“วิษณุ” ชี้ปมถวายสัตย์อยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะยื่นเรื่องให้ศาลปกครองหรือศาล รธน. ระบุระหว่างนี้ “นายกฯ” มีสิทธิไม่ตอบ ขั้นชี้แจง ต้องรอชี้ชัดถามใคร นายกฯหรือรัฐบาล หวั่นเสียเหลี่ยม ถ้าตอบว่าไม่ทราบ หลังถูกถามผลออกมาแง่ลบ จะทำอย่างไร
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 สิงหาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ไปตอบกระทู้ที่สภาตามข้อบังคับการประชุม สามารถทำได้หรือไม่ ว่า ถ้่าเป็นกระทู้สดหรือกระทู้ต่างๆ ในข้อเท็จจริงก็ควรไปเอง แต่ถ้าติดภารกิจไปไม่ได้ก็ต้องแจ้งต่อสภา กระทู้ดังกล่าวก็จะถูกงดไว้ ไม่มีการถาม เว้นแต่จะมอบหมายให้คนอื่นไปตอบแทน ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงแล้วว่าถ้ามีการถามในเรื่องดังกล่าว เรื่องนี้ขั้นตอนอยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีการถามกระทู้ในวันดังกล่าว ก็ถือว่ากระทู้นั้นตกไป แต่วันหลังสามารถถามใหม่ได้อีก
เมื่อถามว่า ขั้นตอนเมื่อเรื่องดังกล่าวอยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ในการพิจารณา นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ได้ยินว่าทางผู้ตรวจการฯจะใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ ส่วนผู้ตรวจการแผ่นดินจะพิจารณาส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เรื่องนี้ต้องไปถามผู้ตรวจการแผ่นดินเอง
“ที่มีใครต่อใครไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็เพื่อให้มีคำวินิจฉัยออกมาว่าถ้า 1.สามารถวินิจฉัยเองได้ ก็แล้วไป แต่ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัยยาก ก็ต้องส่งไปยังองค์กรที่มีอำนาจวินิจฉัย เพราะผู้ตรวจการแผ่นดินไม่มีอำนาจในส่วนนี้ ปัญหาอยู่ที่จะส่งเรื่องไปที่ศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ต้องไปถามผู้ตรวจการแผ่นดินเองว่ามีอำนาจในการพิจารณาวินิจฉัยอย่างไร ส่วนที่พูดว่าอาจส่งเรื่องให้ศาลปกครองวินิจฉัยนั้น ก็เนื่องจากว่าเพราะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเรื่องนี้ควรไปศาลไหน ทั้งนี้ ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจส่งเรื่องได้ทั้งศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ แล้วแต่รูปเรื่อง ถ้าเป็นเรื่องที่มีการขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ต้องส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเป็นประเด็นของการขัดกฎหมายแม่ กฎหมายธรรมดา หรือเป็นการปฏิบัติที่ขัดต่อกฎหมายหรือพระราชบัญญัติฉบับใดฉบับหนึ่ง ก็ต้องส่งเรื่องไปยังศาลปกครอง จะส่งไปศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ ส่วนเรื่องนี้จะส่งไปศาลไหน ก็อยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดินวินิจฉัย” นายวิษณุกล่าว
เมื่อถามว่า กรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ นายกฯจำเป็นต้องไปชี้แจงด้วยตัวเองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คงต้องขอดูญัตติก่อน การยื่นญัตตินั้นสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 คือการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ใครโดนญัตตินี้อย่างไรก็ต้องไป แต่ถ้าเป็นญัตติการเปิดอภิปรายทั่วไป สอบถามปัญหาข้อเท็จจริง ถ้าเกี่ยวพันกับใครหรือใครรู้ ก็จะต้องไปตอบ เรื่องนี้ไม่ใช่การมอบหมาย แต่เป็นการถามรัฐบาล ดังนั้น รัฐบาลจะมอบหมายให้ใครไป นั่นก็คือรัฐบาลอยู่แล้ว ทั้งนี้ การยื่นญัตติทั้งสองอย่าง สามารถทำได้ครั้งเดียวในรอบ 1 ปี คือ 365 วัน ขณะที่ทาง ส.ว.ก็สามารถยื่นได้
เมื่อถามว่า ในขณะที่เรื่องอยู่ที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน นายกฯไม่ควรตอบหรือชี้แจงในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ข้อเท็จจริงตนไม่ทราบ แต่ได้ยินมาว่า มีการยื่นเรื่องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน และอีกฝ่ายหนึ่งไปยื่นต่ออัยการสูงสุด โดยข้อหาที่ต่างกัน แต่เป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน แต่รัฐบาลยังไม่ได้รับเรื่องเหล่านี้ และยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เมื่อถามว่า แสดงว่าถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินหรืออัยการสูงสุดรับเรื่องไว้แล้ว รัฐบาลต้องไปชี้แจงใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวยอมรับว่าใช่ ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้าตัวว่าจะไปหรือไม่ไป ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ตอบตรงนี้ ตนขอไม่ตอบและไม่มองในเรื่องนี้เพราะไม่มีความเห็น ส่วนที่ฝ่ายค้านต้องการให้เรื่องดังกล่าวเป็นขั้นตอนของสภาในการพิจารณานั้น ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องเหล่านี้มีช่องทางอยู่แล้ว และในเรื่องดังกล่าว รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพูดคุยหารือกับผู้ตรวจการแผ่นดิน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำ
เมื่อถามว่า ถ้าผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องมา ผู้ชี้แจงควรเป็นนายกฯหรือรัฐบาล นายวิษณุกล่าวว่า อยู่ที่ว่าจะถามใคร อย่างคราวที่แล้ว ถามในเรื่องคุณสมบัติเรื่องคำว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการถามนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องเป็นผู้ตอบเอง ครั้งนี้ก็อยู่ที่ว่าทางผู้ตรวจการแผ่นดินจะถามมาที่ใคร เพราะวันนี้ยังไม่เห็นตัวคำร้องเลย ถ้าเป็นการถามมายังรัฐบาล นายกฯก็สามารถให้ผู้แทนตอบแทนรัฐบาลได้ แต่ถ้าถามนายกฯ ก็ต้องตอบโดยนายกฯ และเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ปรึกษาอะไรกับตน และยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีการรับเรื่องแล้วหรือยัง
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สรุปว่ามีการยื่นเรื่องและรับเรื่องจากผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างเป็นทางการแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนก็เห็นจากข่าว มีบุคคลให้สัมภาษณ์แล้ว ซึ่งสื่อรู้ดีกว่าตน ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรลึกลับ แต่ตนไม่ทราบในเรื่องดังกล่าว เห็นแต่ข่าว แต่เห็นนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย บอกว่ายื่นแล้ว อีกทั้ง เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินก็ออกมาให้สัมภาษณ์ทำนองว่ารับไว้แล้ว จึงไม่ต้องสงสัย
เมื่อถามว่า แสดงว่าขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ไม่ต้องระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งนายกฯใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คงจะต้องใช่ เพราะยังไม่มีคำวินิจฉัยอะไรออกมา ท่านก็สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ สามารถดูได้ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ทำอะไรมาแล้วบ้าง
เมื่อถามว่า ถ้าคำวินิจฉัยออกมาในทางลบ จะทำอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า “ไม่ทราบ ขอเป็นไม่ตอบดีกว่า ถ้าบอกว่าไม่ทราบเดี๋ยวจะเสียเหลี่ยม ถึงแม้ไม่ทราบจริงก็ไม่ควรตอบว่าไม่ทราบ เพราะมันเสียเหลี่ยม”
เมื่อถามว่า การยื่นไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะมีผลดีหรือไม่ดีต่อนายกฯ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่กล้าตอบ แต่ไม่เป็นปัญหาอะไร อีกทั้งใครจะไปยื่นเรื่องเหล่านี้ก็ได้ และความจริงผู้ร้องที่ร้องไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็ไม่ได้ต้องการให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้วินิจฉัย แต่ต้องการใช้เป็นเส้นทางผ่านไปยังองค์กร เพราะผู้ร้องไม่สามารถยื่นเองได้ ขณะเดียวกีน เขาสามารถยื่นเองได้ผ่านช่องทางอื่นแต่ต้องเปลี่ยนข้อหา ทั้งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรืออัยการสูงสุด ส่วนกรอบเวลามีการกำหนดไว้อยู่แล้วว่าต้องวินิจฉัยเมื่อไหร่อย่างไร แต่ไม่ได้ตายตัว และที่ผ่านมา บางกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินรับเรื่องไว้แล้ววินิจฉัยโดยไม่ส่งเรื่องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญก็เคยมี หรือผู้ตรวจการแผ่นดินจะไม่รับก็ได้ โดยบอกว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอ แต่อย่าเพิ่งไปตีตนก่อนไข้ว่าจะไปถึงขั้นนั้น รอดูแล้วกัน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ