ปล่อยโฮ!เปิดใจเป็นที่แรก โดนคนใกล้ตัวโกงเงินเกือบ 10 ล้าน สำหรับ อาย วราไพรินทร์ ลภัสนิธิโรจน์ ผู้รับบทบีบี ในละครดัง สงครามนางงาม แถมยังต้องหาเงินทำงานหนักเพื่อมาเคลียร์หนี้สินทั้งๆที่ตัวเองไม่ได้ก่อ เรียกได้ว่าเป็นภาระที่หนักเพราะ อายเองมีความรับผิดชอบต้องเลี้ยงดูแม่ที่ป่วย แถมตั้งใจปีนี้จะพาแม่ไปรักษาผ่าตัดโรคลมชัก แต่เงินที่เก็บสะสมทั้งหมดกับมลายหายไปเพราะโดนโกงซะงั้น เรียกได้ว่าชีวิตดราม่ามากกว่าละครที่ อาย แสดงซะอีก
“คือก่อนที่จะมาถ่ายละครสงครามนางงาม อาย ก็ได้ไปลงทุนกับคุณน้าที่ทำออแกนไนซ์ ซึ่งคุณน้าคนนี้ก็ทำด้วยกันมาหลายปีแล้วแหละ ด้วยความไว้ใจกันเลยไม่ได้มีการทำสัญญาอะไรเลย ทีนี้เมื่อปีที่แล้วก็มีเพื่อนสนใจมาร่วมลงทุนด้วยแล้วก็มีกำไรก็ปันผลแต่เมื่อปลายปี ธุรกิจที่ทำมันชะงัก ขาดทุนไป เลยกลายเป็นว่าเงินที่เราเอามาลงทุนก็สูญไป คือประมาณโดนโกง ตอนนี้กำลังดำเนินคดีกับน้าคนนั้น ถึงขั้นที่ว่าถ้าเขาไม่จ่าย เขาอาจจะต้องติดคุก อันนั้นเป็นเรื่องของฝ่ายที่เอาเงินไปลงทุนละ ในส่วนของอาย ซึ่งพอมันขาดทุนเป็นหนี้มา ทางทนายของอายบอกว่า ไม่ต้องให้อายรับสภาพหนี้ เพราะการรับสภาพหนี้หมายความว่าเราต้องเป็นหนี้แทนนะ เพราะเราคือหนึ่งในผู้ลงทุน แล้วที่นี้เพื่อนๆคนใกล้ตัวเราพอขาดทุนก็มองว่า ทำไมไม่ได้เงินอย่างที่เข้าใจ มันก็คือการลงทุน แต่อายอยากรักษามิตรภาพตรงนี้ไว้ โดยการหาเงินมาคืนให้ 20% เราเลยเคลียร์ส่วน 20 % ไป บางเคสเคลียร์ได้เงินแล้วจบไป บางคนเราพยายามหาเงินมาผ่อนให้ก็รู้สึกไม่โอเค แบบจะมาฟ้องอายดีกว่า เพราะว่าอยากให้เราเป็นข่าว แบบจะมาที่สังกัดเราก็มี จะไปออกสรยุทธ์ก็มี เจอมาทุกรูปแบบ สุดท้ายถึงขั้นไปให้ทนายไกล่เกลี่ย”
ธุรกิจที่โดนโกงไปเนี่ยโดนโกงไปได้ยังไง “คืออายกับน้าที่เราไว้ใจเนี่ย ไปทำออแกไนซ์จัดพื้นที่ขายของ ตามห้างเซ็นทรัลในต่างจังหวัด จัดงานโอท็อปขายสินค้าที่สกลนคร ที่บิ๊กซี ทำมานานแล้ว ลงทุน 5-6 ล้าน ของอายเงินเนตๆเกือบ 3 ล้านที่เหลือเป็นของพี่สาวอาย ของคุณป้า ครอบครัวอายแล้วของเพื่อน โดนโกงไปประมาณ 6 ล้าน แต่มูลค่าธุรกิจที่ลงทุนเสียทั้งเวลาและกำไร ก็ราวๆ 10 ล้านได้ คนที่โกงไปเขาบอกอายว่าเอาเงินไปลงทุนทำงานตัวนี้ จริงๆ ถ้าอาย ไม่ได้ถ่ายละครก็แบ่งสาขาไปแยกกันไปทำ อายมองเป็นเรื่องของธุรกิจ ทีนี้เราก็ไว้ใจ โดยไม่มีการทำสัญญาอะไร แต่ด้วยความที่เราทำกับน้าคนนี้มา สัก 3-4 ปี มันก็อยู่ในหมู่คนสนิทกันอะไรอย่างนี้ เชื่อใจ ไม่คิดว่าเขาจะมาทำเรา มันเป็นบทเรียนที่แบบว่าทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ต้องมีสัญญา แม้กระทั่งการที่เราให้เงินเพื่อนไป 20% เราก็ต้องทำสัญญา”
โดนโกงครั้งนี้เป็นจุดตกต่ำที่สุดในชีวิตเลยมั้ย “คือเราไม่รู้จะหาเงินไปใช้หนี้ได้ทันยังไง อายตัดสินใจมาหาเงินกลับคืนมาเองโดยช่วงนี้ถ่ายละครเรื่องหนึ่ง แต่มันไม่ต้องเร่งเหมือน สงครามนางงาม ที่แบบเป็นโปรเจ็คที่แบบถ่ายไปออนไป ช่วงนั้นชีวิตแย่มาก เครียดมาก จะเริ่มยังไงเพราะขาดทุน หมดตัว เงินเก็บเราก็อยู่ตรงนั้นไปแล้ว เงินถ่ายละครก็ยังไม่ออก ทีนี้เลยกลายเป็นว่าเราก็หันมาทำธุรกิจเอง เริ่มเองไม่ให้ใครทำแล้ว เริ่มต้นใหม่เองทุกอย่าง จัดเป็นงานออแกไนซ์พื้นที่ขายของขึ้นมา มีดารามาลงบูทแล้วมีแม่ค้าในไอจีที่แบบมีสินค้า สนใจมาลงบูทกับเรา”
จริงๆเป็นหนี้มาน่าจะช่วยกันรับผิดชอบ “แบบเพื่อนที่รู้จักเขาเอาเงินมาลงทุนด้วย เค้าถามอายว่า ธุรกิจที่เราทำมันเวิร์คไหม อายก็แนะนำว่ามันโอเคนะ ที่ผ่านมาไม่มีอะไร แต่มันก็คือการลงทุนร่วมกัน อายเองก็ยินดีที่จะให้เพื่อนมาทำร่วมกัน แต่พอมันขาดทุนโดนโกง เขาต้องหาวิธีการเอาเงินคืน แต่ทุกคนก็รู้ว่าอายไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พอเขามองว่าในเมื่ออายรับผิดชอบ 20% ได้ เราน่าจะมีกำลังไหวมากกว่านั้น เขาควรจะได้มากกว่านั้นมั้ย 20% เพราะมันไม่ยุติธรรม ถามกลับว่าไม่ยุติธรรมแล้วอายได้อะไรกลับ ในเมื่ออายขาดทุนไปแล้ว อายไม่ได้อะไรสักบาทแถมต้องมาเป็นหนี้ ให้กับเพื่อนๆตัวเอง ลงทุนกับเพื่อนๆหลายคน เคลียร์หนี้จบไปแล้ว 2 คนแต่จริงๆเหลือแค่คนเดียวด้วยซ้ำที่ยังฟ้องเราอยู่ เขาอยากได้เงินทุนต้นคืน บางคนก็มี 4 แสน บางคนก็ 8 แสน บางคนก็ 3 แสน คือแบบมีจะขู่มาเราที่บริษัทแต่ อายก็คุยกับผู้จัดการหมดแล้วเรื่องนี้”
“การรับสภาพหนี้มันน่าจะถูกในแง่ความรู้สึก แต่คนเรามันไม่ได้พอตรงที่ 20% กลายเป็นว่าจะเอามากกว่านี้ คือตัวอายเองมองว่าเราก็มีส่วนที่เราเองสแกนคนที่มาทำงานให้ไม่ดี ในความรู้สึกมันรู้สึกไม่ดี แต่ในแง่ของกฎหมายหรืออะไรก็แล้วแต่ เราไม่ต้องให้อะไรเลยก็ได้ แต่เราไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกว่าพาเขามาขาดทุน”
แล้วตอนนี้คนที่โกงเงินไปเขาว่ายังไงบ้าง “คนที่โกงไปบอกว่าไม่มีอย่างเดียว ไม่มีไม่หนีไม่จ่าย ซึ่งทางอายกำลังให้ตำรวจดำเนินคดี เรียกมาแล้วสองรอบยังไม่ออกมา ไม่เป็นไรกำลังจะมีการจับกุมแล้ว คงต้องหามมาคุยกันที่โรงพักแล้วว่ายังไง เราไม่รู้ว่าเขาเอาเงินไปไหน คืออายก็นิ่งมานานเพราะมองว่าเขาก็คงกู้มาคืนได้ หรือเขาก็คงทำอะไรได้แล้วก็คงเอาเงินมาคืนเรา เราจะได้เอาเงินตรงนี้ไปเคลียร์คนอื่นเพราะเรารับสภาพหนี้ไปแล้วนิ สุดท้ายกลายเป็นว่าเราต้องรับแทนทุกอย่างเลย มันไม่ยุติธรรมกับเราเหมือนกัน อายเลยมองว่าเป็นเรื่องกรรมเก่าแล้วกัน งั้นเราก็เริ่มต้นใหม่ ในการทำใหม่เราก็สามารถทำเองได้นี่หว่า”
เจอปัญหาชีวิตหนักแบบนี้ รู้สึกยังไงบ้าง “ตอนนั้นหนูเครียดมากแล้วไม่มีเวลาทำอะไรเพราะเอาเวลาไปถ่ายละคร ต้องเรียนการแสดงอีก ช่วงนั้นละครถ่ายไปออนไปซึ่งหนักนะที่บ้านแม่ก็เสียใจร้องไห้ เราก็ร้องไห้ เขากลัวเป็นห่วงเราแต่ด้วยความที่ถ้าไม่มีแม่ เราก็ต้องรับผิดชอบแม่ไงค่ะ มีแม่มีน้อง คือถ้าเราไม่ต้องรับผิดชอบแม่ บางทีอายคงต้องยอมแพ้กับตรงนั้นไป ยอมที่แบบจะไม่สู้แล้ว! เหนื่อย! แต่เพราะมีเขาเราไม่สู้ไม่ได้ (น้ำตาเริ่มไหล) อายเลยรอให้อะไรมันคลี่คลายไปกว่านี้ เราก็ค่อยๆเคลียร์ไป เริ่มต้นไป เพราะแม่หนูป่วยมา 20 ปีแล้ว และจะผ่าตัดภายในช่วงปีนี้ ถ้าผ่าตัดมันจะมีโอกาสหายมากกว่าการรักษาในปัจจุบัน คุณแม่ป่วยเป็นโรคลมชัก เป็นตั้งแต่แม่อายอยู่ในท้อง ตั้งแต่เด็กๆ คือคุณพ่อกับคุณแม่เขาแยกกันนานแล้ว ช่วงที่เขาแยกกันอายอยู่หนองคายกับคุณป้า ซึ่งเป็นเหมือนแม่คนที่สองที่เลี้ยงอายมา อายเพิ่งได้มาอยู่กับแม่ตอนที่อายเรียนจบแล้ว มัธยมปลายจะเข้ามหาลัย มาดูแลเขาจะได้อยู่ใกล้กันมากขึ้นก็ดันมาโดนโกงอีก แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดี คืออายได้งานละครในเอ็กแซ็กท์ มีงานละครเข้ามา ก็เหมือนฟาดเคราะห์อะไรไป”
ตอนนี้ยังกดดันอยู่มั้ยกับปัญหาที่เกิดขึ้น “คืออย่างที่บอกตอนนั้น กดดัน เครียดมาก ยังโชคดีที่ได้กำลังใจจากคุณพ่อ ซึ่งป้าที่เลี้ยงเรามาก็คือพี่สาวคุณพ่อ คุณพ่อก็ไม่ได้ทิ้งเรา ตอนแรกอายบอกเลยนะว่า อายยอมให้เขาฟ้อง อายไม่ได้ทำอะไรผิดอายยอม เลยรู้ว่าพ่อตัวเองก็รักเรา ตอนนี้ก็เหลือหนี้พี่สาวที่เราทยอยให้ แต่อายจะให้คนที่เขาโกงเราติดคุกก่อนแล้วจะหาเงินมาปิดหนี้ให้จบ เงินก้อนจากการจัดออแกนไนซ์นี่แหละค่ะ”
บทเรียนราคาแพงที่เกิดขึ้นให้อะไรกับเราบ้าง “เรื่องของความไว้ใจสำคัญมากคะ คือถ้าเราไว้ใจใครเราจะมองข้ามทุกอย่างไปหมด มองไม่เห็นข้อผิดพลาดที่มันจะกลับมาเลย แม้กระทั่งเรื่องเอกสารสัญญา แม้กระทั่งการที่เราให้เงินใครไปมันต้องมีสัญญา แล้วความสัมพันธ์กับเพื่อน คนที่เราเคยดีด้วย แต่พอวันหนึ่งเกิดปัญหามาเราจะกลายเป็นคนเลวไปเลยในสายตาเขาถ้ามันมีเรื่องเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง ต่อไปนี้อายไม่กล้าแล้วละค่ะที่จะมีเรื่องหุ้นส่วนหรืออะไรกับใคร อายเลยตัดสินใจทำเอง เพราะอายมีเพื่อนที่ดีและรุ่นพี่ที่แบบช่วยเหลือในเรื่องของงาน เรื่องของแม่ค้า นักแสดงที่จะมาช่วยแจมกับอายในงานที่เราจัดขึ้นมา” เกิดเรื่องแย่ๆในชีวิตแบบนี้คงต้องการกำลังใจ ยังไงก็ฝากไปให้กำลังใจสาวอายได้ ในไอจี :warapairin นะจ้ะ
ขอบคุณข่าวจาก www.wow2mouth.com
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ