมุย ล่าช้า พร้อมย้ำยังจำเป็นต้องมีงบประมาณจัดซื้อยุทโธปกรณ์ให้กองทัพ เพื่อใช้ในภารกิจต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องบินที่จะใช้ในการลำเลียงคนหนีพายุ

21 ก.พ.2562 ThaiPBS รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดพิธีส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลสู่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นไปเยี่ยมชม ชุมชนโอท็อปนวัตวิถีบ้านหินลาด ซึ่งมีผู้ประกอบการและชาวบ้านให้การต้อนรับ ชวนช็อปและชิมอย่างสนุกสนาน เมื่อถึงบูธจำหน่ายกาละแมนายกฯได้ร่วมกวนกาละแม สินค้าประจำเกาะสมุยอย่างอารมณ์ดี

ไม่ต่างจากงานมอบธงสัญลักษณ์จัดงานงานศิลปะไทยแลนเบเน่เล่ 2020 ที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งนายกฯทักทาย และถ่ายรูปเซลฟี่กับเจ้าหน้าที่และประชาชนอย่างเป็นกันเอง

ย้ำความจำเป็นใช้งบจัดซื้อยุทโธปกรณ์

ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานเปิดพิธีส่งน้ำประปาผ่านท่อลอดใต้ทะเลสู่เกาะสมุย บริเวณลานอเนกประสงค์ ท่าเทียบเรือหน้าทอน พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอโทษชาวเกาะสมุย และประชาชนที่มาร่วมงาน เนื่องจากเดินทางมาถึงล่าช้ากว่ากำหนดนานกว่า 1 ชั่วโมง เพราะเครื่องบินขัดข้อง และใช้โอกาสขอให้ประชาชนเข้าใจถึงการใช้งบประมาณจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้วย

แต่การลงพื้นที่ครั้งนี้ มีอุปสรรคตั้งแต่เริ่มเดินทางเนื่องจากเครื่องบินขัดข้อง จนทำให้กำหนดการล่าช้าออกไป เมื่อมาถึงพล.อ.ประยุทธ์ จึงต้องขอโทษชาวเกาะสมุย ที่ทำให้ต้องรอนานกว่า 1 ชั่วโมงและใช้โอกาสเดียวกันชี้แจงประชาชนเข้าใจถึงการใช้งบประมาณจัดซื้อยุทโธปกรณ์ด้วย

“มาถึงที่นี้ไม่มีอะไรสกัดกั้นได้ แม้แต่เครื่องบิน ขอให้รู้ว่าการที่เราต้องซื้ออุปกรณ์กองทัพเป็นอย่างไร เพราะในวันข้างหน้าก็ต้องใช้ขนประชาชน และใช้ในยามที่เดือดร้อน เช่น พายุปาบึก ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย เครื่องบินบางลำอายุมากกว่าตัวเอง”

ขอเป็น “คนกลาง”ไม่เลือกข้างใคร

พล.อ.ประยุทธ์ ยังย้ำว่าจำเป็นต้องมีกำลังทหารไว้เพื่อปกป้องประเทศ และตัวเองก็ภูมิใจในความเป็นทหารของตนเองมาตลอด ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรี บอกว่าจะพยายามหลีกเลี่ยงเรื่องการเมืองแต่ก็ย้ำว่าตนเองเป็นกลางไม่ได้เข้าข้างใครไม่ว่าพรรคไหนก็ตาม

“รัฐบาลนี้ไม่ใช่เลือกข้างใคร ไม่ต้องการการนำแบบนี้ในวันข้างหน้าหรือ ใครจะมาเป็นก็ได้แต่ให้ทำอย่างที่ผมทำ คือไม่เลือกว่าเป็นพื้นที่ของใคร เพราะทั้งหมดคือคนไทยทั้งประเทศ”

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าไปแยกแยะคนนั้นคนนี้ ผมทำแบบนั้นไม่ได้ วันนี้หลายโครงการเกิดขึ้น งบประมาณที่ใช้จ่ายก็ไม่ได้มากมายกว่าเดิมมากนัก ทุกอย่างยังรักษาสภาพคล่องของรัฐบาล ไม่ได้ทำความเสียหายให้กับประเทศเลย

การลงพื้นที่และมอบนโยบายครั้งนี้ นอกจากจะได้พูดคุยกับประชาชน และเจ้าหน้าที่ยังมีนายธีระยุทธเอี่ยมตระกูลผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเขต 2 สุราษฎร์ธานี และทีมงานเข้ามาร่วมฟังนโยบายจากแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีของพรรคด้วย

หลายฝ่ายจึงจับตามองว่าแม้จะนายกฯปฏิเสธหลายครั้งว่าการลงพื้นที่จะไม่ใช่การหาเสียงแต่ลีลาพบปะชาวบ้านของพล.อ.ประยุทธ์ในตอนนี้ก็แทบไม่ต่างจากนักการเมืองจากหลายๆพรรคโดยเฉพาะในช่วงใกล้เข้าสู่การเลือกตั้ง

ข่าวจาก : ThaiPBS

• Facebook
• Twitter
• Line