พรรคเล็กเสียงแตก! จาก10เหลือแค่2 ไม่ได้ รมต.ก็พร้อมจะตรวจสอบรัฐบาล ย้ำนี่ไม่ใช่การต่อรอง!





เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่ร้านทีเฮาส์ ถนนวิภาวดี กลุ่ม 10 พรรคการเมืองขนาดเล็ก ประกอบด้วย 1.พรรคพลังชาติไทย 2.พรรคประชาภิวัฒน์ 3.พรรคไทยศรีวิไลย์ 4.พรรคพลังไทยรักไทย 5.พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 6.พรรคประชานิยม 7.พรรคประชาธรรมไทย 8.พรรคพลเมืองไทย 9.พรรคประชาธิปไตยใหม่ 10.พรรคพลังธรรมใหม่ นัดรวมตัวกัน

เพื่อประชุมหารือกรณีมีผู้ไม่หวังดีระบุว่าทางกลุ่มไม่ต้องการตำแหน่งฝ่ายบริหาร ซึ่งนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ระบุก่อนหน้านี้ว่า ไม่เป็นความจริง จึงต้องมีการหารือเพื่อทบทวนมติในการเข้าร่วมรัฐบาล

แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลามีพรรคการเมืองเดินทางมาจริงเพียง 2 พรรค คือ พรรคประชาธรรมไทยและพรรคไทยศรีวิไลย์ เท่านั้น

โดยนายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กรณีการจัดสรรโควต้ารัฐมนตรีในเบื้องต้นของกลุ่มพรรคเล็กนั้น จะได้ตำแหน่งบริหาร 2 ตำแหน่ง แต่ปรากฏว่ามีการปล่อยข่าวจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีใหม่ โดยในกลุ่มพรรคเล็กจะได้เพียงตำแหน่งกรรมมาธิการในคณะต่างๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของส.ส.ทุกคนที่จะมีตำแหน่ง กรรมมาธิการอย่างน้อย 1-2 ตำแหน่ง

“ที่เราไม่ได้ตำแหน่งบริหารในรัฐบาลนั้น ส่งผลให้เราไม่สามารถผลักดันนโยบายที่ให้ไว้กับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งทางนั้นก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 10 พรรคเล็กด้วยเช่นกัน หากบอกให้เราเสียสละ ผมมองว่าแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่สามารถรวบรวมคนจากหลายพรรคมารวมกันนั้น ต้องเป็นคนเสียสละมากกว่า”นายมงคลกิตติ์ กล่าว

“หากกลุ่มพรรคเล็กมีฝ่ายบริหาร 2 ตำแหน่งก็จะสามารถตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา ผู้ช่วยรัฐมนตรี หรือบอร์ดรัฐวิสาหกิจเพื่อขับเคลื่อนโยบายได้ แต่หากไม่มีตำแหน่งก็ไม่มีอะไรเป็นตัวชี้วัดว่าเราเป็นส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ส่วนตัวพร้อมจะเป็นฝ่ายค้านตรวจสอบการทำหน้าที่ของรัฐบาลนี้ และตรวจสอบย้อนหลัง สำหรับการทำงานฝ่ายค้านพร้อมร่วมกับพรรคเพื่อไทย หากเป็นเรื่องที่ข้อมูลตรงกัน ผมก็พร้อมจะเปิดเผยข้อมูล เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นายมงคลกิตติ์กล่าว

นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย กล่าวว่า ขอให้ข่าวเพื่อยืนยันกับคนที่ระแวง ก่อนที่จะตกลงว่าทั้ง 10 พรรคหนุนพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี และได้มีการย้ำพรรคแกนนำรัฐบาลแล้วว่า ขอให้นำนโยบายของเราทั้ง 10 พรรคที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนไปรวมในนโยบายรัฐบาล เพราะทั้ง 10 พรรคต่างมีความชำนาญในแต่ละแขนง

ทางพรรคแกนนำก็รับปากว่าจะให้โอกาสกับพวกเรา เหมือนกับที่ให้พรรคอื่นๆ ซึ่งโควตาจาก 10 พรรค ควรได้รับการพิจารณาตามที่แต่ละพรรคได้เสนอความสามารถให้ทราบแล้ว อย่างกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข

“ตามที่มีข่าวว่า 10 พรรคไปกดดันพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ขอปฏิเสธว่าไม่ใช่ แล้วการที่มีกระแสข่าวออกไปว่าบางพรรคที่ไม่มาร่วมพูดคุยในวันนี้เป็นเพราะกลัวนั้น ก็ไม่รู้ว่ากลัวอะไร แต่การไม่มามีข้อเท็จจริงว่าทุกคนเสียกำลังใจที่จะไม่ได้รับโอกาสในการแก้ปัญหาประเทศชาติ”นายพิเชษฐกล่าว และว่า

ถ้าจะปล่อยให้ตนกับนายมงคลกิตติ์ โดดเดี่ยวเพียงสองคน เราก็ยอมรับ เพราะสิ่งที่นายมงคลกิตติ์แสดงออกก็เพื่อปกป้องสิทธิของทั้ง 10 พรรคที่ควรได้รับการพิจารณา เพราะพวกเรารู้สถานะของพวกเราดี อย่างพรรคอื่น 3 ที่นั่ง 5 ที่นั่ง ยังได้รับการพิจารณา แต่นี่พวกเรา 10 พรรค จึงขอทำความเข้าใจว่าที่มาวันนี้เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ไม่ได้รวมตัวเพื่อแถลงข่าวอะไร แต่สิ่ที่นายมงคลกิตติ์พูดเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ก็ขอให้โอกาส 10 พรรคนี้ด้วย

“เรามาคุยกันเรื่องการทำงานในสภาเรื่องสัดส่วนกรรมาธิการ ยืนยันกับพรรคแกนนำถึงความต้องการของ 10 พรรคไปแล้ว ส่วนเรื่องตำแหน่งขณะนี้ ก็ต้องแล้วแต่นายกรัฐมนตรี ส่วนผมยืนยันไปแล้วว่าชำนาญเรื่องแรงงาน พูดได้อย่างไม่อาย เพราะได้ทำมาจริง อย่างนายมงคลกิตติ์ก็มีความรู้เรื่องกระทรวงศึกษาธิการ

ขอย้ำว่านี่ไม่ใช่การต่อรอง เพราะความจริงเราเปิดครัวไปหมดแล้วและเขาก็เห็นทั้งหมดแล้ว เพียงแต่อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งรัฐบาลให้เสร็จโดยเร็ว แต่ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ เราทั้ง 10 พรรคก็ต้องมาคุยกันว่าจะเอาอย่างไร เพราะเบื้องต้นเราก็สนับสนุนไปเต็มตัวแล้ว เพราะต้องการให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ตอนนี้รอเพียงแค่ให้นายกฯ จัดตั้งรัฐบาลได้โดยเร็ว ไม่ต้องห่วงพวกเราพรรคเล็กๆ” นายชัยวัฒน์ กล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า การที่พรรคเล็กอีกหลายพรรคไม่ได้มาร่วมพูดคุยกับนายพิเชษฐ และนายมงคลกิตติ์ในวันเดียวกันนี้ เนื่องจากไม่พอใจท่าทีของนายมงคลกิตติ์ ที่มักพูดให้ข่าวในเชิงกดดันเพื่อที่จะต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้ภาพลักษณ์ของพรรคการเมืองขนาดเล็กเสียหาย ดังนั้น พรรคต่างๆ จึงตัดสินใจไม่เดินทางมาร่วมพูดคุยในวันนี้ตามที่นายมงคลกิตติ์ เป็นคนนัด

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: